9 นิสัยตอนเช้าทำทุกวัน ช่วยเปลี่ยนชีวิตของคุณอย่างแน่นอน

ก้าวเข้าสู่ปีใหม่ 2567 หลายคนคิดว่าจะทำให้ชีวิตของตัวเองมีความเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น ทั้งมีสุขภาพดี มีความสุข และทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ และแน่นอนเราเคยเห็นบทความหรือเรื่องราวมากมายเกี่ยวกับกิจวัตรประจำวันของคนที่ประสบความสำเร็จ แล้วอดคิดไม่ได้ว่า "ฉันทำอะไรผิดไป" แต่แท้จริงแล้วไม่มีอะไรผิดเลย เพราะกิจวัตรตอนเช้าไม่ได้เป็นสูตรสำเร็จที่ใช้ได้กับทุกคน แต่อย่างไรก็ตาม ยังมีนิสัยเล็กๆ น้อยๆ ที่เราสามารถนำไปปรับใช้ เพื่อให้วันนั้นของเราประสบความสำเร็จมากขึ้น มาดู 9 นิสัยตอนเช้าที่จะเปลี่ยนชีวิตของคุณกันดีกว่า

9 นิสัยตอนเช้าที่จะเปลี่ยนชีวิต

1.วางนาฬิกาปลุกไว้ไกลๆ จะช่วยให้คุณลุกออกจากเตียงได้ง่ายขึ้น ลองนึกภาพดูสิ ถ้าคุณอยากหยุดปลุกนาฬิกา คุณต้องลุกขึ้น เดินไปหยุด และอาจจะได้ยืดเส้นยืดสายไปในตัว แค่นี้ก็เป็นการเริ่มต้นกิจกรรมเบาๆ ตอนเช้าได้แล้ว เคล็ดลับนี้อาจจะไม่เหมาะกับทุกคน โดยเฉพาะคนที่ตื่นยากมาก ๆ แต่อาจจะเป็นตัวช่วยที่ดีสำหรับคนที่อยากลุกขึ้นจากเตียงเร็วขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งการกด snooze บ่อย ๆ ค่ะ

2.อ่านหนังสือตอนเช้า เป็นนิสัยที่ยอดเยี่ยมเลย! ไม่ว่าจะเป็นหนังสือพัฒนาตัวเอง ชีวิตชีวา หรือแม้แต่ชีวประวัติดาราคนโปรด การอ่านหนังสือตั้งแต่ตื่นนอน ช่วยเติมเต็มความรู้ สร้างแรงบันดาลใจ ให้เราอยากลงมือทำอะไรดี ๆ ต่อไปตลอดวัน งานวิจัยหลายชิ้นยังบอกด้วยว่า การอ่านหนังสือช่วยเสริมสร้างความคิดสร้างสรรค์ เพิ่มพูนความรู้ อันส่งผลต่อทั้งวันของเราเลยทีเดียว ถ้าใครยังไม่มีนิสัยอ่านหนังสือตอนเช้า ลองเริ่มจาก 15-30 นาทีก็ได้นะ เลือกเนื้อหาที่เราสนใจ อ่านในบรรยากาศเงียบ ๆ แค่นี้ก็เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ที่ดี ๆ ได้แล้วค่ะ

3.การจัดเตียง อาจดูเหมือนเป็นเรื่องเล็กน้อย แต่แค่เริ่มต้นวันใหม่ด้วยการจัดเตียงให้เรียบร้อย แค่นี้ก็ส่งผลดีต่อทั้งวันได้แล้วนะ

• รู้สึกดีกับตัวเอง: การได้เห็นเตียงที่เรียบร้อยสวยงามตั้งแต่เช้า ช่วยให้รู้สึกภูมิใจในตัวเองเล็กๆ น้อยๆ เหมือนทำอะไรสำเร็จไปหนึ่งอย่าง เป็นการเริ่มต้นวันใหม่ด้วยพลังบวกค่ะ

• ลดโอกาสกลับไปนอน: เตียงที่เรียบร้อยชวนให้น่าอยู่น้อยกว่าเตียงที่ยับย่น แถมยังทำให้ห้องดูสะอาดตา น่าอยู่อีกด้วย

• เพิ่มเวลาตอนเช้า: ใช้เวลาแค่ไม่กี่นาทีจัดเตียงให้เรียบร้อย แต่สามารถประหยัดเวลาในการจัดห้องตอนเช้าได้เยอะเลยนะคะ

4.การวางแผนล่วงหน้า ถือเป็นสิ่งสำคัญมาก เหมือนกับการสร้างบ้าน เราต้องมีแปลนที่ชัดเจนก่อนลงมือปฏิบัติ การมีตารางประจำวัน จะช่วยให้เราโฟกัสกับสิ่งสำคัญ และไม่รู้สึกเครียดไปตลอดทั้งวัน

วิธีการวางตารางประจำวันตอนเช้า:

1. ลิสต์สิ่งที่อยากทำ: เขียนรายการสิ่งที่อยากทำทั้งเรื่องงาน เรื่องส่วนตัว ลงไปในลิสต์ ไม่ว่าจะเยอะแค่ไหนก็เขียนไปก่อน

2. จัดลำดับความสำคัญ: พิจารณาลำดับความสำคัญของแต่ละข้อ ว่าอันไหนควรทำก่อน ทำหลัง ไล่เรียงไปจนครบ

3. กำหนดเวลา: กำหนดเวลาคร่าวๆ ว่าแต่ละงานจะใช้เวลานานแค่ไหน พยายามให้เป็นไปได้จริง ไม่เครียดตัวเองเกินไป

4. ยืดหยุ่นได้: จำไว้ว่าแผนสามารถปรับเปลี่ยนได้ เตรียมเผื่อเวลาไว้เผื่อมีเหตุการณ์ไม่คาดฝัน

5.การเปิดหน้าต่างตอนเช้า เป็นวิธีปลุกพลังที่ดีเยี่ยม โดยเฉพาะสำหรับคนที่ทำงานที่บ้าน แค่เปิดรับแสงธรรมชาติและลมธรรมชาติเข้ามาในห้อง สักแป๊บเดียวก็รู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า พร้อมลุยกับงานตลอดทั้งวันได้แล้ว

นี่คือข้อดีของการเปิดหน้าต่างตอนเช้า:

• รับแสงธรรมชาติ: แสงแดดอ่อนๆ ตอนเช้า ช่วยปรับสมดุลฮอร์โมนในร่างกาย ทำให้คุณรู้สึกสดชื่น กระปรี้กระเปร่า และมีพลังงานมากกว่าเดิม
• สูดอากาศบริสุทธิ์: ลมจากธรรมชาติ ช่วยให้การไหลเวียนของเลือดดีขึ้น ส่งผลดีต่อทั้งร่างกายและสมอง
• ลดความเครียด: เสียงนกร้อง เสียงใบไม้ ช่วยให้รู้สึกผ่อนคลาย ลดความเครียด และเพิ่มสมาธิ
• บรรยากาศชิลๆ : ห้องที่มีลมพัดผ่าน สว่างสดใส ยิ่งอยู่ยิ่งสบาย แถมยังกระตุ้นแรงบันดาลใจอีกด้วย

6.การดื่มน้ำและออกกำลังกายตอนเช้า เป็นนิสัยดีๆ ที่ส่งผลดีต่อทั้งสุขภาพกายและสุขภาพจิต ดื่มน้ำแก้วโตๆ ทันทีหลังตื่นนอน จะช่วยกระตุ้นระบบขับถ่าย ปรับอุณหภูมิร่างกาย และทำให้สดชื่น กระปรี้กระเปร่า

ส่วนการออกกำลังกาย แม้บางคนอาจยังไม่คุ้นชินกับการออกกำลังกายหนักๆ ตอนเช้า แต่แค่ขยับร่างกายเบาๆ อย่างน้อย 15-30 นาที เช่น

• ยืดเหยียดคลายเส้น
• เดินรอบๆ บ้าน
• ปั่นจักรยานออกไปสูดอากาศบริสุทธิ์
• โยคะเบาๆ

7.ตื่นนอนเวลาเดิมทุกวัน ไม่ได้หมายถึงการงัดตัวเองออกจากเตียงตอนตีห้าหรอกนะคะ สำคัญอยู่ที่การค้นหาจังหวะเวลามาตรฐานที่ลงตัวกับร่างกายและวิถีชีวิต เมื่อปรับใช้สักพัก ร่างกายก็จะกลายเป็นนาฬิกาปลุกธรรมชาติ ปลุกเราตื่นได้โดยไม่ต้องพึ่งเสียงกรีดร้องของนาฬิกาปลุกอีกต่อไป

การมีกิจวัตรประจำวันเปรียบเหมือนการสร้างจังหวะให้ร่างกาย ส่งสัญญาณให้รู้ว่าเมื่อไหร่ถึงเวลานอน เมื่อไหร่ถึงเวลาตื่น เวลาตื่นที่คุณเลือกควรเป็นเวลาที่ไม่ทำให้ชีวิตชุลมุนวุ่นวาย การลุกออกจากเตียงแล้วต้องรีบแต่งตัวออกไปทำงาน แค่นั้นก็สร้างความเครียดสะสมตั้งแต่เช้าวันแล้ว เลือกเวลาที่ทำให้มีเวลาเตรียมตัวพอประมาณ จะได้เริ่มต้นวันใหม่ด้วยความสบายใจและมีสติพร้อมลุยกับงาน

ลองนึกภาพสิ อากาศยามเช้าเย็นสบาย แสงแดดอ่อนๆ เคล้าผ่านผ้าม่าน ลมพัดเอื่อยๆ พาเสียงนกรร้องมาให้ชื่นใจ ใช้เวลานั้นดื่มกาแฟหอมกรุ่น อ่านหนังสือเล่มโปรด หรือยืดเหยียดร่างกายเบาๆ แค่นี้ก็เป็นการเติมพลังที่ดีเยี่ยมก่อนออกไปเจอโลกกว้างแล้ว

8.ทานมื้อเช้า มื้อเช้าเปรียบเหมือนเชื้อเพลิงชั้นดีที่จะจุดพลังงานให้ร่างกายเราทั้งวัน ลองนึกภาพสิว่ารถยนต์คันสวยจะวิ่งทะยานไปได้ไกลแค่ไหนถ้าไม่มีน้ำมัน วิ่งได้แป๊บเดียวก็ต้องดับสนิท ร่างกายเราก็เช่นกัน จะทำงานอย่างมีประสิทธิภาพ คิดอะไรก็ปลิวไหว ร่างกายก็ต้องได้รับสารอาหารดีๆ ตั้งแต่เช้า

9.ละทิ้งโลกโซเชียล วางสมาร์ทโฟนไว้ชั่วคราว แทนที่จะปล่อยนิ้วรัวหน้าจอตั้งแต่เช้าตรู่ ลองหันมาทักทายแสงพระอาทิตย์ ดื่มด่ำกับมื้อเช้าแสนอร่อย และวางแผนวันใหม่ให้รังสรรค์ดูบ้าง การปล่อยวางจากโทรศัพท์สักระยะในตอนเช้า ไม่เพียงช่วยให้โฟกัสกับกิจวัตรประจำวันมากขึ้น แต่ยังมอบความสงบสุข ช่วยให้เรารู้สึกผ่อนคลาย และพร้อมรับมือกับความท้าทายตลอดทั้งวันได้ดียิ่งขึ้น ลองนึกภาพสิว่า แทนที่จะจมอยู่ในข่าวสารล้นเฟซบุ๊ก เราได้ลิ้มรสกาแฟหอมกรุ่น สนทนากับคนข้างกาย หรือจดบันทึกเป้าหมายของวันนี้อย่างตั้งใจ นี่ต่างหากที่จะเป็นเชื้อเพลิงชั้นดี เติมพลังให้วันของคุณสดใสและประสบความสำเร็จ