"The Road to Net Zero" บ้านอัจฉริยะเพื่อการใช้ชีวิตที่ยั่งยืน
การพัฒนาอสังหาริมทรัพย์เพื่อการอยู่อาศัยที่เหมาะสมสำหรับปี 2567 ยังคงมีความท้าทายสำหรับดีเวลลอปเปอร์อย่างต่อเนื่อง ท่ามกลางเศรษฐกิจที่แม้จะฟื้นตัวจากปี 2566 แต่ยังคงเปราะบางจากหนี้ครัวเรือนที่ยังคงอยู่ระดับสูง อัตราดอกเบี้ยที่แพง
ขณะเดียวกันยังต้องสอดรับกับกติกาโลกและความต้องการของผู้บริโภคที่มุ่งดูแลปัญหาสิ่งแวดล้อมมากขึ้น โดยเฉพาะการลดการปล่อยก๊าซเรือนกระจกเพื่อรับมือกับภาวะโลกร้อนที่กำลังก้าวสู่ภาวะโลกเดือด
แนวคิด “Made From Her" ของเสนา มีที่มาจากความละเอียดของผู้หญิง ที่คิดรอบคอบและคิดเผื่อคนอื่น สู่การออกแบบที่อยู่อาศัยที่ใครอยู่ก็ Happy
จนปัจจุบันการพัฒนาที่อยู่อาศัยของเสนาได้ถูกต่อยอดการพัฒนาแบบคิดละเอียดแบบผู้หญิงในทุกมิติ สู่ “Made From Her In Sustainable Way” โดยเฉพาะด้านสิ่งแวดล้อม และในปี 2567 จะยิ่งตอกย้ำถึงคุณภาพที่จะได้รับจากแนวคิดแบบละเอียดที่เสนาคิดไว้ให้แล้วสำหรับผู้บริโภค เพื่อตอบโจทย์ความยั่งยืนของชีวิตที่แท้จริงนั่นคือชีวิตแบบโลว์ คาร์บอน
“เคยมีคนถามว่าอีก 10 ปีข้างหน้าเสนาจะเป็นอย่างไร ซึ่งก็ไม่มีใครรู้หมือนกันว่าอีก 10 ปีข้างหน้าผู้บริโภคจะชอบบ้านแบบไหน การที่เสนามี DNA แบบ Made From Her ทำให้รู้ว่าสิ่งที่เสนาควรทำในเวลานั้นคืออะไร เพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้าที่มีการเปลี่ยนแปลงตามยุคสมัย ดังนั้นเราไม่ได้ทำบ้านแค่ว่าบ้านสีเขียว แต่โจทย์ของเราคือทำอย่างไรให้ผู้บริโภคได้ใช้ชีวิตแบบ Sustainable เพื่อร่วมกันรับผิดชอบให้โลกนี้มันดีขึ้นจริงๆ” ผศ.ดร.เกษรา ธัญลักษณ์ภาคย์ กรรมการผู้จัดการเสนา กล่าว
ผศ.ดร.เกษรา สะท้อนมุมมองให้เห็นว่าปี 2567 State ของการพัฒนาอสังหาฯ เข้าสู่จุดที่ยากขึ้นทั้งแง่ผู้ซื้อและผู้ขาย โดยแง่ผู้ซื้อตัดสินใจยากขึ้น เพราะต้นทุนทุกอย่างแพงโดยเฉพาะดอกเบี้ยซื้อบ้าน ขณะที่บ้านที่เสนาขายต้นทุนสินค้าก็ขึ้นเกือบทุกตัว เสนาจึงพยายามที่จะลดต้นทุนจากสิ่งที่เราเห็นว่ายังไม่มีประสิทธิภาพเพื่อทำให้สามารถขายสินค้าที่ลดลงได้โดยการที่ไม่ไปลดสิ่งที่ต้องให้กับผู้บริโภค ซึ่งก็หมายถึงมุ่งเน้นการปรับปรุงในเชิงคุณภาพควบคู่ไปกับการเติบโต และที่จะเน้นมากขึ้นคือการนำความยั่งยืน (Sustainability)เข้ามาใส่ในที่อยู่อาศัย
อีกหนึ่งจุดที่เริ่มต้นของการคิดละเอียดเพื่อสิ่งแวดล้อม คือช่วงเวลาที่เสนาทำบ้านประหยัดพลังงาน บ้านโซลาร์ และล่าสุดบ้านพลังงานเป็นศูนย์ หรือ Zero Energy House (ZEH) ที่พัฒนาทั้งโครงการโดยนำแนวทางการพัฒนาเมืองอัจฉริยะ (Smart City) มาใช้เพื่อลดคาร์บอน รวมถึงการพัฒนาคอนโดโลว์ คาร์บอน
พร้อมกับร่วมมือพันธมิตรจากญี่ปุ่นสู่การนำแพลตฟอร์ม “Zeroboard” มาวัดผลลัพธ์การปล่อยคาร์บอนที่พิสูจน์ได้ชัดเจนว่า บ้านของเสนาที่นำระบบต่างๆ ในการประหยัดพลังงานมาติดตั้งจะลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนได้อย่างมาก และยังมองไปถึงการลดของเสียต่างๆ นี่คือจุดต่างที่จะส่งเสริมยอดขายให้กับเสนาทำให้ปี 2567 เสนาจึงมุ่งเน้นการพัฒนาโครงการในแนวดิ่งมากกว่าแนวราบตามแนวทางรถไฟฟ้าสายหลักๆ โดยให้ความสำคัญการพัฒนาที่มุ่งหวังในเชิงคุณภาพมากกว่าเชิงปริมาณ
“เสนาฯ ได้พัฒนาโครงการบ้านโซลาร์มาอย่างต่อเนื่อง ซึ่งปัจจุบันมีไม่ต่ำกว่า 1,000 หลัง และยังเดินหน้าพัฒนาในทุกโครงการ เชื่อว่าในการพัฒนาแบตเตอรี่ที่มีประสิทธิภาพ มีราคาที่เหมาะสมจะเกิดขึ้นอย่างแน่นอน หากนำมาใช้ติดตั้งภายในบ้านแล้วจะเกิดความคุ้มค่า ทำให้ลูกบ้านสามารถผลิตไฟฟ้าเพื่อใช้ภายในบ้านแล้ว ยังมีไฟฟ้าส่วนเกินเหลือที่สามารถนำมากักเก็บไว้ในแบตเตอรี่ จะเป็นประโยชน์กับลูกบ้าน นับเป็นหนึ่งในเทคโนโลยีที่สำคัญ และในอนาคตจะมีเทคโนโลยีอื่นเข้ามาสนับสนุนอีกมาก เพราะไทยมีการพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายหรือ S-Curve ที่มีศักยภาพสูงอีกจำนวนมาก และแม้ว่า ขณะนี้ไทยยังไม่มีการเปิดขายไฟฟ้าเสรี หากนโยบายรัฐบาลมีการเปลี่ยนแปลง ก็จะส่งผลดีให้เกิดตลาดซื้อขายไฟฟ้าที่ใหญ่ขึ้นอีก”
อีกหนึ่งการพัฒนาธุรกิจของ “เสนา” ที่พัฒนาบ้านที่อยู่อาศัยที่ไม่ใช่แค่ บ้านสีเขียว แต่เป็นบ้านรักษ์โลก ส่งเสริมการใช้ชีวิตแบบยั่งยืน หรือ Sustainable Living เพราะบ้านจะอยู่คู่กับคนเรานานนับ 20-30 ปี และยังสอดรับกับเป้าหมายต่อไปด้านความยั่งยืนของของเสนา หรือ The Road to Net Zero
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.