รู้จัก “โฟลว์ ปิยวัฒน์ ” เจ้าของ FLOWDESIGN ผู้รังสรรค์ช่อดอกไม้นางงามระดับจักรวาล

ดอกไม้ กับ นางงาม ถือเป็นของคู่กันที่ขาดไม่ได้ ปัจจุบันเทรนด์ของช่อดอกไม้ที่อยู่ในมือนางงาม ได้ดึงดูดความสนใจและเป็นสิ่งที่แฟนนางงามรอลุ้นชมความงดงามไม่น้อยไปกว่ามงกฎ สายสะพาย หรือถ้วยรางวัลที่นางงามจะได้รับ “โฟลว์ ปิยวัฒน์ มีไพฑูรย์” เจ้าของบริษัทรับจัดดอกไม้ FLOWDESIGN มีผลงานการจัดช่อดอกไม้นางงามทั้งในเวทีระดับประเทศและระดับโลกมาแล้วรวมกว่า  25 เวที  เขามองเห็นถึงคุณค่าของดอกไม้ที่คนทั่วไปมองว่าธรรมดา แต่เมื่อถูกรังสรรค์ให้เกิดความงามเพิ่มขึ้นนั้นจะช่วยส่งเสริมบุคลิกนางงามให้สง่างามสมมง และยกระดับช่อดอกไม้ให้ผู้ถือมีความภาคภูมิใจ ถือเป็นสัญลักษณ์ใหม่ให้แฟนนางงามได้ติดตาม

จุดเริ่มต้น ช่อดอกไม้นางงาม

มันเริ่มมาจากที่เราอยากจะยกระดับดอกไม้ อยากให้ผู้ที่ได้รับรู้สึกภูมิใจ ไม่ใช่รับเสร็จแล้ววาง แล้วก็ทิ้งไป ก็เลยมาคิดให้มันเป็นรูปแบบของงานศิลปะ เริ่มจากช่อแรกที่ทำให้ Miss International Queen ปี 2015 ซึ่งเป็นการประกวดนางงามสาวประเภทสองนานาชาติระดับโลก ตอนนั้นทำให้นางงามจากประเทศฟิลิปปินส์ โดยเราเอาไอเดียไปเสนอคุณจ๋า คือรู้จักกันส่วนตัวอยู่แล้ว ด้วยคุณจ๋าเขามีมุมมองที่ไม่ค่อยเหมือนคนทั่วไป คุยกันแล้วมันคลิก ก็ลองทำดู ต่อมาก็ได้ไปทำให้ Miss Thailand World เป็นช่อที่ 2  แล้วช่อที่ 3 ก็ตามมา คือ Miss Universe Thailand ปีของคุณน้ำตาล ชลิตา

อย่างตอนที่ทำให้ Miss International Queen ณ ตอนนั้น โจทย์ที่คุณจ๋าอยากได้ก็คือ หนึ่ง ต้องเป็นดอกกล้วยไม้สีขาว เพราะว่าส่วนหนึ่งแสดงถึงความเป็นไทย และก็อาจจะเป็นดอกไม้ที่คุณจ๋าชอบเป็นการส่วนตัว แล้วถ้าสังเกตดู Miss International Queen , Miss Tiffany Universe ไม่ว่าจะกี่ปี ดอกไม้หลัก ๆ ก็คือต้องมีดอกกล้วยไม้สีขาว แล้วเราก็คิดรูปแบบว่า ในหนึ่งปีนี้เราจะมาในโจทย์ไหน

ไอเดียการออกแบบที่นอกจากโจทย์เรื่องกล้วยไม้สีขาวแล้วมีอะไรเพิ่มเติมอีกบ้าง

ช่อนั้นน่าจะเป็นหงส์ เพราะเราก็อยากจะเปรียบอิริยาบทนางงามว่าเยื้องย่างงดงามเหมือนดั่งหงส์ และนอกจากกล้วยไม้สีขาวแล้ว ก็นำผ้ามาเย็บแบบ ใช้เวลาทำนาน 6 ชั่วโมง ซึ่งวิธีคิดงาน เราจะต้องสื่อสารให้คนเข้าใจได้ แบบมองปุ๊บ รู้เลย ไม่ต้องคิดซับซ้อน

ตีเป็นมูลค่าต่อชิ้นงานอย่างไร

ขึ้นอยู่กับรูปแบบ ความยากง่าย ลักษณะดอกไม้เป็นอย่างไร มูลค่าเริ่มต้นช่อละ 50,000 – 100,000 บาท

แอนชิลี กับช่อดอกรองเท้านารี มูลค่าหลักแสน

แนวคิดที่ทำให้แอนชิลี คือ รองเท้า เปรียบเสมือนการเดินทาง นารี คือเพศหญิง รองเท้านารี ก็คือการเดินทางของผู้หญิง ซึ่งเหมือนการมาตามหาฝันอันสูงสุด และดอกไม้ชนิดนี้ ใน 1 ปี จะออกดอกแค่ 1 เดือน ตอนนั้นใช้ทั้งหมด 1,200 ดอก ดอกมันจะเล็กมาก และใน 1 ต้นมันจะมีดอกแค่ 2-3 ดอกเอง ต้องสั่งปลูก ประมาณ 2 พันกว่าต้น โดยสั่งที่โครงการหลวง ม่อนเงาะ จังหวัดเชียงใหม่ ซึ่งเขาเป็นศูนย์เพาะพันธุ์เฉพาะรองเท้านารีที่ใหญ่สุดของไทย เราก็บินไปดูก่อนว่า วิธีการดูแลต้องทำอย่างไร ถ้าตัดออกมาจากต้นแล้วมันจะอยู่ได้นานไหม ต้องไปศึกษาเยอะ ใช้เวลาศึกษาน่าจะเป็นเดือน เพราะต้องบินขึ้น-ลง กรุงเทพ-เชียงใหม่ หลายรอบมาก ตอนนั้นอยู่ในช่วงโควิดด้วย หลังสี่ทุ่มห้ามออกจากบ้าน ทำงานยากมาก น่าจะเป็นช่อที่ทำยากที่สุดแล้ว

ต้องทำดอกไม้ออกมาเป็น 2 ช่อ สำหรับถ่ายคลิป

ใช่ครับ เราจะทำช่อดอกไม้ 2 ช่อ เพื่อเซ็ตถ่ายคลิปก่อนล่วงหน้าสัก 3 วัน เผื่อว่าจะแก้คลิปตรงไหน ตัดต่ออย่างไร แล้วดอกไม้สด มันไม่สามารถอยู่ได้ถึงวันประกาศผล ที่เราสร้างตรงนี้ขึ้นมา เราอยากจะให้คนมองเห็นว่ากว่าที่จะมาเป็นดอกไม้สักช่อมันจะต้องผ่านวิธีการมากมาย วิธีคิด รูปแบบ การจัดทำ อย่างรูปภาพที่อยู่ในสื่อ แค่ 3 - 4 เราใช้เวลาเซ็ทอัพ ถ่ายกันไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง แล้วก็เลือกเอาแค่ 4 รูป  เรามองว่า ดอกไม้ ก็เหมือนมงกุฎ เหมือนสายสะพายที่นางงามรับไปแล้วคือฉันภูมิใจจังเลย เรามีเรื่องราวกว่าจะเป็นช่อดอกไม้หนึ่งช่อ เรื่องของการคิดรูปแบบ หาดอกไม้ ก็คือไม่ต่างจากการหายอดเพชรของมงกุฎ

ความแตกต่างเรื่องการดีไซน์ช่อดอกไม้ระหว่างนางงามคนไทยและต่างชาติ

ถ้าเป็นนางงามต่างชาติ เราจะต้องทำให้มันแมส ที่ไม่ไทยจนเกินไป แต่ต้องทำให้มันแมสกับคนหมู่มาก ที่ดูแล้วรู้ ว่าเราอยากจะสื่ออะไร อย่างในเวทีเมืองไทยก็จะใช้เรื่องวัฒนธรรมได้ ความเชื่อได้ แต่ในระดับสากล เราจะใช้สื่ออย่างนั้นไม่ได้ เช่น ช่อนางสาวไทยปี 2021 เราก็ทำช่อคอนเซ็ปต์สุพรรณหงส์ เพราะว่านางสาวไทยปีนั้นเป็นทูตเรื่องการท่องเที่ยว ซึ่งถ้าถามถึงความยากในการทำงาน ที่ต้องคำนึงเลยคือเรื่อง สี เพราะเราไม่สามารถรู้ก่อนได้เลยว่า นางงามที่ได้รับมงกุฎสูงสุดจะใส่ชุดสีอะไร แล้วจะแมทช์กับช่อดอกไม้เราหรือเปล่า เพราะเราต้องคำนึงถึงว่าจะให้องค์รวมมันลงตัวอย่างไร ออกมาอย่างไรจะสวยที่สุดเวลาที่ยืนเรียงกัน ก็ต้องเดา แต่ส่วนหนึ่งเราเป็นแฟนนางงามอยู่แล้ว ก็จะเต็งว่าคนนี้น่าจะมีสิทธิ เราก็จะดูความสูงของเขา ส่วนใหญ่ถ้าทำช่อก็ต้องดูสัดส่วน กว้างคูณยาวเท่าไหร่ ต้องอย่าใหญ่หรือเล็กเกิน  ซึ่งส่วนใหญ่ที่เต็งไว้ก็จะตรง

ช่อที่มีความหมายที่สุดคือ Miss Universe 2018

เป็นช่อที่ยากที่สุดในชีวิตเลย เครียดด้วย มันเป็นงานระดับจักรวาล คนที่ไปรับบรีฟงานมีหลายทีม มีการประมูลงานแข่งกัน เวทีนี้เป็นเวทีใหญ่ และยากสุด แก้งานกันไปมา 3 รอบ สุดท้ายมาลงตัวที่ พญานาค คือครั้งแรกที่ได้รับโจทย์ ต้องเป็นดอกไม้ที่สื่อถึงความเป็นไทย ซึ่งแบบแรกเราดีไซน์ไปเป็นดอกทาร่า เป็นดอกไม้เมืองนอก ก็โดนปฏิเสธ เพราะมองว่าดอกไม้อย่างนี้ที่บ้านเขามี เราก็กลับมาแก้รอบที่ 2 รู้สึกว่าจะเป็นแบบซึ่งฝรั่งไม่รู้จัก รอบที่ 3 เราเลยใช้เป็นดอกกล้วยไม้ ฟาแลน แวนด้า พวกหวาย สีสันก็โอเค ผ่าน แล้วก็ที่เหลือคุณจะไปตกแต่งอย่างไรก็ได้ เราก็เลยนึกถึงนาค ซึ่งตรงนั้นมันเหมือนเป็นส่วนเล็กๆ ฝรั่งเขาไม่ได้ซีเรียสความหมาย แต่ซีเรียสมากตรงชนิดของดอกไม้ ต้องมองปุ๊บแล้วรู้เลยว่านี่คือเมืองไทย  ส่วนเรื่องสีก็ต้องไม่เหมือนกัน ช่อที่ 1, 2, 3 สีต้องแมทช์กัน เวลายืนเรียงกันแล้วลงตัว แล้วใน 1 ช่อนี่ก็ต้องมีมากกว่า  3 สีอีก สรุป 3 ช่อนี้ต้องมีถึง 9 สี ซึ่งค่อนข้างยาก โชคดีที่วิธีเต็งของเราได้ผล คนที่มง (แคทรีโอนา เกรย์) ใส่ชุดแดง มันก็เลยแมทช์กับดอกไม้ที่เป็นสีบานเย็น สีม่วง

ผลตอบรับจากงานเป็นอย่างไรบ้าง

ส่วนใหญ่ก็เป็นไปในทางชื่นชม ทุกคนก็จะรอดูว่าใครจะได้ตำแหน่ง รอดูช่อด้วย ปีนี้จะมาในรูปแบบไหน คนก็เห็นคุณค่าดอกไม้มากขึ้น ซึ่งเมื่อก่อนคนจะไม่เห็นมูลค่าของมัน แต่พอเวลาเรามีเรื่องราว ก็ช่วยสร้างมูลค่าได้

มีวิธีบาลานซ์ช่อดอกไม้ มงกุฎ สายสะพาย กับตัวนางงามอย่างไร ไม่ให้แย่งซีนกัน

ส่วนหนึ่งต้องคิดก่อนว่าช่อนี้จะต้องถือแล้วส่งเสริมนางงาม ช่อต้องไม่ใหญ่จนลากพื้น บังสัดส่วนนางงาม หรือไปบังชุด ถือแล้วเดินลำบาก หอบแล้วดูรุงรัง เราก็ต้องดูเรื่องของสัดส่วน ต้องส่งเสริมกัน ให้นางงามดูสวยสง่า

เวทีนางงามที่มากขึ้น ส่งผลต่อช่อดอกไม้ของ FLOWDESIGN อย่างไร

สังเกตดูส่วนใหญ่ช่อดอกไม้เหล่านั้นจะอยู่ในเวทีระดับนั้นไปเลย เพราะเราวางตำแหน่งของตัวเองไว้ชัดเจน จะไม่ไปทำที่อื่นยิบย่อย แต่ไม่ใช่ว่าไปด้อยค่าเขานะ แต่เราอยากรักษามาตรฐานด้วยส่วนหนึ่ง และความเหมาะสมด้วย 

อะไรคือลายเซ็นของ FLOWDESIGN

เราอยู่ตรงกลางระหว่างยุคกึ่งใหม่กึ่งเก่า ก็เลยมีความเป็นไทย บวกกับความเป็นสมัยใหม่ ซึ่งมันยากนิดหนึ่ง เพราะว่า ใช่ ดอกไม้ส่วนใหญ่ก็ดอกไม้ไทยเลย ช่างพวกเย็บปักถักร้อยก็ไทย อาจจะทำงานสากลไม่ค่อยสวย ส่วนช่างงานสากลจะให้เย็บปักถักร้อยสู้กับเด็กโชติเวช วิทยาลัยในวังก็ไม่ได้ แต่ว่าเราโชคดีที่เราอยู่ตรงกลาง ก็เลยได้ทั้งงานไทย ได้ทั้งงานสากล พวกน้อง ๆ ในทีมส่วนใหญ่ก็จะจบจากวิทยาลัยในวัง เราเองก็จบดอกไม้สากลมา ก็เลยมาผสานกันลงตัว

ก้าวต่อไปของ ช่อดอกไม้นางงาม จาก FLOWDESIGN

เมื่อก่อนชอบคิดว่าดอกไม้ที่ดี คือดอกไม้ที่มีมูลค่าสูง ซึ่ง ณ ตอนนี้ถ้าสังเกตดูจะเห็นว่าเราใช้ดอกไม้ธรรมดามาก ๆ เพราะอยากจะสร้างมูลค่าให้กับดอกไม้ไทย แล้วก็ชาวไร่ชาวสวน ซึ่งในอดีตคนก็จะไม่กล้าใช้ดอกไม้ราคาถูกมาจัด เพราะจะโดนมองว่า ดูราคาถูก ไม่แพง  ก้าวต่อไปคือ เราจะยกระดับดอกไม้ธรรมดา ให้มีมูลค่ามากขึ้น ทำให้เห็นว่า ดอกไม้เหล่านี้นำมาทำให้มันสวยได้นะ และยังเป็นการส่งเสริมเกษตรกรให้มีรายได้มากขึ้น มีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นได้ในอนาคต