แฟนบอลบราซิล ปะทะ อาร์เจนตินา ปะทะเดือด ทำเกมหยุดเกือบครึ่งชั่วโมง
ฟุตบอลโลก 2026 รอบคัดเลือกโซนอเมริกาใต้ เป็นศึกแห่งศักดิศรีเมื่อเจ้าบ้านบราซิล ขาใหญ่แห่งฟุตบอลโลกและเป็นเจ้าของแชมป์โลกมากที่สุด 5 สมัย เปิดสนาม มราคาน่า พบกับอาร์เจนตินา เจ้าของแชมป์โลก 2022 และเป็นแชมป์โลก 3 สมัย
ศึกในสนามยังไม่ทันหวด นอกสนามบนอัฒจันทร์หวดกันก่อนแล้วเมื่อ แฟนบอลทั้งสองทีมต่างด่าทอกันก่อนเริ่มเกม จากนั้นทั้งคู่ก็เปิดฉากไล่ซัดไล่ต่อย
ร้อนถึงเจ้าหน้าที่ในสนามต้องเข้ามาห้ามศึก แต่ไม่มามือเปล่า พกพากระบอกข้างเอวไล่หวดแฟนบอลที่ก่อความวุ่นวาย แน่นอนว่าฝั่งแฟนบอล "ฟ้าขาว" โดนมากสุด
ขณะที่นักฟุตบอลของทั้งสองทีมต้องรีบวิ่งมาชข้างสนามเพื่อเบรกความร้อนแรงจากแฟนบอลตัวเองและเจ้าหน้าที่ตำรวจ
ลิโอเนล เมสซี่ นำทัพเพื่อนร่วมทีมชาติไปข้างอัฒจันทร์ ส่วนฝั่งบราซิลนำโดยมาร์คินญอส กัปตันทีมก็มาวอนไม่ให้เข้าหน้าที่ทำร้ายร่างกายแฟนบอล
ก่อนที่นักฟุตบอลอาร์เจนตินาจะเดินกลับเข้าห้องแต่งตัวเพื่อให้เหตุการณ์สงบลง ขณะที่นักเตะบราซิลเลือกที่จะวอร์มต่อในสนามเพื่อรอให้อาร์เจนตินาออกมา
ซึ่งใช้เวลาประมาณ 27 นาที ก่อนจะกลับมาแข่งกันต่อได้
ส่วนผลการแข่งขันนัดนี้ เป็นอาร์เจนตินาที่บุกไป ชนะบราซิลได้ 1-0 จากประตูชัยของ นิโกลัส โอตาเมนดี้ อดีตกองหลังแมนฯซิตี้วัย 35 ปี
สถานการณ์ของแชมป์เก่าอย่างอาร์เจนิตนาค่อนข้างสดใสเมื่อพวกเขาเป็นทีมนำของตาราง แข่ง 6 นัด ชนะ 5 แพ้ 1 มี 15 คะแนน
ส่วนบราซิลที่ไปร่วมฟุตบอลโลกรอบสุดท้ายทุกครั้งอาการไม่ค่อยดี เมื่ออยู่ที่ 6 ของตาราง แข่ง 6 นัด ชนะ 2 เสมอ 1 แพ้ไป 3 มีเพียง 7 คะแนนเท่านั้น
ทั้งนี้ตั๋วเข้าชมการแข่งขันที่ริโอ เด จาเนโร ขายไปแล้วทั้งหมด 69,000 ใบ ประเด็ของเรื่องนี้ผู้สื่อข่าว AP รายงานว่า เริ่มจากแฟนบอลชาวบราซิลที่เยาะเย้ยถากถางใส่เมสซีก่อนการทะเลาะวิวาทจะเริ่มขึ้น รวมถึงตะโกนต่อต้านเขาเมื่อเขากลับมาที่สนาม
จุดกำเนิดของคู่กัดแห่งอเมริกาใต้
ส่วนประเด็นความขัดแย้งของทั้งบราซิลและอาร์เจนตินา มีมานานตั้งแต่ระดับสโมสรเมื่อสองชาติดังกล่าวจะผลัดกันขึ้นไปประสบความสำเร็จใจฟุตบอลชิงแชมป์ทวีอเมริกาใต้ หรือโคปา ลิเบอตาดอเรส คัพ (ศักดิ์ศรีคือ ยูฟ่าแชมเปี้ยนส์ลีก)
จากนั้นก็ขยายตัวความชังไปยังทีมชาติ ในช่วงที่อาร์จนตินาเริ่มเก่งและได้แชมป์โลกสมัยแรกในปี 1978 ต่อมาในฟุตบอลโลกปี 1982 บราซิลเอาคืนด้วยการถล่มอาร์เจนตินา 3-1 แต่ทว่าทีมฟ้าขาวตีคืนอย่างเจ็บแสบกว่าในฟุตบอลโลกปี 1990 ด้วยการเอาชนะ 1-0 จากประตูชัยของเคลาดิโอ คานิเกีย เขี่ยบราซิลที่หวังแชมป์โลกในปีนั้นตกรอบ 16 ทีมไป
นับตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา คู่แข่งสำคัญก็ได้เล่นแมตช์ที่ดุเดือดในฟุตบอลโลกรอบคัดเลือกและโคปาอเมริกา
และที่คลาสสิคสุดคือการเถียงกันว่านักเตะของใครเก่งที่สุดในโลก เมื่อบราซิล มี "คิง เปเล่" ส่วนอาร์เจนตินา ก็บอกว่า "พระเจ้า" อย่างดิเอโก้ มาราโดน่า ที่เก่งที่สุดในโลก
ยิ่งมายุคนี้ ลิโอเนล เมสซี่ ของอาร์เจนตินา คือนักฟุตบอลที่ครบเครื่องได้ทุกแชมป์บนโลก ยิ่งสุมความร้อนแรงใส่แฟนบอลบราซิลที่หงุดหงิดกับทีมชาติพวกเขามานาน จนต้องมาระบายออกสนามสนามฟุตบอลแทน
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.