4 ข้อที่ทำไม iPhone 15 ถึงดูแล้วไม่คุ้มค่าที่สุดของปีนี้

การเปิดตัว iPhone 15 Series มีทั้งหมด 4 รุ่นด้วยกันถือว่านับว่าน่าสนใจไม่น้อยเพราะมีการเปลี่ยนแปลงอย่างมาก แต่หลายคนก็อยากรู้ว่ารุ่นไหนคุ้มสุด แต่ด้านเว็บไซต์ GSMArena ได้มีการเปิดเผยว่า iPhone 15 รุ่นปกติ ยังไม่น่าซื้อเท่าไหร่ เพราะอะไรนั้น เรามาดูเหตุผลกัน

หน้าจอการแสดงผลด้อยสุด

iPhone 15 เป็นมือถือที่อัปเกรดหน้าจอเป็นแบบ Dynamic Island ที่ตัดติ่งเล็กเช่นเดียวกันโดยจะมาพร้อมกับขนาด 6.1 นิ้ว Super Retina XDR ก็จริงแต่พบว่า Refresh Rate อยู่ที่ 60Hz ที่ดูแล้วน้อยไปหน่อย เมื่อเทียบกับหน้าจอของ iPhone 15 Pro พบว่าหน้าจอจะเป็นแบบ LTPO OLED พร้อมกับ Refresh Rate 120Hz ทำให้สเปกดูดีขึ้นไปใหญ่

ประสิทธิภาพของเครื่องยังห่างจากรุ่น Pro

เมื่อเปิดตัว A16 ที่อยู่ใน iPhone 15 เป็นการปรับปรุงจากภายใน โดยโครงสร้างภายในที่มี 2 Core ที่เน้นประสิทธิภาพ, 4 Core ที่เน้นการประหยัดพลังงานและมีเทคโนโลยีที่ดี เมื่อเทียบกับ iPhone 14 ในรุ่นที่แล้วสำหรับ แต่เมื่อเทียบกับ iPhone 15 Pro ที่ได้ขุมพลัง A17 แบบ 3 นาโนเมตรที่ประสิทธิภาพีกว่าเช่นต้องการให้เร็วขึ้น 10% และประหยัดไฟ 20% เช่นเดียวกัน สามารถเล่นเกมได้ดี และยังมี RAM ที่เพิ่มจากเดิมถึง 8GB ก็เพียงพอต่อการใช้งานแล้ว

กล้องที่มีข้อจำกัด

ถึงแม้ว่า iPhone 15 จะได้กล้องความละเอียด 48 ล้านพิกเซล รองรับการซูมในระยะ 2x เท่ากัน ที่มีขนาดเซนเซอร์ 1.22 µm พร้อมกับ F/1.78 นิ้วพร้อมกับ Sensor Shift กันสั่นที่เซนเซอร์ที่โดดเด่น แต่ว่าการถ่ายภาพแบบ ProRAW หรือ วิดีโอแบบ ProRes RAW ที่จะรองรับ ACED และ 3D Spatial Video ที่จำกัดเฉพาะรุ่น Pro เท่านั้น

USB-C ช้ากว่าเยอะ

ถึงแม้ว่า USB-C จะเป็นมาตรฐานใหม่ของ iPhone 15 Series ก็จริง แต่ว่ามาตรฐานที่ iPhone 15 เลือกใช้ ยังคงได้ใช้ USB 2.0 เท่านั้น ความเร็วทำได้แค่ 480 Mbit/s เท่านั้น แต่มาตรฐานของ USB-C 3.0 จะอยู่ใน iPhone 15 Pro ที่รองรับ 10Gbps ถือว่าแรงกว่ารุ่นปกติ 20 เท่าเลย ก็อาจจะทำให้คนมองหรุ่นธรรมดาต้องมองเลย

อย่างไรก็ตามราคาของ iPhone 15 และ 15 Pro ห่างกันมากจนเกือบหมื่นบาท ทำให้หลายคนอาจจะต้องคิดดูให้ดีว่าสิ่งที่ได้เพิ่มขึ้นมานั้น คุณได้ใช้จริงหรือเปล่า ไม่เช่นนั้นก็จะเหมือนกับคุณซื้อมือถือเกินกว่าการใช้งานจริง