หัวเว่ยตอกย้ำวิสัยทัศน์เพื่อการพัฒนาที่ยั่งยืน ภายในงาน GCNT Forum 2023
หัวเว่ยประกาศวิสัยทัศน์ในงานเสวนาสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย (GCNT Forum) ประจำปี 2023 ซึ่งจัดขึ้นภายใต้แนวคิด “พันธมิตรเพื่อพัฒนาคนยุค 5.0 สู่สังคมแห่งภูมิปัญญาที่ยั่งยืน" (Partnership for Human Capital 5.0 towards Sustainable Intelligence-Based Society) โดยมุ่งมั่นส่งเสริมการใช้เทคโนโลยีและนวัตกรรม เพื่อรับมือกับความท้าทายในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนผ่านสู่ยุคดิจิทัลและเพื่อสนับสนุนการพัฒนาที่ยั่งยืนของประเทศไทย ในงานสัมนาครั้งนี้ หัวเว่ยยังได้นำเสนอวิสัยทัศน์ที่เป็นไปในทิศทางเดียวกันของเศรษฐกิจในยุค 5.0 ที่ขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยีดิจิทัล นอกจากนี้ หัวเว่ยยังได้เปิดเผยถึงการผสมผสานการพัฒนาทรัพยากรบุคคลเข้าไปเป็นส่วนหนึ่งในกลยุทธ์ธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์ภาคธุรกิจไทยและประเทศไทยในการเติบโตอย่างมีศักยภาพสู่ประเทศไทยดิจิทัลที่มีความเท่าเทียมและยั่งยืน พร้อมตอกย้ำความมุ่งมั่นที่มี่ต่อความเท่าเทียมทางดิจิทัลใน 4 ด้าน ได้แก่ การศึกษา สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข และการพัฒนาอย่างสมดุล
ดร.ปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เป็นประธานร่วมงานและกล่าวปาฐกถาพิเศษในหัวข้อ “วิถีคิดผู้นำด้านการพัฒนาคนสู่เศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืน” ว่า “คนเป็นศูนย์กลางของการดำเนินงาน (human-centered approach) ตามแนวทางเศรษฐกิจใหม่ของรัฐบาลที่เรียกว่า “New Growth Path” เพื่อตอบโจทย์ Fifth Industrial Revolution ซึ่งประกอบด้วย 3 มิติคือ (1) Green growth การคำนึงถึงผลกระทบของการทำธุรกิจต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมด้วย (2) Innovation-driven growth การใช้ประโยชน์จากองค์ความรู้ นวัตกรรมด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแขนงต่างๆรวมทั้งเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) และเทคโนโลยีดิจิทัลในการดำเนินนโยบายภาครัฐ และการทำธุรกิจของภาคเอกชน และ (3) Community-based growth การยกระดับแรงงานและการพัฒนากระบวนการผลิตที่ให้ความสำคัญกับการเสริมสร้างความเข้มแข็งแก่ผู้ประกอบการ การสร้างงาน โดยมีนโยบายด้านแรงงานที่นำไปสู่การจ้างงานเต็มที่ และงานที่มีคุณค่าสำหรับทุกคน ซึ่งภาคเอกชนสามารถเป็นแบบอย่างที่ดีในการดำเนินชีวิตและธุรกิจที่ให้ความสำคัญกับความยั่งยืนในหลากหลายมิติเช่น การวัด carbon footprint ขององค์กร การสนับสนุนให้ supply chain ในธุรกิจเป็นธุรกิจสีเขียว การให้โอกาสธุรกิจเล็ก ๆ หรือ entrepreneurs สร้างสรรค์ business model ใหม่ ๆ”
ด้านนายศุภชัย เจียรวนนท์ นายกสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย หรือ UNGCNT และประธานคณะผู้บริหาร บริษัท เครือเจริญโภคภัณฑ์ จำกัด กล่าวว่า “การเตรียมความพร้อมของ “คน” หรือทรัพยากรมนุษย์ นอกจากจะช่วยให้บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนอย่างแท้จริงแล้ว ยังจำเป็นสำหรับการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมในยุค 5.0 หรือยุคที่มนุษย์และเทคโนโลยี โดยเฉพาะปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ผสมผสานเป็นหนึ่งเดียวกัน พร้อมทั้งเสนอแนวทางเพิ่มเติมเพื่อพัฒนาทุนมนุษย์ สู่ “สังคมแห่งภูมิปัญญาที่ยั่งยืน” สำหรับนักเรียน นักศึกษา ต้องรู้จักใช้เทคโนโลยี เรียนรู้ด้วยการลงมือทำจริง (Action-Based Learning) และเพิ่มความสามารถในการปรับตัวด้วย Growth Mindset บ่มเพาะ “จิตสำนึกแห่งความยั่งยืน” ครูผู้สอน ต้องปรับบทบาทจากผู้สอน (Instructor) เป็น โค้ช ผู้นำกระบวนการเรียนรู้ (Facilitator) เพื่อบ่มเพาะผู้นำการเปลี่ยนแปลง และมีตัวชี้วัดที่ส่งเสริมความโปร่งใส โดยภาคเอกชน สามารถทำบทบาทนี้ได้ ด้วยการจัดกิจกรรมเป็นฐานหรือศูนย์การเรียนรู้ สอดคล้องกับ SDGs ข้อที่เกี่ยวกับธุรกิจของตน แรงงาน องค์กรควรปรับมุมมองในการพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ ว่าเราจะใช้ประโยชน์จาก AI อย่างไรให้เสริมงานที่ทำ นายจ้างรวมถึง ภาครัฐ ควรเตรียมทักษะแรงงานและทรัพยากรมนุษย์เพื่อให้แรงงานปัจจุบันและอนาคต สามารถทำงานกับ AI ได้ เรายืนยันบทบาทของ UNGCNT ที่จะระดมกำลังสนับสนุนการปฏิรูประบบการศึกษา เพิ่มขีดความสามารถของครูอาจารย์ บุคลากรทางการศึกษา พัฒนาแรงงาน ให้มีทักษะเหมาะสม ต่อการเปลี่ยนผ่านสู่ยุค 5.0 เน้นการเปลี่ยนผ่านที่เป็นธรรม สร้างคน SI - Sustainable Intelligence ที่มี “ภูมิปัญญาที่ยั่งยืน” สร้างพื้นที่แห่งการพัฒนาที่ยั่งยืนแก่ทุกคน โดยไม่ทิ้งใครไว้ข้างหลัง”
ดร. ชวพล จริยาวิโรจน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จำกัด เน้นย้ำถึงความสำคัญของการพัฒนาทางเทคโนโลยีเพื่อสร้างสังคมที่ยั่งยืนและเศรษฐกิจสีเขียวสำหรับอนาคตว่า "การต่อยอดทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมเทคโนโลยีเป็นแรงขับเคลื่อนสำคัญของวัฒนธรรมและสังคม เทคโนโลยีดิจิทัลได้เปลี่ยนแปลงสิ่งรอบตัวและผลักดันเราสู่อนาคตที่เต็มไปด้วยความอัจฉริยะ หัวเว่ยมีความมุ่งมั่นที่จะทำให้โลกใบนี้ดีขึ้นด้วยเทคโนโลยี และเราหวังว่าจะสามารถช่วยสร้างประโยชน์ให้กับทุกคน รวมทั้งส่งเสริมการพัฒนาสังคมที่ยั่งยืนได้"
ดร. ชวพล กล่าวเสริมว่า หัวเว่ยมุ่งมั่นที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลไปสู่ทุกผู้คน ทุกครัวเรือน และ ทุกองค์กร เพื่อสร้างประเทศไทยที่มีการเชื่อมต่อกันอย่างสมบูรณ์แบบ เพื่อให้บรรลุภารกิจนี้ หัวเว่ยได้สร้างนวัตกรรมอย่างต่อเนื่องโดยมีกลยุทธ์ความยั่งยืนสี่ประการ ได้แก่ ความเท่าเทียมทางด้านดิจิทัล ความปลอดภัยและเชื่อถือได้ การอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม และการสร้างระบบนิเวศที่เข้มแข็งและสมดุล
“ความมุ่งมั่นในการสร้างความเท่าเทียมทางดิจิทัลของเราประกอบไปด้วย 4 แนวทางหลัก อันได้แก่ การศึกษา สิ่งแวดล้อม สาธารณสุข และการพัฒนา ในด้านการศึกษา เราตั้งเป้าจะผลักดันทั้งในด้านความเท่าเทียมและคุณภาพของมาตรฐานการศึกษา ในด้านสิ่งแวดล้อม เราต้องการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีเพื่อช่วยอนุรักษ์ธรรมชาติ ในด้านสาธารณสุข เราต้องการผลักดันการเข้าถึงบริการและข้อมูลทางการแพทย์ที่เท่าเทียม และในด้านการพัฒนา เรามุ่งมั่นที่จะเชื่อมต่อรวมถึงประยุกต์ใช้ไอซีทีเพื่อเร่งการพัฒนาในพื้นที่ห่างไกล” ดร. ชวพลกล่าว
งานสัมมนาครั้งนี้ จัดขึ้นโดยสมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทยร่วมกับสหประชาชาติ ซึ่งถือเป็นการประชุมสุดยอดผู้นำด้านความยั่งยืนที่รวมผู้นำธุรกิจจากทุกภาคส่วนในการสนับสนุนการทำงานร่วมกันและความก้าวหน้าด้านธุรกิจที่ยั่งยืนในประเทศไทย ภายใต้หัวข้อ “พันธมิตรเพื่อพัฒนาคนยุค 5.0 สู่สังคมแห่งภูมิปัญญาที่ยั่งยืน" โดยมีตัวแทนจากภาครัฐ พร้อมกับบริษัทสมาชิก 131 แห่ง รวมถึง หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย), ยูนิลีเวอร์ และ ซีเค พาวเวอร์ และองค์กรไทยชั้นนำและพันธมิตรระหว่างประเทศต่าง ๆ ได้ร่วมกันเสวนาเกี่ยวกับการสร้างทรัพยากรมนุษย์ (Human Capital) เพื่อสร้าง “คน” ที่ตอบโจทย์ความต้องการในการเติบโตทางเศรษฐกิจและการพัฒนาของประเทศ
สมาคมเครือข่ายโกลบอลคอมแพ็กแห่งประเทศไทย เป็นหนึ่งในโครงการพัฒนาด้านความยั่งยืนขององค์กรที่ใหญ่ที่สุดแห่งสหประชาชาติที่ส่งเสริมให้องค์กรธุรกิจภาคเอกชนมีส่วนร่วมในการเสริมสร้างกลยุทธ์และแนวทางปฏิบัติตามหลักเศรษฐกิจที่ยั่งยืน โดยหัวเว่ยประเทศไทยได้เข้าร่วมและเป็นส่วนหนึ่งของสมาคมมาตั้งแต่ปี พ.ศ. 2564 โดยหลังจบการเสวนา องค์กรที่เข้าร่วมได้ประกาศข้อตกลงความร่วมมือกันและตั้งเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนซึ่งสามารถวัดผลได้จริง เพื่อส่งเสริมการพัฒนาสู่สภาพเศรษฐกิจและสังคมที่ยั่งยืนและเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม
หัวเว่ยมุ่งประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลเพื่อผลักดันการพัฒนาที่ยั่งยืน ช่วยส่งเสริมการสร้างสังคมแห่งภูมิปัญญาและเท่าเทียมสำหรับทุกคน โดยบริษัทยังคงมุ่งมั่นในภารกิจ "เติบโตในประเทศไทย ร่วมสนับสนุนประเทศไทย" รวมทั้งการ “สร้างการพัฒนาอย่างยั่งยืน และไม่ทิ้งใครไว้เบื้องหลัง” โดยให้ความสำคัญกับการเปลี่ยนผ่านสู่ดิจิทัลของประเทศไทยและการนำเทคโนโลยีสีเขียวมาประยุกต์ใช้ ขณะเดียวกันก็มีเป้าหมายในการนำพลังงานสีเขียวมาใช้ในทุกพื้นที่ เพื่ออนาคตด้านดิจิทัลที่ยั่งยืนของประเทศไทย โดยหัวเว่ยเชื่อว่าเทคโนโลยีดิจิทัลจะเป็นหัวใจสำคัญในการพัฒนาประเทศไปสู่การเป็นศูนย์กลางด้านดิจิทัลของภูมิภาคอาเซียนในอนาคต
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.