น่ากลัวกว่าที่คิด! 3 ผลเสียรถ EV จีนลดราคาหลักแสนบาท
หลายคนอาจมองว่าการกระหน่ำลดราคารถยนต์ไฟฟ้า (BEV) โดยเฉพาะจากค่ายสัญชาติจีนที่หลายรุ่นถูกปรับลดราคาหลายแสนบาท จะส่งผลดีต่อผู้ที่กำลังจะซื้อรถยนต์คันใหม่ แต่อันที่จริงแล้วการทำตลาดด้วยวิธีนี้อาจส่งผลเสียร้ายแรงกว่าที่หลายคนคิด Sanook Auto ได้รวบรวม 3 เหตุผลเอาไวดังนี้
1. เต๊นท์รถมือสองไม่กล้ารับซื้อ
เนื่องจากราคารถยนต์ไฟฟ้ามีความผันผวนเป็นอย่างมาก หลายรุ่นถูกปรับลดราคาลงมาครั้งละหลายแสน ยกตัวอย่าง BYD ATTO 3 ที่เคยมีราคาสมัยเปิดตัวครั้งแรกเมื่อวันที่ 10 ตุลาคม 2565 อยู่ที่ 1,199,900 บาท (รุ่น Extended Range) ปัจจุบันสามารถเป็นเจ้าของป้ายแดงได้ในราคาเพียง 859,900 บาท คิดเป็นส่วนต่างมากถึง 340,000 บาท ในช่วงระยะเวลาไม่ถึง 2 ปีเท่านั้น
ความผันผวนอย่างสุดขั้วดังกล่าวส่งผลกระทบทำให้เต็นท์รถมือสองไม่กล้ารับซื้อรถยนต์ไฟฟ้า เนื่องจากมีความเสี่ยงต่อการขาดทุนได้ทุกเมื่อ เพราะนายทุนใหญ่จากประเทศจีนพร้อมที่จะเฉือนกำไรบางส่วนเพื่อรักษาส่วนแบ่งการตลาดโดยไม่คำนึงถึงธุรกิจที่เกี่ยวข้องอื่นๆ เลยแม้แต่น้อย
การปรับลดราคาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนแม้ว่าจะส่งผลดีต่อผู้ซื้อ เพราะสามารถเป็นเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าได้ในราคาถูกลง แต่ระยะยาวอาจส่งผลให้เกิดปัญหาความเชื่อมั่นในด้านราคาขายต่อ ทำให้ผู้ที่คิดจะขายต่อถูกกดราคาอย่างหนักจนไม่ได้รับความคุ้มค่าอย่างที่คาดหวังไว้แต่แรก นี่ยังไม่นับรวมปัจจัยเกี่ยวกับแบตเตอรี่หลังหมดอายุการใช้งาน เพราะแม้ว่าแบตเตอรี่จะมีราคาถูกลงกว่าแต่ก่อน แต่ก็ยังเป็นอะไหล่ที่มีมูลค่าหลายแสนบาทอยู่ดี
ปัจจุบันสหภาพยุโรปอยู่ระหว่างการสอบสวนค่ายรถยนต์ไฟฟ้าสัญชาติจีนเกี่ยวกับการอุดหนุนเม็ดเงินอย่างไม่เป็นธรรมจากรัฐบาลจีน ที่อาจส่งผลกระทบร้ายแรงต่ออุตสาหกรรมรถยนต์ในภูมิภาค ควบคู่กับการปล่อยมาตรการขึ้นภาษีรถยนต์ EV จีนเป็นการเฉพาะ เพื่อปกป้องอุตสาหกรรมยานยนต์ของประเทศสมาชิกสหภาพยุโรปเอาไว้ ขณะที่ไทยเองยังไม่มีมาตรการในลักษณะนี้แต่อย่างใด
2. บริษัทประกันภัยหลีกเลี่ยงการรับประกันรถ EV
จากกรณีล่าสุดที่มีข่าวว่าบริษัทประกันภัยชื่อดัง มีการปรับเกณฑ์เงื่อนไขการรับประกันรถยนต์ไฟฟ้าทุกรุ่นทุกยี่ห้อ ไม่ว่าจะเป็นลูกค้าเดิมที่ต่ออายุ และลูกค้าใหม่ที่ต้องการทำประกันภัยกับบริษัท เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าความผันผวนของราคารถยนต์ไฟฟ้า ส่งผลให้การประเมินทุนประกันภัยที่เหมาะสมเป็นไปได้ยาก อันจะเป็นการเพิ่มความเสี่ยงของบริษัทที่รับประกันวินาศภัยรถยนต์ไฟฟ้าเอง หลายบริษัทจึงหลีกเลี่ยงที่จะรับประกันรถ EV หรือรับประกันด้วยค่าเบี้ยที่สูงกว่ารถน้ำมันมาก
นอกจากนี้ รถยนต์ไฟฟ้ายังมีต้นทุนการเคลมที่สูงในกรณีเกิดความเสียหายกับแบตเตอรี่ หลายคันถึงขั้นต้องคืนทุนประกันเนื่องจากถูกตีเป็นความเสียหายสิ้นเชิง (Total Loss) ทั้งๆ ที่ตัวรถได้รับความเสียหายน้อยมาก ที่ผ่านมาเคยมีกรณีรถ EV ปีนฟุตบาธแต่กลายเป็นว่าต้องคืนทุนประกันมาแล้ว เหล่านี้ส่งผลให้ผู้ใช้รถยนต์ไฟฟ้าต้องเผชิญกับค่าเบี้ยประกันที่แพงตามไปด้วย
3. ส่งผลต่อความเชื่อมั่นของผู้ซื้อเอง
ที่ผ่านมาเห็นแล้วว่าการปรับลดราคารถยนต์ไฟฟ้าจีน ไม่ได้เกิดขึ้นเพียงครั้งเดียวแล้วจบ แต่ยังคงเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าไม่จบไม่สิ้น และเชื่อว่าหากยังไม่มีมาตรการจากรัฐบาลเข้ามาควบคุม สิ่งเหล่านี้ก็จะยังคงเกิดขึ้นต่อไป สร้างผลกระทบด้านความเชื่อมั่นของผู้ซื้อ เพราะไม่แน่ใจว่าหลังจากซื้อไปแล้วจะมีการปรับลดราคาอีกหรือใหม่ หรืออนาคตอาจมีรถรุ่นใหม่กว่า เทคโนโลยีดีกว่า แต่มีราคาจำหน่ายถูกกว่าเข้ามาอีก เจ้าของรถไฟฟ้าหลายคนถึงขั้นแสดงความคิดเห็นบนโลกโซเชียลว่า "คันเดียวพอ"
เห็นไหมครับว่าการปรับลดราคาจำหน่ายรถยนต์ไฟฟ้า แม้ดูเผินๆ จะเป็นประโยชน์ต่อผู้บริโภค แต่ยังมีเบื้องลึกเบื้องหลังอีกมากมายที่ได้รับผลกระทบไปเต็มๆ ก็คงต้องรอดูกันต่อไปต่อจากนี้ว่าจะมีอะไรจากค่ายรถจีนให้เซอร์ไพรส์กันอีกบ้าง
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.