พาส่อง Toyota Hilux GR-S ทำจาก "ดินเหนียว" ก่อนจะกลายเป็นรถขายจริง
หากพูดถึง Toyota Hilux GR Sport (หรือบ้านเราเรียกว่า Toyota Hilux Revo GR Sport 4x4) หลายคนก็คงนึกถึงรถกระบะฐานล้อกว้างดีไซน์บึกบึนที่มีค่าตัวเฉียด 1.5 ล้านบาท แต่เชื่อว่ามีคนจำนวนไม่น้อยไม่เคยทราบว่าต้นกำเนิดของรถรุ่นนี้มาจากประเทศออสเตรเลีย แถมยังมีวิศวกรชาวไทยมีส่วนสำคัญในการพัฒนาอีกด้วย เรื่องราวจะน่าสนใจขนาดไหน บทความนี้ Sanook Auto จะพาไปชมความเป็นมาของกระบะสุดฮาร์ดคอร์รุ่นนี้กันครับ
บินลัดฟ้าข้ามทวีปบุกสำนักงานใหญ่ "Toyota Australia"
TMCA หรือ Toyota Motor Corporation Australia มีชื่อเรียกอีกอย่างหนึ่งว่า "Toyota Centre of Excellence" ตั้งอยู่ไม่ไกลจากย่านดาวน์ทาวน์ของกรุงเมลเบิร์น ประเทศออสเตรเลีย ซึ่งสถานที่แห่งนี้ไม่เพียงแต่เป็นสำนักงานใหญ่ของโตโยต้าออสเตรเลียเท่านั้น แต่ยังเป็นสถานที่กำเนิดรถยนต์หลากหลายรุ่นที่วางจำหน่ายไปทั่วโลก ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ Toyota Fortuner Legender รุ่นปัจจุบันนั่นเอง
เมื่อก้าวเข้ามายัง Toyota Centre of Excellence แห่งนี้ ก็ได้พบกับบรรดารถยนต์หลากรุ่นที่จอดโชว์เรียงรายอยู่ภายในอาคาร ไม่ว่าจะเป็น Toyota Camry ที่บ้านเราเคยนำเข้ามาจำหน่ายในชื่อ Toyota Camry ESport ซึ่งเป็นรถคัมรีคันสุดท้ายจากสายการผลิตในออสเตรเลียเมื่อวันที่ 3 ตุลาคม 2560 ถูกห่อหุ้มด้วยลวดลายสติกเกอร์สถานที่ท่องเที่ยวสำคัญของกรุงเมลเบิร์น
ถัดมาเป็น Toyota Tiara 1500 Utility รุ่นปี 1963 ซึ่งเป็นรถยนต์คันแรกที่ถูกผลิตขึ้นในประเทศออสเตรเลียที่โรงงาน Australian Motor Industries ใน Port Melbourne เริ่มเดินสายการผลิตเมื่อเดือนเมษายน 2506 และสามารถทำยอดผลิตทั้งตัวถังแบบกระบะ (Utilities), ซีดาน และแวกอน รวมกันทั้งสิ้น 1,684 คัน
ส่วนคันนี้เป็น Toyota Corolla Seca ซึ่งเป็นรถคอมแพ็กแบบ Liftback ที่ไม่มีขายในบ้านเรา ดีไซน์ดูสวยงามแปลกตาไม่น้อยทีเดียว
ส่วน Toyota Camry คันนี้ถูกใช้เป็นรถแท็กซี่ของดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ดูเผินๆ แล้วแทบไม่น่าเชื่อว่าผ่านการใช้งานมากถึง 979,118 กิโลเมตร ขับขี่ต่อเนื่องเกือบ 24 ชั่วโมงทุกวัน ท่ามกลางอุณหภูมิเฉลี่ย 36 องศาเซลเซียส โดยรถคันนี้ถูกประกอบขึ้นที่โรงงาน Altona ในประเทศออสเตรเลียนั่นเอง
ชมแบบจำลองดินเหนียว "Toyota Hilux GR Sport" เหมือนคันจริงเปี๊ยบ
สำหรับพระเอกในทริปนี้ึคงหนีไม่พ้น "Toyota Hilux GR Sport" ที่เห็นอยู่นี้ ซึ่งถูกนำมาจัดแสดง ณ Toyota Centre of Excellence ด้วยเช่นกัน โดยรถคันนี้ไม่ใช่รถจริง หากแต่เป็นโมเดลจำลองทำจากดินเหนียวขนาดเท่าคันจริง เพื่อให้นักออกแบบสามารถปรับปรุงรายละเอียดขั้นตอนสุดท้ายก่อนจะกลายมาเป็นรถที่วางจำหน่ายจริงนั่นเอง
กว่าจะกลายมาเป็นโมเดลดินเหนียวหน้าตาเหมือนของจริงคันนี้ก็ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย โดยจะเริ่มจากการวางโครงสร้างทำจากวัสดุเหล็ก ติดตั้งล้อและช่วงล่างที่ถูกออกแบบมาโดยเฉพาะเข้าไป จากนั้นจึงนำโฟมขนาดใหญ่ที่ถูกตัดแต่งรายละเอียดอย่างแม่นยำด้วยเครื่องคอมพิวเตอร์ มาครอบลงบนโครงสร้างที่เตรียมเอาไว้ เพื่อให้กลายมาเป็นโครงรถในเบื้องต้น
จากนั้นทีมออกแบบจะนำดินเหนียว (Clay) ที่มีความอุ่น มาพอกลงบนโครงที่ทำจากวัสดุโฟม โดยความหนาของชั้นดินเหนียวจะอยู่ที่ประมาณ 30 - 50 มิลลิเมตร รอจนกว่าจะเย็นตัวลงเพื่อให้ดินเหนียวมีความแข็งมากพอ ก่อนจะถูกนำเข้าเครื่องตกแต่งชิ้นงาน (Milling machine) อีกครั้ง ซึ่งขั้นตอนนี้จะมีความผิดเพี้ยนไปจากข้อมูล CAD บนคอมพิวเตอร์ไม่เกิน 0.2 มิลลิเมตร
เมื่อเครื่องทำงานเสร็จเรียบร้อย ก็ถึงคราวของทีมออกแบบที่จะลงมือแกะๆ เกาๆ ถูๆ ด้วยอุปกรณ์พิเศษ เพื่อตกแต่งชิ้นงานให้ตรงตามที่ต้องการมากที่สุด ก่อนจะเข้าสู่ขั้นตอนสุดท้ายคือการพ่นสีด้วยขั้นตอนการพ่นคล้ายกับรถจริง เพื่อให้มีความสมจริงมากที่สุดนั่นเอง
หากมองด้านขวาของแบบจำลองที่ผ่านการพ่นสีเรียบร้อยแล้ว ก็แทบแยกไม่ออกเลยว่ารถคันนี้ทำมาจากดินเหนียว
แต่เมื่อมองอีกด้านหนึ่งจะเห็นว่าด้านในของแบบจำลองทำจากโครงสร้างโฟมที่ถูกห่อหุ้มด้วยดินเหนียว ขณะที่โครงสร้างช่วงล่างทำมาจากวัสดุเหล็กคล้ายกับรถจริงๆ
สาเหตุว่าทำไม Toyota Hilux GR Sport จึงถูกพัฒนาที่ออสเตรเลีย
หากพูดถึงประเทศออสเตรเลีย หลายคนมักจะนึกถึง Opera House หรือ Bondi Beach อันโด่งดัง แต่อันที่จริงออสเตรเลียมีพื้นที่ห่างไกลที่ไม่เหมาะสำหรับอยู่อาศัย (Outback) มากถึง 70% ของทวีป อีกทั้งสภาพภูมิประเทศกว่า 80% ทั่วโลกสามารถพบได้ที่ทวีปออสเตรเลียแห่งนี้ จึงจำเป็นต้องใช้รถยนต์ที่มีความสมบุกสมบัน มีความทนทานสูง เพื่อให้เดินทางไปถึงจุดหมายได้อย่างปลอดภัย
ขณะที่ Toyota Hilux GR Sport ถือเป็นโมเดลระดับฮาร์ดคอร์ที่สุดของตระกูล Hilux ในปัจจุบัน ถูกออกแบบเน้นประสิทธิภาพการขับขี่แบบออฟโรดด้วยความเร็วสูง โดยมีจุดขายสำคัญอยู่ที่การเพิ่มระยะห่างระหว่างล้อขึ้นอีก 135 มม. ที่ด้านหน้า และ 155 มม. ที่ด้านหลัง โดยเวอร์ชันออสเตรเลียจะได้โช้กอัปแบบ Monotube ของ KYB ที่ปรับแต่งมาเป็นพิเศษสำหรับรุ่นนี้โดยเฉพาะ
ส่วนล้ออัลลอยสีดำขนาด 17 นิ้ว หุ้มด้วยยาง BF Goodrich ขนาด 265/65 R17 ที่เน้นประสิทธิภาพการขับขี่แบบออฟโรด รองรับการถ่ายทอดกำลังจากเครื่องยนต์ดีเซลเทอร์โบ 2.8 ลิตร รหัส 1GD ที่รีดกำลังสูงสุดเพิ่มขึ้นอีก 10% โดยมีกำลังสูงสุดอยู่ที่ 224 แรงม้า (PS) แรงบิดสูงสุด 550 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ 6 จังหวะ ที่จูนมาสำหรับรุ่น GR Sport 4x4
เพื่อรองรับฐานล้อที่กว้างขึ้น ทางทีมพัฒนาจึงจำเป็นต้องออกแบบซุ้มล้อและกันชนหน้าใหม่ ไม่ว่าจะเป็นโป่งล้อสีเทาที่ช่วยให้ตัวรถดูบึกบึน แข็งแกร่ง และครีบอากาศบริเวณปลายกันชนหน้าทั้งสองข้าง เพื่อระบายลมปะทะจากด้านหน้าขณะวิ่งที่ความเร็วสูงส่งต่อไปยังด้านข้าง อันเป็นผลจากความกว้างที่เพิ่มขึ้นนั่นเอง
เอาเป็นว่าบทความนี้ขอเป็นการเกริ่นนำถึงที่มาที่ไปของ Toyota Hilux GR Sport 4x4 กันพอหอมปากหอมคอ ส่วนบทความรีวิวบนสภาพถนนสุดหฤโหดของออสเตรเลียจะเป็นอย่างไร ติดตามได้ที่ Sanook Auto เร็วๆ นี้ครับ
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.