ผลวิจัยชี้คนไทยยังเชื่อมั่น "รถญี่ปุ่น" มากกว่าจีนและอเมริกา

ผลวิจัยเผยว่าคนไทยยังคงให้ความเชื่อมั่นรถยนต์ค่ายญี่ปุ่นเหนือกว่ารถจีนและอเมริกา พร้อมชี้ว่ากลุ่มเจ้าของรถน้ำมันและไฮบริด (Non-BEV) กว่า 48% จะยังคงเลือกซื้อรถน้ำมันต่อไป

บริษัท ดิฟเฟอเรนเชียล (ประเทศไทย) จำกัด เผยข้อมูลการสำรวจวิจัยความภักดีของเจ้าของรถชาวไทยต่อแบรนด์รถยนต์ที่วางจำหน่ายในปัจจุบัน โดยพบว่าลูกค้ารถยนต์จากค่ายญี่ปุ่น มีความเชื่อมั่นต่อแบรนด์และพร้อมจะเลือกซื้อรถยนต์ยี่ห้อเดิมมากที่สุดถึง 48% รองลงมาคือจากอเมริกา 39% และจากจีนน้อยที่สุด 28%

ปัจจัยหลักที่ทำให้ลูกค้ารถญี่ปุ่นยังคงภักดีต่อแบรนด์ ได้แก่ ความพึงพอใจต่อคุณภาพและการออกแบบ ตามด้วยภาพลักษณ์ของแบรนด์ และความคุ้นเคย รวมถึงความสะดวกสบาย

นอกจากนี้ แนวโน้มพฤติการการเลือกซื้อรถคันใหม่ของกลุ่มเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าเต็มรูปแบบ (Battery EV: BEV) พบว่า 42% ของกลุ่มเจ้าของรถยนต์ไฟฟ้าในปัจจุบันวางแผนที่จะเลือกซื้อรถยนต์ไฟฟ้าต่อไป ในขณะที่อีก 58% ยังพร้อมเลือกซื้อรถน้ำมัน และรถไฮบริด

สำหรับกลุ่มเจ้าของรถยนต์น้ำมัน และรถไฮบริด (Non-BEV) พบว่า 48% ยังยืนยันที่จะเลือกซื้อรถน้ำมัน (ICE) ต่อไป โดยปัจจัยหลักที่มีผลต่อการเลือกซื้อรถได้แก่ การออกแบบรูปลักษณ์ภายนอก ยี่ห้อรถยนต์ และการตกแต่งภายในตามลำดับ

เมื่อเจาะลึกลงไปถึงเหตุผลการตัดสินใจเปลี่ยนรถยนต์คันใหม่ พบว่า 38% เลือกที่จะเปลี่ยนรถ เนื่องจากรถที่ใช้งานปัจจุบันเริ่มเสีย หรือไม่สามารถใช้งานต่อได้ รองลงมาคือ 17% เปลี่ยนรถไปตามไลฟ์สไตล์หรือความต้องการการใช้รถที่เปลี่ยนแปลงไป 16% เปลี่ยนเพราะกังวลเรื่องค่าบำรุงรักษาที่สูงขึ้น 16% เปลี่ยนเพราะรถถึงอายุการใช้งานที่กำหนดไว้ 9% เปลี่ยนเพราะรถรุ่นใหม่มีรูปแบบ หรือฟังก์ชันที่มีความน่าสนใจมากกว่า และ 4% เลือกที่จะเปลี่ยนเพราะรถถึงระยะ (เลขไมล์) ที่กำหนดไว้

ทั้งนี้ 70% ของผู้ตอบแบบสำรวจตัดสินใจเปลี่ยนรถยนต์เมื่อรถมีอายุโดยเฉลี่ย 9 ปี

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.