Honda City Hatchback 2024 ไมเนอร์เชนจ์ใหม่ เคาะราคา 599,000 - 799,000 บาท

Honda City Hatchback 2024 โฉมไมเนอร์เชนจ์ถูกเปิดตัวอย่างเป็นทางการแล้ว เพิ่ม Honda SENSING ทุกรุ่นย่อย พร้อมปรับราคาจำหน่ายรุ่นท็อป e:HEV RS ลงเหลือ 799,000 บาท ส่งผลให้มีราคาจำหน่ายทั้งรุ่นเทอร์โบและ e:HEV ระหว่าง 599,000 - 799,000 บาท

ราคาทางการ Honda City Hatchback 2024

• รุ่น S+ ราคา 599,000 บาท
• รุ่น SV ราคา 679,000 บาท
• รุ่น RS ราคา 749,000 บาท
• รุ่น e:HEV SV ราคา 729,000 บาท
• รุ่น e:HEV RS ราคา 799,000 บาท

ฮอนด้า ซิตี้ แฮทช์แบ็ก 5 ประตู โฉมไมเนอร์เชนจ์ ยังคงมีให้เลือกทั้งรุ่นเครื่องยนต์เทอร์โบ 1.0 ลิตร และไฮบริด e:HEV 1.5 ลิตร เพิ่มเติมด้วยระบบความปลอดภัย Honda SENSING เป็นอุปกรณ์มาตรฐานทุกรุ่นย่อย พร้อมทั้งเพิ่มรุ่นย่อย e:HEV SV วางจำหน่ายควบคู่ไปกับ e:HEV RS ที่มีอยู่เดิม

ดีไซน์ภายนอกของ Honda City Hatchback 2024 ใหม่ มีการปรับรายละเอียดเน้นความสปอร์ตยิ่งขึ้น ทั้งกันชนหน้า-หลังดีไซน์ใหม่, กระจังหน้าโครเมียมดีไซน์ใหม่, โลโก้ H Mark ตกแต่งด้วยกรอบสีฟ้า และโลโก้ e:HEV ที่ด้านท้าย (เฉพาะรุ่น e:HEV) และล้ออัลลอยดีไซน์ใหม่ ขนาด 15 นิ้ว (รุ่น S+) ขนาด 15 นิ้วแบบทูโทน (รุ่น SV) และแบบทูโทนขนาด 16 นิ้ว (รุ่น e:HEV SV)

อุปกรณ์เพิ่มเติมภายในห้องโดยสาร ได้แก่ เบาะหนังแท้สลับหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีเทา (รุ่น SV และ e:HEV SV), เครื่องเสียงหน้าจอสัมผัสขนาด 8 นิ้ว Advanced Touch รองรับ Apple CarPlay และ Android Auto แบบไร้สาย และช่อง USB-C ด้านหลัง 2 ตำแหน่ง

รุ่น RS และ e:HEV RS มาพร้อมกันชนหน้า-หลังแบบ RS ดีไซน์ใหม่, สเกิร์ตข้าง,​ กระจังหน้าสีดำเงาแบบ RS, ไฟหน้าแบบ LED พร้อมไฟส่องสว่างเวลากลางวัน LED และไฟท้าย LED, ไฟตัดหมอกคู่หน้าแบบ LED ดีไซน์ใหม่, ล้ออัลลอยสีดำแบบสปอร์ตขนาด 16 นิ้วดีไซน์ใหม่ และเบาะนั่งหุ้มหนังแท้สลับหนังสังเคราะห์ตกแต่งด้วยแถบสีแดง

ทุกรุ่นย่อยถูกติดตั้งระบบความปลอดภัย Honda SENSING ประกอบด้วย 6 ฟังก์ชัน ได้แก่

• ระบบเตือนการชนพร้อมระบบช่วยเบรก (CMBS)
• ระบบช่วยควบคุมรถให้อยู่ในช่องทางเดินรถ (LKAS)
• ระบบเตือนและช่วยควบคุมเมื่อรถออกนอกช่องทางเดินรถ (RDM w. LDW)
• ระบบปรับไฟสูงอัตโนมัติ (AHB)
• ระบบเตือนเมื่อรถคันหน้าเคลื่อนที่ (LCDN)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผัน (ACC) (รุ่น S+, SV และ RS)
• ระบบควบคุมความเร็วอัตโนมัติแบบแปรผันพร้อมระบบปรับความเร็วตามรถยนต์คันหน้าที่ความเร็วต่ำ (ACC w. LSF) (รุ่น e:HEV SV และ e:HEV RS)

ระบบความปลอดภัยอื่นๆ ได้แก่ ระบบแสดงภาพมุมอับสายตาขณะเปลี่ยนเลน Honda LaneWatch, กล้องส่องภาพด้านหลังปรับมุมมอง 3 ระดับ, ระบบเบรกมือไฟฟ้าพร้อม Auto Brake Hold, ถุงลมนิรภัยคู่หน้า ด้านข้างคู่หน้า และม่านถุงลมนิรภัย, ระบบช่วยควบคุมการทรงตัวขณะเข้าโค้ง VSA, ระบบช่วยการออกตัวขณะอยู่บนทางลาดชัน HSA และไฟเตือนเบาะนั่งด้านหลัง (Rear Seat Reminder) เป็นต้น

รุ่น TURBO ติดตั้งเครื่องยนต์เบนซิน 3 สูบ ขนาด 1.0 ลิตร DOHC VTEC TURBO กำลังสูงสุด 122 แรงม้า ที่ 5,500 รอบต่อนาที แรงบิดสูงสุด 173 นิวตัน-เมตร ที่ 2,000 - 4,500 รอบต่อนาที ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ CVT และมีอัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 23.3 กม./ลิตร รองรับน้ำมัน E20 ได้

รุ่น e:HEV ติดตั้งเครื่องยนต์ฟูลไฮบริดทำงานร่วมกันระหว่างมอเตอร์ไฟฟ้า 2 ตัว และเครื่องยนต์เบนซิน 4 สูบ ขนาด 1.5 ลิตร Atkinson Cycle ให้แรงบิดสูงสุดมอเตอร์ไฟฟ้า 253 นิวตัน-เมตร ส่งกำลังด้วยเกียร์อัตโนมัติ E-CVT อัตราสิ้นเปลืองเฉลี่ย 27.8 กม./ลิตร รองรับน้ำมัน E20 ได้

ตัวถังมีให้เลือกทั้งหมด 7 สี ได้แก่ สีน้ำเงิน Brilliant Sporty Blue Metallic (ทูโทนหลังคาดำ), สีแดง Ignite Red Metallic, สีขาว Platinum White Pearl, สีดำ Crystal Black Pearl, สีเทา Meteoroid Gray Metallic, สีเทา Sonic Gray Pearl และสีขาว Taffeta White