เศรษฐา ไม่ถอยดิจิทัลวอลเล็ต ยันประเทศจำเป็นต้องกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “เร่งเครื่อง...ติดสปีดเศรษฐกิจไทย” ในงาน “CEO ECONMASS AWARDS 2023” ณ โรงละครอักษรา คิง เพาเวอร์ ซึ่งจัดขึ้นโดยสมาคมผู้สื่อข่าวเศรษฐกิจ ว่า ตลอดช่วง 10 ปีที่ผ่านมา ประเทศไทยเติบโตในอัตราที่ต่ำมาก คือ เฉลี่ยปีละ 1.8% ระดับหนี้ครัวเรือนเคยอยู่ที่ 76% เพิ่มมาเป็น 90%ต่อจีดีพี เป็นอัตราที่สูงอันดับ 10 ของโลก จึงเป็นที่มาที่รัฐบาลต้องกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่
ขณะที่ สงครามระหว่างอิสราเอล และฮามาส ถึงแม้จะหลายคนมองว่าเป็นเรื่องไกลตัว แต่จริงๆแล้วเป็นเรื่องที่ใกล้ตัวมาก ลองคิดูหากมีคนประมาณ 30,000 คนต้องเสี่ยงชีวิตที่จะทำงานต่อ เพื่อที่จะมาดูแลคนในประเทศอีกประมาณหลายแสนคนที่อยู่ในภูมิลำเนาของเขา ถึงแม้สถานการณ์การต่อสู้ที่อิสราเอลกับฮามาสยังดำเนินต่อด้วยความรุนแรงอย่างต่อเนื่อง แม้รัฐบาลมีมาตรการนำคนเหล่านี้กลับมาได้อย่างเพียงพอ เรามีความพร้อม ทางด้านการขนส่ง แต่เชื่อหรือไม่ แรงงานที่นั่นไม่อยากกลับมา เพียงเพราะว่านายจ้างให้ค่าแรงเพิ่ม 50,000 บาท แต่อาจทำให้เขาเสียชีวิตได้ มันเป็นกระจกสะท้อนว่า เศรษฐกิจไทยต้องการแรงกระตุ้น มันเป็นปัญหาไม่ใช่ปัญหาเพียงความขัดแย้งทางภูมิศาสตร์ แต่มันเป็นปัญหาของเศรษฐกิจในประเทศไทย เพราะฉะนั้นการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ต้องเกิดขึ้น ควบคู่ไปกับการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะสั้นที่รัฐบาลได้ทำไปแล้วไม่ว่าจะเป็นมาตรการลดค่าไฟ ลดค่าน้ำมัน ไปจนถึงพักหนี้เกษตรกร ราคารถไฟฟ้าตลอดสาย บางสีในราคา 20 บาท เพื่อให้พี่น้องประชาชนได้ลดค่าใช้จ่าย เพื่อลืมตาอ้าปากได้
ส่วนการกระตุ้นเศรษฐกิจในระยะกลางในระยะยาว รัฐบาลจะเร่งเดินหน้าการเจรจาเอฟทีเอ ที่ไม่ได้ทำเลยตลอดช่วงเวลา 10 ปีที่ผ่านมา ขณะที่หลายๆ บริษัทยักษ์ใหญ่ทั่วโลก ก็มีข่าวว่าจะย้ายฐานผลิต หรือบริษัทที่เคยพิจารณาว่าจะมาเมืองไทยก็จะไม่เข้ามาลงทุน ไม่ใช่เพราะว่าค่าแรง ที่จะขึ้นไป 400 บาทต่อวัน หรือ 600 บาทภายใน 4 ปี แต่เพราะว่าไทยไม่มี เอฟทีเอ ในหลายๆประเทศ
"หลายๆท่านในที่นี้ ลองคิดอย่างนี้แล้วกันว่า เมื่อ 10 ปีที่แล้วค่าแรงขั้นต่ำ 300 บาทต่อวัน ถ้ารู้ไหมว่าวันนี้ค่าแรงขั้นต่ำเท่าไหร่ เฉลี่ย 337 บาท 10 ปีขึ้นมา 12% รับได้หรือไม่ ดังนั้นการขึ้นค่าแรงลดค่าใช้จ่าย ควบคู่กับการกระตุ้นเศรษฐกิจระยะยาว การลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน และการทำเอฟทีเอต้องเกิดขึ้น" นายเศรษฐา กล่าว
นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ที่ผ่านมาตั้งแต่ตนได้เข้ามาบริหารประเทศไม่ถึง 2 เดือน ได้เดินทางออกไปโรดโชว์ในต่างประเทศหลายประเทศ ล่าสุดไปจีน ไม่ได้เจอแค่ นายสี จิ้นผิง ประธานาธิบดีจีน อย่างเดียว แต่ยังนักธุรกิจมากกว่า 10 บริษัท และมั่นใจว่า การเดินทางครั้งต่อไป รัฐบาลจะไม่เหนียมอายที่จะพานักธุรกิจเข้าไปร่วมโรดโชว์เพื่อเปิดตลาดใหม่ เชื้อเชิญนักลงทุน เพราะการลงทุนทางด้านโครงสร้างพื้นฐานเป็นเรื่องใหญ่เป็นเรื่องสำคัญ จึงไม่อยากให้ประเทศยักษ์ใหญ่อย่างประเทศจีน มองไทยเป็นแค่ทางผ่านของการส่งทุกคนขนส่งสินค้า แต่อยากให้เขามองไทยเป็นฮับของการ สร้างโรงงานเพื่อส่งออกสินค้าของเขาที่เมืองไทย ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีโรงงานผลิตอีวีจากประเทศจีนสูงที่สุดในภูมิภาคนี้ ถ้าไม่นับประเทศจีน แสดงถึงศักยภาพที่เรามีอยู่ไม่ว่าจะเป็นมาตรการส่งเสริมทางด้านภาษี ทักษะของ Engineer ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการบริหารจัดการเรื่องทรัพยากรต่างๆ อินเทอร์เน็ต ไฟฟ้า ทรัพยากรน้ำ รวมไปถึงชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีกว่า ที่นักลงทุนเข้ามาแล้วจะสามารถใช้ชีวิตอย่างสุขสบาย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ โรงเรียนนานาชาติ ที่มีอย่างมากมายไม่ว่าจะเป็น health care system ที่ถือว่าเป็น World Class
ประเทศไทยเป็นประเทศที่มีศักยภาพสูง แต่ต้องการการออกไปโฆษณาต้องการออกไปพูดจาอธิบายให้เขาฟังว่าเรามีอะไรดีๆ เพื่อที่จะเชื้อเชิญให้เข้ามาลงทุนในประเทศไทย ยังมีสภาหอการค้าไทย สภาอุตสาหกรรมไทย ที่มีศักยภาพมีนักธุรกิจที่ประสบความสำเร็จมากมาย เราต้องเป็นทีมไทยแลนด์เราต้องส่งไปพูดคุย เลขาธิการบีโอไอเป็นคนหนุ่มรุ่นใหม่ที่เก่ง หลายๆประเทศที่มีศักยภาพไม่ว่าจะเป็นซาอุดิอาระเบีย ก็ยังไม่มีผู้แทนของ บีโอไอ อยู่ที่นั่น
เมื่อวานนี้ ตนก็มีการพูดคุยกับก.พ.ร.และก.พ. ว่าขออัตราเพิ่มเพื่อที่จะไปพูดคุยเชื่อเชิญนักลงทุนมาเพื่อลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน เพื่อลงทุนในแง่ของตั้งโรงงานผลิตขึ้นมาเพื่อให้เรามีศักยภาพในการยกระดับขีดความแข็งขันของไทย ควบคู่ไปกับการลดภาระค่าใช้จ่ายให้กับพี่น้องประชาชน
อย่างไรก็ตาม ขอย้ำว่า รัฐบาลนี้ไม่ได้ทำแค่ประชานิยม ไม่ได้ทำแค่เพื่อการซื้อเสียง ซึ่งการทำโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เพราะจีดีพีของไทยช่วง 10 ปีที่ผ่านมา บ่งบอกว่าประเทศไทยล้าหลัง ดังนั้นถ้าเราไม่กระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่ผ่านนโยบายต่างๆ ที่ได้แถลงไปแล้ว เชื่อว่าเราไม่สามารถยกระดับประเทศได้ ยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้ทำแค่ดิจิทัลวอลเล็ตเท่านั้น แต่ยังมีนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจอื่นๆอีก ซึ่งโครงการดิจิทัลวอลเล็ต เป็นเพียงแค่ one time ไม่ใช่งบพูกพัน ตอนนี้เงื่อนไขก็อยู่ระหว่างการปรับปรุงอยู่ ถ้ามีใครสามารถให้ข้อเสนอว่า ว่าควรปรับคนที่จะได้รับสิทธิ์ คนรวยไม่ควรได้ จะ cutoff ที่ตรงไหนที่ควรทำก็ยินดี อายุ16 ปีใช้ใหม่ดภาย 6 เดือน เพราะต้องการหมุนเงินเข้าระบบเศรษฐกิจ หรือจะเป็นเงื่อนไขพื้นที่การใช้จ่ายเงิน เป็นอำเภอ หรือจังหวัด ก็กำลังพิจารณาอยู่ แต่เราไม่ต้องการให้เขาใช้เงินสดในเมืองใหญ่ๆ ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจภูมิภาค ไม่รวยกระจุกจนกระจายไม่อยู่แต่ที่เชียงใหม่ภูเก็ต -กรุงเทพเท่านั้น
“เงินดิจิทัล ไม่ใช่งบผูกพัน แต่เป็นนโยบายคนเดียวทั้งหมดเดียว รัฐบาลนี้ยอมรับคำแนะนำยอมรับคำติชม แต่ขอให้คิดนะจีดีพีเฉลี่ยโต 1.8% ภายใน 10 ปีที่ผ่านมา ในขณะที่ประเทศอื่นเขาพัฒนาไปไกลมาก เราไม่ใช่มีนโยบายประชานิยมอย่างเดียว ยังมีการเดินหน้าเอฟทีเอ มีการลงทุนโครงสร้างพื้นฐาน ระยะยาวมากๆ มีโครงการ Land Bridge เราไม่ต้องการให้ไทยเป็นทางผ่าน ของการขนขายสินค้าอย่างเดียว ต้องการกระตุ้นให้มีการมาสร้างโรงงานด้วยในโครงการ Land brid ไม่ใช่คอคอดกะ ไม่ใช่แยกดินแดนซึ่งหลายรัฐบาลก็มีดำริที่จะทำมา แต่รัฐบาลนี้มีความตั้งใจที่ทำให้เกิดขึ้นจริงๆ “นายเศรษฐา กล่าว
ทั้งนี้ โครงการ Land brid จะทำให้ย่นระยะเวลาขนส่งเหลือ 6-9 วัน การคนขายน้ำมันไปทั่วโลก 60% ต้องผ่านช่องแคบมะละกา ถ้าลงจินตนาการดูว่า หากไทยมีแรงสร้างโรงงาน รถไฟในพื้นที่ด้วย ไทยจะกลายเป็นศูนย์กลางการผลิตที่ใหญ่ที่สุด นอกจากประเทศจีนแล้วสามารถขนส่งไปอินเดียไม่ต้องแอฟริกาได้ หากทำได้ถือว่าเป็น Mega Project ที่ใหญ่ที่สุดในโลกโครงการหนึ่ง ซึ่งจะทำให้โลจิสติกส์ทั่วโลกดีขึ้น ทำให้เมืองไทย เป็นประเทศที่น่ามาลงทุนแล้ว ก็ยังเป็นฐานการผลิตของสินค้าหลายๆอย่างของภูมิภาค
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.