4 กสทช.เลื่อนฟังคำพิพากษา ถูก “ไตรรัตน์” ฟ้อง เป็น 23 พ.ย.66

จากกรณีเมื่อวันที่ 11 ก.ย. 2566 ที่นายไตรรัตน์ วิริยะศิริกุล รองเลขาธิการกสทช.และรักษาการเลขาธิการกสทช.เป็นโจทก์ ยื่นฟ้อง 4 กสทช. คือ พลอากาศโท ดร.ธนพันธุ์ หร่ายเจริญ ที่ 1 ศาสตราจารย์ ดร.พิรงรอง รามสูต ที่ 2 รองศาสตราจารย์ ดร.ศุภัช ศุภชลาศัย ที่ 3 รองศาสตราจารย์ ดร.สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ ที่ 4 และ 1 รองเลขาธิการกสทช.ผู้ช่วย ศาสตราจารย์ ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ ที่ 5 เป็นจำเลย ในคดีอาญาหมายเลขดำที่ อท 155/2566

ในข้อหา เป็นเจ้าพนักงานร่วมกันปฏิบัติ หรือละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบฯ ตามประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 83, 86, 157 พระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการป้องกันและปราบปราม การทุจริต พ.ศ. 2561 มาตรา 172 

ปมซื้อลิขสิทธิ์ถ่ายทอดสดฟุตบอลโลก เป็นเหตุเปลี่ยนรักษาการเลขาธิการ กสทช. แทนตัวเอง และศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลางรับคดีไว้เพื่อตรวจคำฟ้อง ให้นัดฟังคำสั่ง หรือคำพิพากษา ในวันที่ 3 ต.ค. 2566 นั้น

ในวันที่ 3 ต.ค. 2566 จำเลยทั้งห้ายื่นคำร้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงและขอเลื่อนนัดฟังคำพิพากษา 23 พ.ย.66 โดยอ้างเหตุว่าการพิจารณาพิพากษาคดีนี้ต่อไปจะกระทบต่อการคัดเลือกเลขาธิการสานักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ ในวันที่ 4 ต.ค. 2566 และจำเลยทั้งห้ายังประสงค์ ชี้แจงข้อเท็จจริงเพิ่มเติมต่อศาลภายใน 30 วันนับแต่วันที่ 2 ต.ค. 2566

อย่างไรก็ตาม นอกจากคดีดังกล่าวแล้ว ศาสตราจารย์ ภูมิศิษฐ์ มหาเวสน์ศิริ รองเลขาธิการกสทช.ยังได้มีคดีได้เป็นโจทก์ยื่นฟ้องศาสตราจารย์คลินิก สรณ บุญใบชัยพฤกษ์  ประธาน กสทช. เป็นจำเลย ต่อศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง เมื่อวันที่ 27 ก.ย. 2566 เหตุจงใจละเว้นการปฏิบัติหน้าที่โดยมิชอบ จากกรณีที่ที่ไม่ลงนามในคำสั่งแต่งตั้งผู้ช่วย ศาสตราจารย์ ภูมิศิษฐ์ ตามมติ กสทช. ครั้งที่ 13/2566 ตามระเบียบ กสทช. ว่าด้วยการรักษาการแทนฯ ข้อ 6 ที่ประธานกรรมการ กสทช. มีหน้าที่ต้องแต่งตั้งรองเลขาธิการโดยความเห็นชอบของ กสทช.เป็นผู้รักษาการแทน โดยศาลนัดฟังคำพิพากษา 16 ต.ค.2566