ttbกางแผนช่วยคนไทยปลดหนี้170,000 คน ภายใน 3 ปีมุ่งลดดอกเบี้ยรวม 5.6 พันล้าน

"มองว่าแบงก์เป็นผู้สร้างปัญหาก็ต้องเป็นผู้แก้ด้วย จึงต้องการมอบ Financial Well-being ให้กับลูกค้ามนุษย์เงินเดือนและพนักงาน" คือคำบอกเล่าของ นายปิติ ตัณฑเกษม ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร ทีเอ็มบีธนชาต หรือ ttb ถึงที่มาของการผลักดันภารกิจช่วยคนไทยปลดหนี้ ที่ทางธนาคารตั้งเป้าหมายว่าภายใน 3 ปี จะปลดหนี้ได้ถึง 170,000 คน

โดยแบ่งเป็นในส่วนโครงการรวบหนี้ ทีทีบีสำหรับลูกค้า 20,000 ราย วงเงินรวบหนี้ 18,000 ล้านบาท และจะช่วยลดดอกเบี้ยได้ 2,000 ล้านบาท อีกส่วนคือผ่านโครงการสินเชื่อสวัสดิการ ทีทีบี จำนวน 150,000 คน เป็นวงเงิน 30,000 ล้านบาท และช่วยลดดอกเบี้ยได้ 3,600 ล้านบาท

อย่างไรก็ตามล่าสุด ในส่วนโครงการรวบหนี้ ทีทีบีที่มุ่งเพิ่มสภาพคล่องและลดภาระดอกเบี้ย สำหรับลูกค้าสามารถช่วยคนไทยปลดหนี้ไปแล้วจำนวน 5,000 ราย คิดเป็นวงเงินสินเชื่อ 3,600 ล้านบาท โดยให้วงเงินเฉลี่ยต่อราย 900,000 บาท (หนี้ที่มีหลักประกัน) และ วงเงินเฉลี่ยต่อราย 200,000 บาท (หนี้ที่ไม่มีหลักประกัน) โดยรวมแล้วได้แบ่งเบาภาระดอกเบี้ยไปราว 400 ล้านบาท

สำหรับแผนระยะต่อไปของโครงการรวบหนี้ ทีทีบี คือ ธนาคารจะมุ่งปลดล็อกกับดักทั้งในเรื่องจำนวนหนี้ที่มาปิดเกินจำนวนที่กำหนดและราคาประเมินหลักประกันไม่ครอบคลุมยอดหนี้ อีกทั้งเร่งพัฒนาระบบเพื่อขยายช่องทางให้ลูกค้าเข้าร่วมโปรแกรมได้มากขึ้น ตลอดจนขยายกลุ่มลูกค้าที่จะเข้าร่วมโคงการโดยนำเสนอให้กลุ่มลูกค้าที่ถูกปฏิเสธเพราะภาระหนี้สูง แต่มีประวัติชำระเงินยังดีอยู่ ให้สามารถเข้าโครงการรวบหนี้ได้

"หลังทำมา 2 ปี เห็นแนวโน้มพฤติกรรมและวินัยทางการเงินของลูกค้าส่วนใหญ่ดีขึ้น" 

สำหรับโครงการสินเชื่อสวัสดิการ ทีทีบีที่มุ่งเน้นเรื่องการลดภาระดอกเบี้ยให้มนุษย์เงินเดือนนั้น ทีทีบีได้นำเสนอสินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์ทีทีบี แบบไม่มีหลักทรัพย์ค้ำประกัน เพื่อเสริมสภาพคล่องและช่วยแบ่งเบาภาระหนี้ดอกเบี้ยสูงให้ต่ำลง เริ่มต้นที่ 7.99% ต่อปี และตั้งแต่ปี 2565 ทีทีบีได้ขยายตลาดสินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์ฯ ด้วยการร่วมลงนามในบันทึกข้อตกลง (MOU) โครงการสินเชื่อสวัสดิการเพื่อพนักงานกับบริษัทเอกชน หน่วยงานภาครัฐและรัฐวิสาหกิจ ซึ่งปัจจุบันรวมแล้วกว่า 1,000 บริษัท มีจำนวนพนักงานราว 300,000 คน

โดยปัจจุบันมีกลุ่มลูกค้าที่เข้าร่วมโครงการสินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์เพื่อพนักงาน แบ่งเป็นลูกค้าบัญชีเงินเดือนทีทีบีที่มี MOU กับ ttb ที่จำนวน 600 บริษัท และเป็นจำนวนพนังกานที่ 126,000 คน และที่ไม่มี MOU กับ ttb ที่จำนวน 400 บริษัท และเป็นจำนวนพนักงานที่ 160,000 ราย 

ทั้งนี้โครงการสินเชื่อสวัสดิการอเนกประสงค์เพื่อพนักงานให้วงเงินเฉลี่ยที่ 230,000 บาทต่อราย โดยเดิมในปีแรกจะมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสินเชื่อส่วนบุคคลปกติที่ 27,000 บาทต่อปี แต่หลังจากเข้าโครงการจะในปีแรกจะมีค่าใช้จ่ายดอกเบี้ยสินเชื่อสวัสดิการที่ 16,000 บาทต่อปี หรือเท่ากับรวมแล้วช่วยลดดอกเบี้ยได้ 41% 

นอกจากนี้ นายปิติมองว่าด้วยกลุ่มมนุษย์เงินเดือนเป็นหนึ่งในกลุ่มที่กำลังเผชิญปัญหาหนี้มากที่สุดและจะทวีความรุนแรงเพิ่มขึ้นหากไม่มีการช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน จึงทำให้ในช่วงที่ผ่านมา ทีทีบี ได้พัฒนาโซลูชันทางการเงินที่จะเน้นการช่วยมนุษย์เงินเดือนปลดหนี้ให้เกิดผลลัพธ์ได้จริงมากที่สุดอย่างต่อเนื่อง  

ล่าสุด ธนาคารได้จัดทำ “โปรแกรมปลดหนี้ เพื่อพนักงานทีทีบี” โดยจะมีกิจกรรมทั้งการตรวจสุขภาพการเงินออนไลน์และเรียนรู้วิชาการเงินที่เหมาะกับสุขภาพการเงินของแต่ละคนผ่าน E-Learning ที่เน้นเพิ่มภูมิคุ้มกันหนี้และเน้นรักษาปัญหาหนี้ ซึ่งหากพนักงานคนไหนมีอาการหนี้ที่น่าเป็นห่วง จะได้พบโค้ชปลดหนี้ เพื่อรับคำปรึกษาฟรีแบบตัวต่อตัว โดยเราเชื่อว่า การเริ่มต้นสร้างชีวิตทางการเงินที่ดีให้กับพนักงานในองค์กรจะเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีในการส่งต่อชีวิตทางการเงินที่ดีให้กับผู้คนอื่น ๆ ในสังคมต่อไป และมีแผนจะขยายโปรแกรมนี้สู่กลุ่มลูกค้าและประชาชนทั่วไปในอนาคต

อย่างไรก็ตาม ในส่วนกลยุทธ์ที่สำคัญของปีนี้คือ Ecosystem Play Business Model หรือ การสร้างชีวิตทางการเงินของลูกค้าให้ดีขึ้นรอบด้านโดยมุ่งเน้น 3 กลุ่มเป้าหมายหลักที่ธนาคารมีความเชี่ยวชาญและมีฐานลูกค้าเป็นแต้มต่อ ได้แก่ กลุ่มมนุษย์เงินเดือน (Salaryman Ecosystem) กลุ่มคนมีรถ (Car Owner Ecosystem) และกลุ่มคนมีบ้าน (Home Owner Ecosystem) เพื่อช่วยให้ลูกค้าทุกกลุ่มสามารถบริหารจัดการเรื่องสำคัญในชีวิตได้อย่างมีประสิทธิภาพและรอบด้านมากกว่าแค่เรื่องการเงิน 

โดยที่ผ่านมา ถือได้ว่าทีทีบีสามารถต่อยอดธุรกิจจากฐานลูกค้ากลุ่มคนมีรถได้อย่างโดดเด่น เห็นได้จากความสำเร็จจากการเปิดตัวฟีเจอร์ My Car บนแอป ttb touch ที่ช่วยให้ลูกค้ามีรถ ได้รับประสบการณ์ใหม่ของความสะดวกสบายในการจัดการเรื่องสำคัญเกี่ยวกับรถ เช่น การเติมเงิน-เช็คยอดบัตรทางด่วน Easy Pass การต่อประกันและพ.ร.บ.รถยนต์  การประเมินราคารถพร้อมประกาศขาย ตลอดจนโปรโมชันต่าง ๆ เกี่ยวกับการดูแลรถ เป็นต้น  

โดยปัจจุบันมีรถที่นำมาลงทะเบียนเพื่อใช้งานฟีเจอร์นี้ถึงกว่า 580,000 คัน มีผู้ใช้มากกว่า 150,000 คนต่อเดือน ส่งผลให้ลูกค้าสินเชื่อรถยนต์ของธนาคารมีพฤติกรรม Active บนดิจิทัลแบงก์กิ้งมากกว่า 78%  รวมถึงการพัฒนาแพลตฟอร์มบริการซื้อ-ขาย “รถโดนใจ” (Roddonjai) ที่ช่วยคู่ค้าเต็นท์รถมือสองจากการโดนดิสรัปชันในตลาด โดยในช่วง Soft Launch ที่ผ่านมามีดีลเลอร์ผู้จำหน่ายรถเข้ามาใช้งานแพลตฟอร์มแล้วมากกว่า 1,200 ราย โดยธนาคารจะมีการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ พร้อมกิจกรรมทางการตลาดแบบเต็มรูปแบบในเร็ว ๆ นี้ 

ในส่วนของกลุ่มคนมีบ้าน ล่าสุดธนาคารเพิ่งเปิดตัวบัตรเครดิตและบัตรกดเงินสด ttb l Global House ซึ่งเต็มไปด้วยสิทธิประโยชน์ที่คุ้มค่าสำหรับคนรักบ้าน ได้รับการตอบรับที่ดี มียอดบัตรใหม่รวมราว 30,000 ใบ ภายใน 2 เดือน และในเร็ว ๆ นี้ จะมีการเปิดตัวฟีเจอร์ My Home เพื่อให้ลูกค้าสามารถจัดการเรื่องสำคัญเกี่ยวกับบ้านได้อย่างมีประสิทธิภาพผ่านแอป ttb touch

สำหรับกลุ่มมนุษย์เงินเดือน ทีทีบีมีเป้าหมายที่จะเป็นมากกว่าบัญชีเงินเดือนสำหรับลูกค้า Payroll ซึ่งธนาคาร ได้มีการเปิดตัวฟีเจอร์ My Tax ผู้ช่วยบริหารจัดการทุกเรื่องภาษี และล่าสุดได้เริ่มเปิดตัว my work by ttb ระบบบริหารงานบุคคลแบบมืออาชีพ ซึ่งเป็น HRM System ที่จะช่วยเจ้าของธุรกิจ โดยเฉพาะธุรกิจ SME และฝ่ายบุคคลขององค์กรสามารถบริหารงานบุคคลได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกมิติ เป็นบริการใหม่ที่เราได้เริ่มเปิดตัวเว็บไซต์ mywork.ttbbank.com ให้ลูกค้าธุรกิจที่สนใจโซลูชันนี้เข้ามาลงทะเบียนล่วงหน้า และจะเปิดบริการอย่างเป็นทางการในช่วงปลายปีนี้

สำหรับ my work by ttb จะช่วยให้ฝ่ายบุคคลสามารถจัดการเรื่องสำคัญเกี่ยวกับที่ทำงานได้ทั้ง คำนวณเงินเดือนและสามารถโอนจ่ายเงินเข้าบัญชีพนักงานได้ในคลิกเดียว  จัดทำเอกสารต่าง ๆ ช่วยลดขั้นตอน Manual รวมถึงการเบิก - จ่ายต่าง ๆ ของพนักงาน  จัดการแบบดิจิทัล ช่วยลดต้นทุน และเพิ่มประสิทธิภาพการทำงานให้กับองค์กรได้เป็นอย่างดี และเพื่อตอบโจทย์การสร้าง Ecosystem ให้สมบูรณ์ ในส่วนของพนักงานเองก็สามารถใช้งานได้ง่าย ๆ ผ่านแอป ttb touch ทั้งในส่วนของการบันทึกเวลาเข้า-เลิกงาน การจัดการวันลา การเบิกจ่าย / โอที รวมถึงการขออนุมัติต่าง ๆ   

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.