“สรรพสามิต ” ชง ครม.เคาะ “Carbon Tax” 10 ธ.ค.นี้
นางสาวกุลยา ตันติเตมิท อธิบดีกรมสรรพากร กล่าวภายในงานสัมมนา “Sustainability Forum 2025: Synergizing for Driving Business” ภายใต้หัวข้อ “Government's Mechanisms to Achieve SDGs” จัดโดยกรุงเทพธุรกิจ ว่า กระทรวงการคลัง โดยกรมสรรพากร เตรียมเสนอให้คณะรัฐมนตรี(ครม.) ในวันอังคารที่ 10 ธ.ค.67 พิจารณาเห็นชอบการเก็บภาษีคาร์บอน Carbon Tax โดยการเก็บภาษีดังกล่าวจะครอบคลุมสินค้าเกี่ยวกับน้ำมันเชื้อเพลิงทั้งหมด แต่ยืนยันว่าจะไม่ส่งผลกระทบกับประชาชน และภาคธุรกิจ โดยเร่งให้มีผลบังคับใช้ภายในปี 2567
การเก็บภาษีคาร์บอนต้องเกิดขึ้นแน่นอน เพราะเป็นสิ่งจำเป็นที่ต้องเกิดขึ้น แต่จะไม่เป็นภาระผู้ประกอบการต้องแบกต้นทุนเพิ่มขึ้น ภาระผู้บริโภคไม่เพิ่มขึ้น เพราะภาษีจะถูกฝังในราคาผลิตภัณฑ์น้ำมัน ราคาจะเท่าเดิมไม่เปลี่ยนแปลง ซึ่งวัตถุประสงค์เพื่อสร้างแรงจูงใจให้คนเปลี่ยนพฤติกรรมผู้บริโภค และผู้ผลิตให้หันไปผลิต และบริโภคผลิตภัณฑ์ที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อมมากขึ้น เพื่อลดการปล่อยคาร์บอนสู่โลก
ทั้งนี้ ข้อมูลจาก World Economic Forum (WEF) ชี้ว่า 10 ปีประเทศที่มีกลไกลเก็บภาษีคาร์บอน ปริมาณการปล่อยคาร์บอนสู่โลกเพิ่มขึ้นปีละ 2% ประเทศไม่มีภาษี ปล่อยคาร์บอนเพิ่มขึ้น 3% แก็ปจะกว่างขึ้น 5% และหากดูจากประเทศที่ชำนาญ มีประสบการณ์ และประสบความสำเร็จในเรื่องนี้ เช่น สวีเดิน สิงคโปร์ ที่การเก็บจากน้ำมันเชื้อเพลิง พลังงานอยู่ที่127 เหรียญต่อตันคอร์บอน ญี่ปุ่นเก็บในอัตราน้อยประมาณ 42 เหรียญต่อตันคาร์บอน โดยสวีเดนเก็บภาษีคาร์บอร์น และนำรายได้เข้ารัฐ เพื่อนำไปใช้จ่ายจ่ายผ่านกระบวรการงบประมาณ ส่วนญี่ปุ่นเก็บเพื่อนำเข้ากองทุนเพื่อดูแลสิ่งแวดล้อม สำหรับไทยจัดเก็บจากภาษีน้ำมัน ส่วนพลังงานทดแทนไม่เก็บภาษี ขณะที่ไบโอดีเซล 100 ไม่เกิลบจากพลังงานทดแทน เพื่อสนับสนุนสิ่งแวดล้อม โดยนำเงินภาษีนี้นำเข้ารัฐ เข้าสู่กระบวนการงบประมาณ และนำเงินไปสนับสนุนโครงการลดโลกร้อนต่างๆ
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.