ไร้ปัจจัยใหม่! SET แกว่งกรอบ 1,445-1,465 จุด รอเม็ดเงินลดหย่อนภาษีท้ายปี

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.พาย ระบุว่า ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.32% อย่างไรก็ตาม Nasdaq ปิดตลาดในแดนลบท่ามกลางการซื้อขายที่ผันผวนเพราะรอดูผลประกอบการ NVIDIA (รายงานหลังปิดตลาด) ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดลบ 0.68% หลังจากที่สหรัฐฯ รายงานสต็อกน้ำมันดิบเพิ่มขึ้นมากกว่าคาดการณ์

     เมื่อคืนที่ผ่านมาสหรัฐฯมิได้มีตัวเลขเศรษฐกิจที่สำคัญ นักลงทุนรอติดตามผลประกอบการ NVIDIA หลังตลาดหุ้นสหรัฐฯปิดทำการพบว่ากำไรสุทธิขยายตัวมากกว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 7.8% (+109%YoY , +16%QoQ) และรายได้มากกว่าคาดการณ์ราว 5.5% อย่างไรก็ตามอัตรากำไรขั้นต้นลดลงเหลือ 74.6% จาก Q2FY25 ที่ 75.1% แต่ดีขึ้นจาก Q3FY24 ที่ 74% ทั้งนี้หลังปิดตลาดราคาหุ้น NVIDIA ปรับลดลงเล็กน้อย ส่วนนึงอาจเกิดจากผิดหวังกับถ้อยแถลงจากนี้ของบริษัทจากประเด็นตัว Blackwell ที่อาจล่าช้า

     ประกอบกับราคาหุ้นปรับขึ้นมาเยอะมาก (YTD ปรับขึ้นมาแล้ว 202%) ปัจจัยอื่นอย่างสินทรัพย์ต่างๆเมื่อคืนพบว่า Dollar Index กลับขึ้นมาแข็งค่า และอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯทรงๆตัว อย่างไรก็ตามราคาทองคำปรับขึ้นต่อเนื่องอาจเกิดจากความกังวลสงครามของนักลงทุนเกี่ยวกับความขัดแย้งระหว่างรัสเซีย - ยูเครน แต่ตลาดหุ้นและน้ำมันมิได้ตอบสนองต่อสงครามเท่าใด สะท้อนมุมมองว่านักลงทุนบางส่วนกังวลแต่เป็นเพียงกลุ่มเล็กๆ

     ตลาดหุ้นไทยวานนี้ปรับขึ้นมาบวกเล็กน้อย (+2.4 จุด , +0.16%) แต่ส่วนนึงเป็นผลจาก DELTA ที่มีผลต่อดัชนีมากถึง 8 จุด หากตัดออกตลาดหุ้นไทยอาจติดลบด้วย DELTA ที่กลับมาซื้อขายถึง PE 100x , PBV 28x และ YTD ราคาหุ้นปรับขึ้นมาแล้ว 100% ทำให้เมื่อวานที่ผ่านมาตลาดหลักทรัพย์ตัดสินใจนำ DELTA เข้าสู่ Cash Balance ระดับที่ 1 หรือหมายความว่าหากจะซื้อ DELTA ต้องใช้เงินสดเท่านั้นมิสามารถใช้บัญชีอื่นได้ ระยะสั้นอาจสร้างแรงกดดันต่อ DELTA และมีผลมายัง SET ด้วยมูลค่ากิจการอันดับแรกของตลาด (2.1 ล้านล้านบาท)

     เมื่อประกอบกับตลาดหุ้นทั่วโลกยังไร้ปัจจัยใหม่ๆและวานนี้นักลงทุนต่างชาติกลับมาขายสุทธิ 1.3 พันล้านบาท พร้อมกับสถาบันอีก 253 ล้านบาทจึงน่าจะกดดัน SET INDEX ปรับลงในกรอบ 1,445 - 1,465 จุด

     แต่ในเชิงกลยุทธ์การลงทุนจังหวะปรับฐานยังมองเป็นโอกาสสะสมเพื่อรอการฟื้นตัวช่วงถัดไปหนุนจากกระแสเงินทุนภายในประเทศตามการซื้อหน่วยลดหย่อนภาษีและสถิติหุ้นไทยมักดีในช่วงเดือน ธ.ค. แนะนำกลุ่มท่องเที่ยว (AOT CENTEL MINT SAV) ค้าปลีก (BJC CRC CPALL HMPRO) ธนาคารพาณิชย์ (BBL KBANK KTB SCB)

     คืนนี้รอติดตามตัวเลขคนขอรับสวัสดิการว่างงานของสหรัฐฯ Bloomberg Consensus ประเมินไว้ที่ 2.2 แสนรายพร้อมกับยอดขายบ้านมือสอง Bloomberg Consensus คาดการณ์ที่ 3.95 ล้านหลังคาเรือน

     หุ้นแนะนำวันนี้ คือ หุ้น CENTEL (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 48.25 บาท) กำไรปกติในไตรมาส 3/67 อยู่ที่ 163 ล้านบาท (+121% YoY, -3% QoQ) ใกล้เคียงกับที่เราคาด แต่สูงกว่าที่ตลาดคาด 18% โดยกำไรปรับตัวดีขึ้นจากรายได้ต่อห้องพักรวม (RevPar) ที่เติบโต YoY

     ขณะที่ ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็นบวกต่อกำไรในไตรมาส 4/67 ด้วยแนวโน้มเติบโต QoQ ตามปัจจัยฤดูกาล ถึงแม้มีโอกาสอ่อนตัว YoY ด้วยค่าใช้จ่ายโรงแรมเปิดใหม่ที่สูงขึ้น และโรงแรมเดิมที่อย่ระหว่างปรับปรุง 2 แห่งคาดให้บริการได้บางส่วนในปลายปี 2567 อย่างไรก็ตามในปี 2568 ฝ่ายวิเคราะห์เห็นแนวโน้มที่ดีของธุรกิจหลัก หนุนด้วยการเติบโตของนักท่องเที่ยว และ RevPar ที่คาดสูงขึ้น

     CPN (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 87 บาท) กำไรสุทธิงวดไตรมาส 3/67 ที่ 4,126 ล้านบาทดีกว่าที่ฝ่ายวิเคราะห์คาดไว้ 5% โดยทรงตัวจากปีจากผลดีของกำไรขั้นต้นที่ปรับตัวดีขึ้นหลังจากรายได้จากยอดขายสาขาเดิมเพิ่มขึ้นได้กว่า 7% แต่ลดลง 9%QoQ มีปัจจัยลบจากผลขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนเข้ามากว่า 340 ล้านบาท และยอดโอนอสังหาริมทรัพย์ลดลง สำหรับแนวโน้มช่วงไตรมาส 4/67 ฝ่ายวิเคราะห์ยังมีมุมมองเดิมที่คาดว่าในแง่รายได้จะกลับมาเติบโตได้อีกครั้ง

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.