BBIK อวดกำไรไตรมาส 3/67 พุ่ง 115% มั่นใจผลงานปีนี้นิวไฮ
นายพชร อารยะการกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บลูบิค กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ BBIK กล่าวว่า กำไรสุทธิในไตรมาส 3/2567 อยู่ที่ 92 ล้านบาท เติบโต 115% เทียบกับไตรมาสที่ผ่านมา (QoQ) และเพิ่มขึ้น 15% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ขณะที่รายได้ เพิ่มขึ้น 15% QoQ อยู่ที่ 389 ล้านบาทและเติบโต 16% เทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ผลจากความต้องการปรับใช้เทคโนโลยี (Technology Adoption) และดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันฟื้นตัวตามภาพรวมเศรษฐกิจ หลังการลงทุนภาคเอกชนกลับมาขยายตัวและการเบิกจ่ายงบประมาณของภาครัฐเร่งตัวขึ้น ปัจจัยข้างต้นยังส่งผลบวกให้รายได้ 9 เดือนแรกของบริษัทฯ พุ่งแตะ 1,098 ล้านบาท เติบโต 17% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน (YoY) โดยมีกำไรสุทธิ 205 ล้านบาท
และด้วยการฟื้นตัวของการลงทุนด้านเทคโนโลยีและดิจิทัลของภาคธุรกิจ คาดเป็นสัญญาณบวกต่อเนื่องในไตรมาส 4 โดยมีแรงส่งสำคัญจากภาคการท่องเที่ยว การบริโภค การปรับลดอัตราดอกเบี้ยและมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐที่กำลังทยอยออกมาอย่างต่อเนื่อง หนุนให้ผลประกอบการทั้งปี 2567 ทำนิวไฮต่อเนื่องเป็นปีที่ 8 ด้านมูลค่างานแบ็คล็อค (ณ สิ้นเดือนกันยายน 2567) ของบริษัทยังอยู่ในระดับสูงถึง 1,168 ล้านบาท เตรียมรับรู้รายได้ 499 ล้านบาทในปีนี้ แบ่งออกเป็นบริษัทแม่และบริษัทย่อย 355 ล้านบาท และบริษัทร่วมและกิจการร่วมทุน 144 ล้านบาท ที่เหลือจะทยอยรับรู้ในปี 2568 - 2572
ด้วยสภาพแวดล้อมทางธุรกิจกำลังเปลี่ยนผ่านสู่โลกดิจิทัล ซึ่งทุก ๆ การเปลี่ยนแปลงและกระแสเทคโนโลยีใหม่จะกระตุ้นให้เกิดการปรับใช้เทคโนโลยีมากขึ้น อีกทั้งองค์กรที่มองข้ามการลงทุนด้านดิจิทัลอาจต้องเผชิญกับความเสี่ยงและเสียเปรียบทางธุรกิจในอนาคต
เหตุนี้การลงทุนด้านเทคโนโลยีจึงฟื้นตัวอย่างรวดเร็ว เมื่อภาพรวมเศรษฐกิจกลับมาขยายตัว โดยเฉพาะในกลุ่มอุตสาหกรรมที่มีศักยภาพสูงและเป็นลูกค้าหลักของบริษัทฯ อาทิ ธุรกิจการเงินและธนาคาร ค้าปลีก และประกันภัย
“ปัจจุบันเทคโนโลยีมีอิทธิพลต่อการดำเนินธุรกิจอย่างมีนัยสำคัญ พัฒนาการอย่างต่อเนื่องทำให้เกิดเทคโนโลยีใหม่ๆนำมาซึ่งข้อดีและความเสี่ยง ส่งผลให้องค์กรจำเป็นต้องปรับใช้เทคโนโลยีอย่างมีกลยุทธ์และต่อเนื่อง เพื่อให้ธุรกิจสามารถใช้ประโยชน์สูงสุดจากเทคโนโลยีและจัดการกับความเสี่ยงต่างๆ ปัจจัยดังกล่าวนี้หนุนให้ความต้องการทำดิจิทัล ทรานส์ฟอร์เมชันยังเป็นเทรนด์ที่แข็งแกร่ง ยกตัวอย่าง กระแส Generative AI ที่กำลังมาแรงส่งผลกระทบต่อธุรกิจและการใช้ชีวิตของมนุษย์ กดดันให้องค์กรเริ่มปรับใช้ AI มากขึ้นและนำไปสู่เทรนด์ AI Transformation ที่จะช่วยสร้างข้อได้เปรียบทางธุรกิจ ผ่านการวิเคราะห์และคาดการณ์อย่างแม่นยำของโมเดล AI ขั้นสูง และเปลี่ยนกระบวนการทำงาน
ซึ่งแนวโน้มนี้ส่งผลบวกต่อภาพรวมของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีในอนาคต โดยเฉพาะในส่วนบริการของบลูบิคที่เกี่ยวข้องกับการวางกลยุทธ์และแผนงาน AI Transformation การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานด้านเทคโนโลยีที่มีความยืดหยุ่นสูงสามารถรองรับการขยายตัวทางธุรกิจในอนาคต โซลูชันด้านความปลอดภัยไซเบอร์และ Enterprise Resource Planning (ERP) ที่ขับเคลื่อนด้วย AI รวมถึงการบริหารจัดการโครงการดิจิทัลทรานส์ฟอร์เมชันที่มีความซับซ้อน ซึ่งแนวโน้มความต้องการเหล่านี้สอดรับกับบริการแบบครบวงจรของเรา”
แผนงานรองรับการขยายตัวทางธุรกิจและเทรนด์เทคโนโลยีสำคัญในอนาคตของบลูบิค แบ่งออกเป็น 2 ส่วน ได้แก่
1) แผนงานระยะสั้น การเร่งเดินหน้าเพิ่ม Utilization Rate ของพนักงานบริษัทในเครือ เพื่อรองรับโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้น พร้อมเดินเครื่อง Cross Resource และ Cross Selling อย่างเข้มข้น ตั้งเป้าลดต้นทุนและขยายฐานลูกค้ากลุ่มใหม่ที่มีศักยภาพ อาทิ ภาครัฐและอุตสาหกรรมการผลิต
2) แผนงานระยะกลาง - ยาว การให้ความสำคัญกับ Upskill และ Reskill พนักงาน เตรียมพร้อมรับความเปลี่ยนแปลงและเทรนด์เทคโนโลยีใหม่ๆในโลกดิจิทัลที่นับจากนี้จะมีความซับซ้อนและต้องใช้ความเชี่ยวชาญเฉพาะหลายด้าน เพื่อตอบสนองความต้องการและช่วยองค์กรลูกค้าสร้างข้อได้เปรียบทางธุรกิจจากการใช้เทคโนโลยีอย่างมีประสิทธิภาพ
“ตลอดระยะเวลา 11 ปีที่ผ่านมา บลูบิค เติบโตในทุกมิติ ปัจจุบันบริษัทมีจำนวนพนักงานผู้เชี่ยวชาญด้านเทคโนโลยีมากเป็นอันดับต้นๆของประเทศ เทียบชั้นกับบริษัทที่ปรึกษาด้านเทคโนโลยีระดับโลกและได้รับความไว้วางใจจากองค์กรลูกค้าให้ช่วยขับเคลื่อนโครงการดิจิทัลขนาดใหญ่ระดับประเทศอย่างต่อเนื่อง ยิ่งไปกว่านี้เรายังสามารถสร้าง ผลกำไรอย่างต่อเนื่องให้แก่นักลงทุนและผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย ซึ่งทั้งหมดทั้งมวลนี้เป็นผลจากความมุ่งมั่นและพัฒนาอย่างไม่หยุดยั้งของบริษัทฯ เพื่อบรรลุพันธกิจการส่งมอบบริการที่ดีที่สุดให้แก่องค์กรลูกค้า”
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.