เสียงไม่แตก นักวิเคราะห์-นักเศรษฐศาสตร์ คาดประชุม กนง. 16 ต.ค. ไม่ลดดอกเบี้ย

          การประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (กนง.) ของธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ในวันที่ 16 ต.ค. 2567 ความเห็นจากภาคธนาคาร นักวิเคราะห์ ส่วนใหญ่ คาดว่ากนง.จะยังคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ 2.50 % ตามเดิม ซึ่งนายพูน พานิชพิบูลย์ นักกลยุทธ์ตลาดเงินตลาดทุน Krungthai GLOBAL MARKETS ธนาคารกรุงไทย เปิดเผยว่า กนง. อาจมีมติ 6-1 หรือ 5-2 ให้คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.50% ตามเดิม การลดดอกเบี้ยครั้งแรกอาจเริ่มในช่วงครึ่งแรกของปีหน้า 

          สอดคล้องกับศูนย์วิจัยกสิกรไทยที่ระบุว่า กนง. ยังมีมติไม่เป็นเอกฉันท์คงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.50% ต่อเนื่อง และอาจเริ่มปรับลดดอกเบี้ยอย่างเร็วสุดในเดือน ธ.ค. 2567 และคาดว่า ธปท. อาจปรับลดประมาณการเศรษฐกิจไทยปี 2568 จากประมาณการครั้งก่อนหน้าที่ 3.0% ท่ามกลางความเสี่ยงที่เพิ่มสูงขึ้น

          ขณะที่ บล.พาย ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ข้อมูลจาก Bloomberg Concensus ประเมินว่าจะคงดอกเบี้ยนโยบายระดับเดิม ซึ่งทำการสำรวจนักเศรษฐศาสตร์ จำนวน 21 ท่าน พบว่า มีเพียง 3 ท่าน ที่คาดว่าจะปรับลดดอกเบี้ยลง 0.25% 

          ความเห็นของ บล.พาย คาดว่าการประชุมจะคงดอกเบี้ยระดับเดิม ด้วยเหตุผลที่ว่าธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีแนวโน้มจะปรับลดดอกเบี้ยน้อยกว่าที่นักวิเคราะห์ประเมินไว้ในช่วงก่อนหน้านี้ ด้วยการจ้างงานที่แข็งแกร่ง พร้อมกับการปรับขึ้นของเงินเฟ้อสหรัฐ

          ด้านนายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กล่าวว่า ที่ผ่านมาสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยขอให้ ธปท.เร่งพิจารณาลดดอกเบี้ยนโยบายลงอย่างน้อย 0.25% ภายในปี 2567 และลดลงอีก 0.25-0.5% ภายในปี 2568 จะช่วยลดผลกระทบเศรษฐกิจได้เร็วและส่งผลดีต่อ Real Sector

          นอกจากนี้ ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ได้ปรับลดแล้วและคาดว่าการประชุมครั้งต่อไปจะลดอีก เช่นเดียวกับจีนที่ประกาศลด จึงเชื่อว่า กนง. คงมีข้อมูลพิจารณาประกอบการตัดสินใจในการประชุม กนง.วันที่ 16 ต.ค.2567 โดยคำนึงความเหมาะสมและเป็นประโยชน์ต่อระบบเศรษฐกิจประเทศ

          ขณะที่นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายภูมิภาคอยู่ขาลง แต่ดอกเบี้ยไทยยังไม่ลด ซึ่งหากลดลงจะช่วยลดต้นทุนให้ SME และประชาชน ทำให้ค่าเงินบาทอ่อนตัวลงถือเป็นคุณต่อการส่งออก โดยขณะนี้ค่าเงินบาทไทยเมื่อเทียบสกุลเงินอื่นในภูมิภาคเดียวกัน ไทยอยู่อันดับ 2 รองจากมาเลเซีย โดย  3 เดือนที่ผ่านมา มาเลเซียค่าเงินแข็งกว่า12% ส่วนไทยแข็งกว่า 11%

          ด้านนางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริหารและประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ WHA กล่าวว่า อัตราดอกเบี้ยนโยบายของไทยที่ยังไม่ปรับลดลงเป็นอีกเรื่องที่ต้องพิจารณา ส่วนตัวเข้าใจทั้งรัฐบาลและ ธปท.จะต้องควบคุมสิ่งต่าง ๆ แต่ในฐานะผู้ประกอบการมองว่า ดอกเบี้ยนโยบายไทยมีอัตราที่สูงมานานมากแล้ว จึงคิดว่าน่าจะปรับลงบ้าง

          สำหรับการประชุมกนง.วันที่ 16 ต.ค. 2567 เป็นการประชุมครั้งที่ 5 โดยทั้ง 4 ครั้งที่ผ่านมา คือ 7 ก.พ. 2567/10 เม.ย. 2567/ 12 มิ.ย. 2567/21 ส.ค. 2567 คงดอกเบี้ยทั้ง 4 ครั้ง โดยกนง.จะมีประชุมทั้งปี 6 ครั้ง ครั้งสุดท้าย 18 ธ.ค.2567

รายชื่อคณะกรรมการ กนง. มีจำนวน 7 คน ประกอบด้วย

นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ประธานกรรมการ
นางอลิศรา มหาสันทนะ รองประธานกรรมการ
นางรุ่ง มัลลิกะมาส กรรมการ
นายไพบูลย์ กิตติศรีกังวาน กรรมการ
นายรพี สุจริตกุล กรรมการ
นายรุ่งโรจน์ รังสิโยภาส กรรมการ
นายสันติธาร เสถียรไทย กรรมการ

          จำนวนกรรมการทั้งหมด 7 คน มีผู้ว่าการ ธปท. เป็นประธาน เนื่องจากเป็นผู้รับผิดชอบในการดำเนินการเพื่อให้สอดคล้องกับมติที่ กนง. กำหนด และเพื่อให้มีการเชื่อมโยงกับคณะกรรมการด้านนโยบายอื่นๆ ของ ธปท. นอกจากนั้น มีรองผู้ว่าการอีก 2 คน และผู้ทรงคุณวุฒิจากภายนอกอีก 4 คน เป็นกรรมการใน กนง. เพื่อเป็นการถ่วงดุลอำนาจผู้ว่าการตามวัตถุประสงค์ของกฎหมาย กรรมการผู้ทรงคุณวุฒิจะมีวาระการดำรงตำแหน่งคราวละ 3 ปี และจะดำรงตำแหน่งติดต่อกันเกิน 2 วาระไม่ได้

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.