“มิน ยูซุ” ปั้นอาณาจักร YUZU GROUP สู่รายได้ 1,000 ล้าน ภายในปี 70

หลายๆ คน เริ่มต้นเป็นเจ้าของธุรกิจจากความชอบส่วนตัว เช่นเดียวกับ “ปรมินทร์ เปรื่องเมธางกูร” หรือที่ทุกคนเรียกกันแบบติดปากว่า “มิน ยูซุ” ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ก่อตั้ง บริษัท ส้มพาสุข จำกัด หรือ YUZU GROUP (ยูซุ กรุ๊ป) ผู้นำเชนร้านอาหารระดับพรีเมียมของประเทศไทย ภายใต้แนวคิด “Taste The New Boundary…ทุกมื้อของคุณ คือโอกาสสร้างสรรค์ของเรา” ที่ในปีนี้ YUZU GROUP เข้าสู่ปีที่ 6 แล้ว

จุดเริ่มต้นธุรกิจร้านอาหารของ “มิน ยูซุ” เกิดจากความที่เป็นคนชอบกินอาหารหลากหลายแบบ ซึ่งได้รับอิทธิพลจากคุณพ่อที่ชอบพาไปกินอาหารนอกบ้าน 

“มิน ยูซุ” เล่าให้ฟังว่า ตั้งแต่จำความได้คุณพ่อไม่เคยกินข้าวของที่บ้านเลยสักมื้อ อาจจะมีบางเมนู หรือนานๆ ครั้งที่กิน คุณพ่อชอบซื้อ Street Food จากข้างนอกมาไว้ที่บ้านให้ทุกคนกิน ทุกๆ วันเสาร์ อาทิตย์ ภาพที่จำติดตาคือตื่นมาจะได้กินข้าวที่คุณพ่อซื้ออย่างไม่ซ้ำกัน ไม่ว่าจะเป็น ข้าวหน้าเป็ดเจ้าดัง ลูกชิ้นปิ้ง ขนมครก บะหมี่ลูกชิ้นปลาทำเอง และอีกมากมาย

ทุกครั้งเมื่อมีโอกาสคุณพ่อจะชวนผมและที่บ้านนั่งรถออกไปกินร้านก๋วยเตี๋ยวใหม่ๆ หรือเจ้าเก่าแก่เสมอ ต่อให้ต้องนั่งรถออกไปเป็นชั่วโมงๆ ก็ยอม ผมกล้าพูดว่า ผมยังไม่เคยเจอใครเป็น Guru Street Food เท่าคุณพ่อเลย และเวลาออกไปลองร้านใหม่ๆ คุณพ่อจะมีคำพูดเสมอเวลาไปกินอาหาร เช่น “เจ้านี้ดี ลูกชิ้นปลาทำเอง เนื้อแน่น” และ “ข้าวผัดที่อร่อยต้องมีกลิ่นหอมกระทะ” เชื่อว่าตัวเองได้รับความรู้ และความคลั่งไคล้ในอาหารจากคุณพ่อเยอะมากๆ ซึ่งปลูกฝังให้เป็นคนชอบกินอาหารในวันนี้

ประกอบกับ “ชุติมา เปรื่องเมธางกูร” ซึ่งเป็นพี่สาวที่ทำแฟรนไชส์ร้านปิ้งย่างจากเกาหลีใต้ “Nice Two Meat u” และ “ชานมเสือพ่นไฟ Fire Tiger” ที่ทุกคนน่าจะรู้จักทั้ง 2 แบรนด์นี้เป็นอย่างดี โดยพี่สาวเห็นว่ามีตึกว่างตรงกันข้ามร้าน Nice Two Meat u สยามสแควร์ จึงมาถามว่าสนใจทำร้านอาหารมั้ย

ในตอนนั้นตัวเองอยากทำร้านอาหาร แต่จะทำอะไรดีที่ยังไม่มีใครทำ ซึ่งตัวเองเป็นคนชอบกินซุปอยู่แล้ว และมีโอกาสได้ไปกินราเมงที่ผสม Yuzu จากหลายที่ ในหลายประเทศ ตอนนั้นเมืองไทยยังไม่มี ก็เลยตัดสินใจทำร้านอาหาร 

จึงเกิดเป็นร้าน “Yuzu Ramen” เจ้าแรกของไทยที่ผสมส้มยูซุแท้ 100% จากเมืองฟูกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ลงในราเมง ดังนั้น Yuzu Ramen ถือเป็นร้านอาหารและแบรนด์ต้นกำเนิดของ YUZU GROUP

โดย “Yuzu Ramen” เปิดสาขาแรกที่สยามสแควร์ ซอย 3 ตอนนั้นได้กระแส และตอบโจทย์ลูกค้า เพราะคนไทยชอบกินอาหารรสจัด ขณะที่สมัยก่อนราเมงบ้านเรารสชาติจืด จึงมีลูกค้าเต็มตลอด ทำให้มีทุนไปทำอย่างอื่นต่อ 

จากนั้นได้มีการขยายหลากหลายแบรนด์และประเภทอาหารอย่างต่อเนื่อง ไม่ว่าจะเป็นสุกี้ ซูชิ โอมากาเซะ ไก่ทอด ก๋วยเตี๋ยว ฯลฯ ยึดหัวหาดอยู่ใจกลางย่านสยามสแควร์ ก่อนกระจายไปทั่วย่านสำคัญกลางกรุง อย่างทองหล่อ อารีย์ สุขุมวิท

ทำให้ปัจจุบัน YUZU GROUP มีแบรนด์ในเครือทั้งหมด 12 แบรนด์ ประกอบด้วย 

1) Yuzu Ramen ร้านแรกในประเทศไทย ที่ได้นำเสนอประสบการณ์ ราเมนผสมยูซุแท้ 100% จากเมืองฟูกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น ด้วยปรัชญารสชาติไม่จำเจ จัดจ้าน ยืนพื้นราเมนญี่ปุ่นแท้ๆ ประกอบกับวัตถุดิบทั่วโลก

2) Yuzu Omakase แบรนด์ซูชิโอมากาเสะ ที่คัดสรรค์วัตถุดิบดีๆ ทั่วโลกออกมาปรุงสดๆ โดยใช้เทคนิค Molecular Gastronomy ผสมผสานกับการทำซูชิแบบต้นตำรับ

3) Yuzu Suki สร้างมาตรฐานใหม่ ในโลกชาบู ชาบู ด้วยวัตถุดิบที่หาทานได้ยากจากทั่วทุกมุมโลก ไม่ว่าจะเป็น Omi Wagyu A5, หมู Iberico จากสเปน, เห็ดทรัฟเฟิลสดที่นำเข้าจากฝรั่งเศส มาทำเป็นซุปรสชาติเข้มข้น 

4) Yuzu Sushi เติมเต็มรสชาติด้วยข้าวซูชิผสมน้ำยูซุแท้ๆ 

5) Yuzu Honey น้ำผลไม้สดหลากหลายชนิด ผสมยูซุแท้ 100% นำเข้าตรงจากเมืองฟูกุโอกะ ประเทศญี่ปุ่น รสชาติหอมเป็นเอกลักษณ์ไม่เหมือนใคร

6) Thai Thai ร้านก๋วยเตี๋ยวเรือที่นำเสนอรสชาติที่เราต้องการกับวัตถุดิบดีๆ เช่น ก๋วยเตี๋ยวเรือเนื้ออากิตะวากิว A5 พร้อมแคบหมูทรัฟเฟิล 

7) Kogoro Katsu สูตรพิเศษส่งตรงจากเมืองนิงาตะ หรือเมืองแห่งลูกแพร์สีทอง ประเทศญี่ปุ่น เจ้าแรกและเจ้าเดียวในไทย 

8) Chicken Club Thailand ร้านไก่ทอดเกาหลีที่ไม่ได้มีดีแค่ไก่ทอดสูตรส่งตรงจากเกาหลี ที่ถูกนำมาผสมผสานให้รสชาติเข้ากับปากคนไทย 

9) Korata โค-ร-ต ร้านอาหารไทยแนวใหม่ใจกลางสยาม โดยชื่อร้านมาจากการเล่นคำของ “โคตร” หรือ โคตะระ และคำว่า รตะ ในภาษาไทยโบราณ แปลว่า ความสุข     

10) เนื้อนาบุญ Nuer Na Boon 

11) Yuzu Yakiniku ร้านปิ้งย่างพรีเมียม ย่านทองหล่อ 

และล่าสุดเป็นแบรนด์ที่ 12 "Duri Buri" หรือ ทุเรียนบุรี ภายใต้แนวคิด Everything Durian โดยนำเอา “ทุเรียน” มาทำเมนูมากมาย อาทิ ไอศกรีมหลากรส Milkshake และทุเรียนสดๆ จากสวน รวมถึงของที่ระลึก อาทิ หมอน เสื้อ กางเกง กระบอกน้ำ เป็นต้น โดยต้องการชูจุดเด่นให้ทุเรียนเป็นเอกลักษณ์แห่งซอฟต์พาวเวอร์ไทย เจาะตลาดคนจีน ตั้งเป้าหมายมีรายได้ 1 ล้านบาท/เดือน 

“อยากให้ทั่วโลกเวลาพูดถึงทุเรียนแล้วเหมือนพูดถึงคาเวียร์ ไม่ว่าคนชอบหรือไม่ชอบคาเวียร์ แต่เมื่อพูดถึงคนจะคิดว่าพรีเมียม เป็นวัตถุดิบของการเฉลิมฉลองในโอกาสพิเศษ แล้วทุเรียนล่ะ ทำไมคนคิดแบบนั้นไม่ได้ ในเมื่อผลไม้ชนิดนี้ของไทยเรามีชื่อเสียง มีคุณสมบัติที่ดีและมีประโยชน์มากมาย ผมอยากทำให้ทุเรียนเป็นแบบนั้น อยากทำทุเรียนให้เหมือนกับคาเวียร์บนเวทีโลก” 

สำหรับหลักในการเลือกขยายแบรนด์ใหม่ที่มีความหลากหลาย อย่างแรกคือ ผม และทีมชอบหรือเปล่า ถ้าชอบ แล้วเรามี Passion หรือเปล่า อยากทำมันทุกวันหรือเปล่า หลักของผมมีอยู่แค่นี้เอง ถ้าไม่อยากทำมันทุกวัน ก็ไม่ทำ ถ้าคิดว่าทำแล้วไม่มีความสุข ไม่สนุก ก็ห้ามทำเด็ดขาด

อย่างไรก็ตาม YUZU GROUP และทีมกล้าที่จะลอง กล้าที่จะท้าทายกรอบความคิดเดิมๆ เพื่อสร้างสิ่งใหม่ที่แตกต่างไม่เหมือนใคร ให้บริษัทเป็นเหมือนสนามเด็กเล่นที่มีบ่อทรายที่ให้ล้มลุก ไม่กลัวความบกพร่องหรือล้มเหลว เพื่อนำมาเป็นบทเรียนให้เราเติบโตต่อไป

ส่วนแผนธุรกิจของ YUZU GROUP ในช่วงไตรมาส 4/2567 ยังคงเดินหน้าเร่งขยายสาขาอย่างต่อเนื่อง โดยวางแผนเปิดสาขาใหม่แบรนด์ Yuzu Suki กับ Yuzu Ramen เพิ่มอีก 2 สาขา เพื่อขยายฐานลูกค้าโซนราชพฤกษ์ พร้อมทั้งมองหาทำเลในย่านศูนย์กลางธุรกิจ CBD เพิ่ม คาดว่าใช้เงินลงทุนสาขาละ 20 ล้านบาท ส่งผลให้สิ้นปี 2567 จะมีจำนวนสาขาของทุกแบรนด์ร้านอาหารในเครือ YUZU GROUP รวมทั้งสิ้น 33 สาขา ทั้งในและต่างประเทศ

ในต่างประเทศจะเป็นรูปแบบแฟรนไชส์ทั้งหมด ได้แก่ 1.กัมพูชา เปิดเป็นร้าน Yuzu Suki สาขาแรกที่พนมเปญ เตรียมเปิดสาขาที่ 2 เป็น Stand Alone และยังมีร้าน Yuzu Omakase อีก 1 สาขา 2.เวียดนาม เปิดเป็นร้าน Yuzu Omakase สาขาแรกที่โฮจิมินห์ เตรียมเปิดสาขาที่ 2 ที่ฮานอย 

นอกจากนี้ ในปี 2568 YUZU GROUP มีแผนขยายสาขาเพิ่มอีก 5 สาขา และเปิดตัวแบรนด์ใหม่อีก 1 แบรนด์ เป็นอาหารญี่ปุ่น 

ด้านผลการดำเนินงานในปี 2567 ของ YUZU GROUP ตั้งเป้าหมายมีรายได้รวมอยู่ที่ 640 ล้านบาท หรือเติบโตไม่ต่ำกว่า 18% จากปี 2566 ที่มีรายได้รวมอยู่ที่  541 ล้านบาท และวางเป้าหมายมีรายได้รวมแตะ 1,000 ล้านบาท ภายใน 3 ปีจากนี้ หรือภายในปี 2570 หากนับจากตั้งแต่เริ่มธุรกิจเมื่อ 6 ปีก่อน ถือว่าใช้เวลาเพียง 9 ปี ในการมุ่งสู่รายได้ 1,000 ล้านบาท   

ขณะที่ “มิน ยูซุ” ทิ้งท้ายถึงมุมมองความสำเร็จว่า ความสำเร็จของแต่ละคนไม่เหมือนกัน ขึ้นอยู่กับคนๆ นั้น ตั้งตัวชี้วัดความสำเร็จว่าคืออะไร ทุกอย่างเป็นความสำเร็จได้หมด ถ้าเราให้ค่าหรือให้บริบทกับมัน เช่น วันนี้ผมบอกว่าผมจะกินข้าวให้หมดจาน ถ้าผมทำได้ผมก็ถือว่าเป็นคนที่ประสบความสำเร็จคนหนึ่ง

ในมุมของผมความสำเร็จไม่ใช่ภาพๆ เดียว หรือเส้นชัยเส้นเดียว ผมมองเป็นภาพต่อเนื่อง ความสำเร็จของผม คือ ความสามารถในการแก้ปัญหา ผมมองเป็นเหมือนเกม ผมรู้สึกสนุกเสมอเมื่อได้แก้ปัญหา ได้ท้าทายตัวเอง ผมอยากให้คนในทีม YUZU GROUP ทุกคนสนุกและมีส่วนร่วมในการทำงานที่สร้างความแตกต่าง มีความสนุกไปกับมัน ช่วยกันผลักดันพัฒนาทีมให้ไปในจุดที่ดีขึ้นเรื่อยๆ 

คงรอดูกันว่าแบรนด์ต่อๆ ไป ที่ “มิน ยูซุ” จะเปิดตัวเป็นแบรนด์อะไร และเป็นอาหารประเภทใด  

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.