SET เริ่มแพง หาจังหวะขายทำกำไร เคาะกรอบ 1,455-1,475 จุด เชียร์ PTTEP-TOP
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.พาย ระบุว่า ตลาดหุ้น Dow Jones เมื่อคืนปิดบวก 0.2% โดย Dow Jones , S&P500 ยังคงปิดระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ ส่วนนึงได้แรงหนุนจากการกระตุ้นเศรษฐกิจของจีน ด้านราคาน้ำมันดิบ BRT ปิดบวก 1.7% ขานรับจีนประกาศกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่เมื่อวานที่ผ่านมาจีนได้ประกาศมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจหลายมาตรการ เบื้องต้นประกอบไปด้วยลดสัดส่วนการกันสำรองเงินของธนาคารพาณิชย์ที่ฝากไว้กับธนาคารกลางจีน (RRR) ปรับลงอีก 0.5% พร้อมปรับลดอัตราดอกเบี้ยซื้อคืนพันธบัตรระยะ 7 วันลงเหลือ 1.5% จากระดับ 1.7% และปรับลดวงเงินดาวน์สำหรับการซื้อบ้านหลังที่สอง
นอกจากนี้ยังมีข่าวว่าธนาคารกลางจีนประกาศให้บริษัทหลักทรัพย์ กองทุน บริษัทประกัน สามารถเพิ่มสภาพคล่องจากธนาคารกลางเพื่อนำเงินดังกล่าวไปซื้อหุ้นได้ ซึ่งปัจจัยข้างต้นหนุนให้ดัชนี CSI300 ปรับเพิ่มขึ้นมากถึง 4.2% อย่างไรก็ตามในช่วงที่ผ่านมาจีนก็ได้ออกนโยบายกระตุ้นเศรษฐกิจหลายมาตรการแต่สิ่งที่พบคือยังไม่สามารถทำให้เศรษฐกิจจีนกลับมาขยายตัวอย่างแข็งแกร่งได้ สะท้อนผ่านการขยายตัวของเงินเฟ้อที่ยังทรงตัวระดับต่ำ ยอดค้าปลีก ที่ขยายตัวต่ำรวมไปถึงผลผลิตภาคอุตสาหกรรมที่ขยายตัวลดลงเช่นกัน
แต่ทั้งนี้ ระยะสั้นนักลงทุนก็มองบวกกับปัจจัยข้างต้น โดย Sector ของไทยที่จะได้ประโยชน์ ประกอบไปด้วยปิโตรเคมี (PTTGC, IVL) บรรจุภัณฑ์ (SCGP) ท่องเที่ยว (AOT, CENTEL, CPALL, MINT) น้ำมัน (PTTEP) แต่ก็ให้น้ำหนักเป็นเพียงระยะสั้นมากกว่าโดยเฉพาะกลุ่มปิโตรเคมีที่ส่วนต่างราคาปิโตรเคมียังมิได้ฟื้นตัวแข็งแกร่งมากนัก สำหรับสหรัฐฯเมื่อคืนรายงานดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค(CB)ที่ระดับ 98.7 แย่กว่าที่ Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 104 นับเป็นการลดลงครั้งใหญ่ตั้งแต่ ส.ค.21 ผู้บริโภคกังวลกับการประกอบธุรกิจ พร้อมกับมุมมองต่อตลาดแรงงานที่อ่อนตัวและยังมีความกังวลเกี่ยวกับตลาดแรงงานในอนาคต
ฝ่ายวิเคราะห์ยังมีมุมมองเป็นบวกน้อยลงเกี่ยวกับธุรกิจและรายได้ในอนาคต เมื่อถามถึงแผนการใช้จ่ายในอนาคตพบว่ามีแนวโน้มจะใช้จ่ายมากขึ้นใน Smart Phone , Laptop/PC รวมถึงแผนการซื้ออสังหาริมทรัพย์ปรับดีขึ้นเล็กน้อย ภายหลังจากทราบข้อมูลทั้งหมดพบว่าอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ ทั้ง อายุ 2 , 10 ปีปรับลงอย่างมีนัย และ Dollar Index อ่อนค่าต่อเนื่อง สะท้อนมุมมองเป็นลบเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจจากนักลงทุน CME FED Watch ให้น้ำหนักราว 58% ที่ FED จะปรับลดดอกเบี้ย 0.5% ในการประชุมเดือน พ.ย.
โดยสรุปตัวเลขเศรษฐกิจสหรัฐฯยังไม่แข็งแกร่งมากนัก แต่นักลงทุนยังเชื่อว่าจะเป็น Soft Landing อย่างไรก็ตามแนะติดตามตัวเลขใกล้ชิด เพราะหากมีสัญญาณชะลอตัวแรงจะเป็นปัจจัยกดดันในอนาคต
ด้านผลประชุม ครม. วานนี้ได้มีมติจะไม่เก็บค่าไฟในพื้นที่อุทกภัยสำหรับเดือน ก.ย. และ ต.ค.จะให้ส่วนลดค่าไฟฟ้า พร้อมขยายระยะเวลาพักหนี้เกษตรกร ซึ่งจะช่วยหนุนการบริโภคและเป็นบวกกับกลุ่มค้าปลีก (BJC, CPALL, DOHOME, GLOBAL)
วันนี้(25 ก.ย.67)ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,455-1,475 จุด เชิงกลยุทธ์การลงทุนควรเริ่มมองฝั่งทำกำไรมากขึ้นจากระดับ Valuation ที่เริ่มไม่ถูกและดัชนีถือว่ารับข่าวดีไปพอสมควร
อย่างไรก็ตาม การ Trading ระยะสั้นแนะนำกลุ่มปิโตรเคมี (PTTGC) น้ำมัน (PTTEP) โรงกลั่น (BCP, SPRC, TOP) รวมถึง Domestic Play ที่ยัง Laggard (AOT, CPN, MINT)
หุ้นแนะนำซื้อวันนี้ คือ หุ้น PTTEP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 181 บาท) กำไรสุทธิ 2Q24 อยู่ที่ 2.4 หมื่นล้านบาท (+14%YoY, +28%QoQ) หากตัดรายการพิเศษ กำไรจากค่าเงิน 19 ล้านเหรียญ อีกทั้งยังมีการตั้งด้อยค่า Oliver 30 ล้านเหรียญ ส่งผลให้กำไรปกติอยู่ที่ 2.34 หมื่นล้านบาท (+22%YoY, 19%QoQ)
และ หุ้น TOP (ซื้อ / ราคาเป้าหมาย 75 บาท) มีกำไรสุทธิงวด 2Q24 ที่ 5.5 พันล้านบาท (+69%YoY, -35%QoQ) มากกว่าอุตสาหกรรมและเราคาด โดย GIM 10.5US$/bbl (+69%YoY, -35%QoQ) โดนกดดันจากค่าการกลั่นที่ปรับตัวลดลงจากอุปทานที่กลับมาดำเนินการปกติ หลังจากปิดซ่อมฉุกเฉินในไตรมาสแรก ส่วนของธุรกิจ Aromatic ปรับตัวดีขึ้นจากอุปทานที่ปิดซ่อมบำรุงในไตรมาส 2 โดยแนวโน้มในไตรมาสถัดไป Singapore GRM ปรับตัวขึ้น QoQ จากฐานที่ต่ำและเข้าสู่เทศกาลท่องเที่ยวของสหรัฐฯ
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.