BTS จี้ กทม.จ่ายหนี้สายสีเขียวหมื่นล้าน ชี้เตะถ่วง-มหาดไทยแทรกแซง
ผ่านมาแล้ว กว่า 1 เดือน นับตั้งแต่คำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2567 ให้กรุงเทพมหานครและกรุงเทพธนาคม หรือ KT ร่วมกันชำระหนี้ค่าจ้างงานเดินรถไฟฟ้าและค่าซ่อมบำรุง (O&M) โครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียว ส่วนต่อขยายที่ 1 ช่วงสะพานตากสิน - วงเวียนใหญ่ - บางหว้า และช่วงอ่อนนุช – แบริ่ง (เดือนพฤษภาคม 2562 ถึงพฤษภาคม 2564) และส่วนต่อขยายที่ 2 ช่วงแบริ่ง - สมุทรปราการ และช่วงหมอชิต - สะพานใหม่ – คูคต (เดือนเมษายน 2560 ถึง พฤษภาคม 2564) จำนวนกว่า 11,755 ล้านบาท ให้กับ บริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTS ภายใน 180 วัน
ทว่า กทม.โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ กลับปล่อยให้เวลาล่วงเลยมากว่า 30 วัน ดอกเบี้ยวิ่ง วันละ 7 ล้านบาท โดยที่ไม่มีการนัดเข้ามาเจรจากับ BTS แต่กลับมีคำสัมภาษณ์ที่ส่งสัญญาณแปลกของรองผู้ว่าฯ วิศณุ ทรัพย์สมพล หลังเข้าพบผู้ช่วยรัฐมนตรีกระทรวงมหาดไทย เกรียง กัลป์ตินันท์ ว่า
เรื่องนี้ต้องแยกเป็น 2 ส่วน คือ เรื่องหนี้ ต้องทำเรื่องให้สภากรุงเทพมหานคร พิจารณา อีกส่วนคือ เรื่องสำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ชี้มูลความผิดอดีตผู้บริหาร ในคดีที่กรุงเทพมหานคร (กทม.) ว่าจ้างบริษัท ระบบขนส่งมวลชนกรุงเทพ จำกัด (มหาชน) หรือ BTSC เดินรถไฟฟ้าสายสีเขียวส่วนต่อขยาย 3 เส้นทาง ไปจนถึงปี 2585
วิศณุ ระบุว่า เรื่องนี้ กทม.ได้ส่งเอกสารเพิ่มเติมเข้าไป จึงต้องปรึกษาอัยการสูงสุด เพราะไม่ทราบว่าการชี้มูลของป.ป.ช.จะส่งผลอย่างไร เราก็ต้องถามศาลว่ามีผลอย่างไรหรือไม่ แต่ตามไทม์ไลน์แล้วไม่น่าถึง 180 วัน แต่สุดท้ายก็ขึ้นอยู่สภากกทม.เพราะเป็นคนอนุมัติงบประมาณ เพราะใช้เงินจากรายจ่ายพิเศษจากเงินสะสมจ่ายขาดของกรุงเทพมหานคร ซึ่งอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 97 และมาตรา 103 แห่ง พ.ร.บ.ระเบียบบริหารราชการกรุงเทพมหานคร พ.ศ.2528
เมื่อมีเรื่อง ป.ป.ช. และการสอบถามอัยการสูงสุดเข้ามาเกี่ยวข้อง สังคมจึงอดตั้งคำถามไม่ได้ว่า นี่คือแผนการยื้อเพื่อจะยืดหนี้หรือไม่ และมีใครอยู่เบื้องหลัง !!!
เนื่องจากหนี้ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2567 นั้น ไม่มีความเกี่ยวข้องกับคดี ป.ป.ช.แต่อย่างใด แล้วเหตุใดหนี้ BTS ก้อนแรกจำนวน 23,091 ล้านบาท ที่กทม.ชำระเมื่อวันที่ 2 เม.ย.2567 เพื่อชำระหนี้ค่าติดตั้งระบบรถไฟฟ้า ส่วนต่อขยาย 1 อ่อนนุช-แบริ่ง , สะพานตากสิน-บางหว้า และส่วนต่อขยายที่ 2 แบริ่ง-สมุทรปราการ , หมอชิต-คูคต จึงทำได้
หากย้อนกลับไปดูมติคณะรัฐมนตรี (ครม.) เมื่อวันที่ 8 ต.ค. 2561 มติครม.เขียนไว้ชัดเจนถึงแนวทางการดำเนินการเกี่ยวกับข้อพิพาทของหน่วยงานของรัฐ โดยระบุว่า
เพื่อบรรเทาความสูญเสียและความเสียหายที่จะเกิดขึ้นแก่รัฐและเพื่อเป็นการรักษาผลประโยชน์สูงสุดของทางราชการ กรณีหน่วยงานของรัฐข้อพิพาทตามสัญญาอนุญาโตตุลาการหรือถูกฟ้องคดีต่อศาลปกครอง เป็นคดีเดียวหรือหลายคดีในประเด็นเดียวกันหรือเกี่ยวเนื่องกัน เช่น กรณีคดีที่อยในความรับผิดชอบของกระทรวงคมนาคม (การทางพิเศษแห่งประเทศไทย) แล้วมีคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญญาโตตุลาการ ซึ่งนำไปสู่การฟ้องคดีในศาลปกครองสูงสุด โดยผลของคำวินิจฉัยชี้ขาดของอนุญาโตตุลาการนั้น ให้หน่วยงานของรัฐต้องชดใช้ค่าเสียหายหรืออื่นใด จึงมีมติให้หน่วยงานของรัฐนั้นอาจดำเนินการเจรจาต่อรองกับคู่พิพาทเพื่อบรรเทาความเสียหายของรัฐและให้เกิดความเป็นธรรมแก่ราษฎรได้
ดังนั้นการเงียบเฉย ไม่มีการนัด หรือ ตั้งโต๊ะเจรจากันด้วยความจริงใจ ย่อมเกิดปัญหากับเอกชน ถึงความเชื่อมั่นต่อผู้ถือหุ้น และดอกเบี้ยที่วิ่งทุกวันๆละ 7 ล้านบาท เป็นเงินของประชาชน ท้ายที่สุด หาก BTS ไม่มีเงินจ่ายค่าเดินรถและซ่อมบำรุง หากต้องหยุดวิ่ง คนที่เดือดร้อนก็หนีไม่พ้นประชาชน ที่สำคัญศาลปกครองสูงสุดมีคำพิพากษาแล้ว หากไม่ใช้หนี้ ตามกฎหมาย BTS สามารถยึดทรัพย์สินของกทม.ทั้งหมดได้
เรื่องนี้ แก้ไม่ยาก เพียงผู้ว่าราชการจังหวัดกทม.ชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ออกมาตั้งโต๊ะเจรจากับ BTS ให้ชัดเจน เพื่อสร้างความมั่นใจให้ BTS ผู้ถือหุ้น และประชาชน
หนี้ BTS มีอะไรบ้าง
สำหรับหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงสิ้นสุด ณ วันที่ 25 ก.ค.2567 มีจำนวนกว่า 39,402 ล้านบาท แบ่งเป็น
• ยอดหนี้ตามคำพิพากษาของศาลปกครองสูงสุด เมื่อวันที่ 26ก.ค. 2567 ที่ให้กทม. และ KT ร่วมกันชำระให้กับบีทีเอสเป็นเงินจำนวนกว่า 11,755 ล้านบาท
• ยอดหนี้ที่บีทีเอสได้ยื่นฟ้องต่อศาลปกครองกลาง เมื่อวันที่ 22 พ.ย. 2565 ให้กทม. และ KT ชำระหนี้ค่าจ้างเดินรถและซ่อมบำรุงให้กับบีทีเอสของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในเส้นทางส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 (หนี้ค่าจ้างตั้งแต่เดือนมิ.ย. 2564 ถึง ต.ค. 2565) เป็นเงินจำนวนกว่า 11,811 ล้านบาท ซึ่งอยู่ระหว่างการพิจารณาของศาลปกครองกลาง
• ยอดหนี้ค่าจ้างงานเดินรถและซ่อมบำรุงของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในเส้นทางส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ตั้งแต่เดือนพ.ย. 2565 ถึง มิ.ย. 2567 ที่ยังค้างชำระ เป็นเงินจำนวนกว่า 13,513 ล้านบาท
• ค่าจ้างงานเดินรถและซ่อมบำรุงของโครงการรถไฟฟ้าสายสีเขียวในเส้นทางส่วนต่อขยายที่ 1 และส่วนต่อขยายที่ 2 ในอนาคต ตั้งแต่ปัจจุบันจนถึงสิ้นสุดสัมปทาน ปี พ.ศ. 2585
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.