TDRI ชี้ย้ายทะเบียนบ้าน หนุนปชช.ใช้จ่ายเงินดิจิทัลง่ายขึ้น

ดร.นณริฏ พิศลยบุตร นักวิชาการอาวุโส สถาบันวิจัยเพื่อการพัฒนาประเทศไทย (ทีดีอาร์ไอ) กล่าวถึงกระเเสเรื่องการย้ายทะเบียนบ้านของประชาชน เพื่อใช้จ่ายเงินในโครงการเติมเงิน 100,000 บาท ผ่านดิจิทัล วอลเล็ต ว่า  ประเด็นเรื่องกฎเกณฑ์การย้ายทะเบียนบ้านน่าจะมีทั้งคนที่ต้องการย้ายอยู่แล้ว ไม่เกี่ยวกับเงินดิจิทัล กับคนที่จะย้ายเพื่อใช้สิทธิเงินดิจิทัลให้ง่ายขึ้น 

 

ซึ่งการไม่สามารถย้ายถิ่นฐานได้จะทำให้เกิดปัญหาของการใช้เงินเหมือนกัน เช่น หากล็อคว่า ต้องใช้ในเขตตามทะเบียนบ้านบัตรประชาชน ก็จะเกิดปัญหาสำหรับแรงงานที่ย้ายถิ่นเข้ามาทำงานในเมืองจะใช้งานในพื้นที่เดิมจะใช้จ่ายได้ยากขึ้น หรือต้องรอไปจ่ายในวาระโอกาสเฉพาะ เช่น เทศกาลสงกรานต์ หรือเทศกาลปีใหม่ ก็จะกลายเป็นการใช้แบบรวดเดียว หรือต้องซื้อของที่ไม่ได้ต้องการเท่าใดนัก เพราะต้องรีบใช้เงินให้หมด 

“หากอนุญาตให้ย้ายทะเบียนบ้านกันได้ ก็จะช่วยให้เกิดการใช้จ่ายที่สอดรับกับความต้องการได้ดีกว่า แต่ต้องแลกมาด้วยการกระจุกตัวของเงินที่มักจะอยู่ในเขตเมืองมากกว่าชนบท อันนี้ก็เป็นสิ่งที่ต้องแลกกัน (trade-off) ในแง่ดังกล่าว ตนคิดว่าคงไม่มีคำตอบที่ถูก ที่ได้ประโยชน์ทุกอย่างไปพร้อมๆ กัน” ดร.นณริฏ กล่าว

ทั้ง การกระจายให้พื้นที่ที่พัฒนาช้ากว่ามันเป็นเรื่องที่ดี แต่ถ้าไปบังคับมากไปมันก็จะบิดเบือนกลไกตลาดแทน เช่น ถ้าแรงงาน 1 ล้านคน ภูมิลำเนาอยู่ต่างจังหวัด แต่มาอาศัยในเมืองใหญ่ กับเมืองอุตสาหกรรมการผลิต แล้วไปบังคับให้แรงงานต้องใช้ที่ภูมิลำเนา ก็จะเกิดความต้องการสินค้าและบริการขนาดใหญ่ในพื้นที่ภูมิลำเนาที่อาจจะยังไม่มีสินค้าเพียงพอ เพราะว่ามันเป็นเงินแบบชั่วคราว ไม่ได้เป็นเงินที่ให้ต่อเนื่องไปตลอด ธุรกิจรายใหม่ๆที่เกิดขึ้นเพื่อรองรับเงินดิจิทัลก็อาจจะมีอยู่บ้างแต่ไม่มากนัก กลับกลายเป็นธุรกิจ "คนกลาง" ที่ขนสินค้าจากในเมืองไปขายให้ตามภูมิลำเนาเสียอีก เสียทั้งค่าพ่อค้าคนกลาง ค่าขนส่งแทน ไม่ได้ตอบโจทย์การสร้างธุรกิจในพื้นที่อย่างแท้จริง เงินดิจิทัลมันเป็นการกระตุ้นชั่วคราว มันก็เลยไม่ค่อยยั่งยืนในลักษณะนี้

 

ด้าน นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง กล่าวว่า ยืนยันว่ากระทรวงการคลังไม่ได้แนะนำ หรือสนับสนุนให้ประชาชนย้ายทะเบียนบ้านเพื่อรับสิทธิใช้จ่ายต่างถิ่นฐาน หรือทะเบียนบ้าน ทราบกันดีอยู่แล้วเงินในโครงการนี้จะลงไปสู่มือประชาชนประมาณเดือนธ.ค.67 มีระยะเวลาใช้จ่ายถึง 6 เดือน และก็อยู่ในช่วงเทศกลางปีใหม่ และสงกรานต์ อย่าไงรก็มีโอกาสกลับบ้านอยู่ ซึ่งก็อยู่ในกรอบเวลาที่สามารถใช้จ่ายได้
 
“เราไม่เคยสนับสนุนให้ทำแต่การโอนย้านทะเบียนบ้านเป็นสิทธิของประชาชน เพราะโครงการนี้มีวัตถุประสงค์ต้องการกระจายเม็ดเงินไปกระจายสู่ชุมชน ท้องถิ่นทั่วประเทศ” นายจุลพันธ์ กล่าว
 


 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.