กสทช.ดันเกณฑ์ประมูลดาวเทียมรอบใหม่ ไม่เคาะราคา ดึงดูดเอกชน
นายสมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) ด้านกิจการโทรคมนาคม กล่าวว่า วันนี้ (31 ก.ค.67) ที่ประชุมกสทช.มีมติ 7:0 เห็นชอบให้ยกเลิกการประมูลดาวเทียม ตำแหน่งวงโคจร 50.5-51 และ 142 E ด้วยการเคาะราคา เนื่องจากไม่มีเอกชนเข้ามายื่นข้อเสนอการประมูล และเห็นชอบให้ยึดหลักการรักษาสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียม
โดยมีมติเห็นชอบหลักเกณฑ์ใหม่จัดสรรสิทธิการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมโดยวิธีการจัดสรรสิทธิโดยตรงแบบเปิดกว้าง (open direct award) ที่จะพิจารณาคัดเลือกผู้ชนะจากการเปรียบเทียบคุณสมบัติและข้อเสนอ (beauty contest) จากผู้สนใจเข้าร่วมคัดเลือก
นอกจากมีมติเร่งผลักดันหลักเกณฑ์ใหม่ข้างต้นแล้ว บอร์ด กสทช. ยังมีมติให้สำนักงาน กสทช. ทำหนังสือไปสอบถามคณะรัฐมนตรีเกี่ยวกับนโยบายของรัฐบาลในการใช้วงโคจรดาวเทียมดังกล่าว ภายใน 5 วันทำการ และให้สำนักงาน กสทช. มีหนังสือไปยังสหภาพโทรคมนาคมระหว่างประเทศ (ITU) เพื่อขอขยายระยะเวลาการใช้งานข่ายงานดาวเทียมในวงโคจรดังกล่าวออกไป เนื่องจากอยู่ระหว่างการดำเนินการคัดเลือกผู้ได้รับอนุญาต
สมภพ ภูริวิกรัยพงศ์ กรรมการกสทช.
นายสมภพ กล่าวว่า กสทช. จะไม่กำหนดเกณฑ์ แต่ให้เอกชนที่สนใจยื่นเสนอเงื่อนไขเข้ามา และแบบเปรียบเทียบคุณสมบัติและข้อเสนอจากผู้ร่วมคัดเลือก (beauty contest) โดยมุ่งเน้นการรักษาสิทธิวงโคจรและเน้นประโยชน์ต่อเศรษฐกิจ สังคม และความมั่นคงของประเทศเป็นสำคัญ
ทั้งนี้ กสทช.จะพิจารณาเปรียบเทียบว่าข้อเสนอของผู้ประกอบการรายใดให้ความมั่นใจว่าจะรักษาสิทธิวงโคจรทั้ง 3 ตำแหน่งได้ และมีข้อเสนอที่ดีที่สุด โดยมีมติให้สำนักงาน กสทช. จัดทำร่างหลักเกณฑ์การจัดสรรสิทธิด้วยวิธีการดังกล่าวเสนอที่ประชุม กสทช. ให้แล้วเสร็จภายใน 1 เดือน ก่อนที่จะนำไปรับฟังความคิดเห็นและประกาศใช้ต่อไป
อีกทั้งในระหว่างนี้ ยังมอบหมายให้สำนักงาน กสทช. ศึกษาข้อมูลและวิเคราะห์เพิ่มเติม กรณีแนวทางเลือกที่ กสทช.จะเป็นผู้ดำเนินการรักษาสิทธิเอง โดยให้ศึกษาทั้งข้อดีและข้อจำกัดในประเด็นต่างๆ อาทิ ข้อจำกัดด้านกฎหมาย ข้อจำกัดทางเทคนิค หรือข้อจำกัดอื่นๆ รวมทั้งงบประมาณที่จะต้องดำเนินการ และนำเสนอที่ประชุม กสทช. ภายใน 2 สัปดาห์ เพื่อประกอบการพิจารณาต่อไป
ก่อนการประชุมบอร์ด กสทช. ในวันนี้ เมื่อวันที่ 25 ก.ค. ที่ประชุมคณะอนุกรรมการด้านกิจการดาวเทียม ได้พิจารณากรณีที่ไม่มีผู้สนใจเข้ายื่นขอรับอนุญาตฯ และได้มีมติเสนอแนะวิธีการจัดสรรสิทธิแบบอื่น เพื่อให้สำนักงาน กสทช. เสนอต่อที่ประชุม กสทช. เพื่อพิจารณา
สำหรับสิทธิวงโคจรดาวเทียมที่นำมาประมูล มีข้อจำกัดในการใช้คลื่นความถี่และการใช้ประโยชน์ในเชิงพาณิชย์ โดยพื้นที่ให้บริการของวงโคจรดังกล่าวมีฟุตปรินต์ หรือ รัศมีสัญญาณในพื้นที่มหาสมุทรแปซิฟิกและในทวีปยุโรปและแอฟริกา ในขณะที่มีดาวเทียมต่างชาติหลายดวงที่ให้บริการใกล้กับตำแหน่งวงโคจรดังกล่าว
นอกจากจะส่งผลให้ผู้ประกอบการดาวเทียมไทยมีข้อจำกัดในการใช้งานคลื่นความถี่ได้น้อยลงแล้ว ย่านความถี่ดังกล่าว (C และ Ku) ยังเหมาะสำหรับกิจการกระจายเสียงและกิจการโทรทัศน์เท่านั้น ซึ่งหากจะนำไปใช้ในกิจการโทรคมนาคม เช่น การให้บริการอินเทอร์เน็ตความเร็วสูงจะต้องใช้งบประมาณที่สูงมาก และจะต้องเผชิญกับการแข่งขันกับผู้ให้บริการดาวเทียมในวงโคจรต่ำที่มีพื้นที่ให้บริการได้ทั่วโลก เช่น SpaceX OneWeb และ Amazon
ในการประมูลครั้งที่ผ่านมา บอร์ด กสทช. ได้ลดราคาขั้นต่ำของใบอนุญาตลง โดยวงโคจรตำแหน่ง 50.5-51 E ลดจาก 374 ล้านบาท เหลือ 41 ล้านบาท และวงโคจร 142 E ลดจาก 189 ล้านบาท เหลือ 23 ล้านบาท
ก่อนหน้านี้ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ได้มีหนังสือตอบกลับสำนักงาน กสทช. ที่ขอรับทราบนโยบายของรัฐบาลสําหรับความต้องการและความพร้อมในการดำเนินงานของหน่วยงานภาครัฐสำหรับสิทธิในการเข้าใช้วงโคจรดาวเทียมในตำแหน่งดังกล่าว
ได้รับคำตอบว่า ตำแหน่งวงโคจร 50.5 51 และ 142 องศาตะวันออก ไม่อยู่ในชุดข่ายงานดาวเทียมตามนโยบายการดำเนินงานดาวเทียมสื่อสารแห่งชาติ ที่ คณะรัฐมนตรีมีมติเห็นชอบในหลักการไปเรียบร้อยแล้ว
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.