NEX ปรับแผนเพิ่มทุน ขาย PP ให้ “คณิสสร์” 75 ล้านหุ้น หั่นราคาเหลือ 1.60 บาท/หุ้น

นายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เน็กซ์ พอยท์ จำกัด (มหาชน) หรือ NEX เปิดเผยว่า ที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท เมื่อวันที่ 5 ก.ค.2567 มีมติอนุมัติให้ยกเลิกมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้งที่ 4/2567 เมื่อวันที่ 7 มิ.ย.67 เกี่ยวกับการเพิ่มทุนจดทะเบียนของบริษัท การออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุน ของบริษัทให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Private Placement) การออกและเสนอขายใบสำคัญแสดงสิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญให้แก่บุคคลในวงจำกัด (Warrant for Private Placement) การออกและเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนให้แก่ผู้ถือหุ้นเดิม (Right Offering)

และยกเลิกมติที่ประชุมคณะกรรมการบริษัท ครั้ง 5/2567 เมื่อวันที่ 11 มิ.ย.2567 เกี่ยวกับการกำหนดรายชื่อผู้ลงทุนซึ่งเป็นบุคคลในวงจำกัดที่จะได้รับการจัดสรรหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัท การกำหนดวันประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้นครั้งที่ 1/2567 รวมถึงการกำหนดวัน Record Date สำหรับผู้มีสิทธิเข้าประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 เนื่องจากไม่สามารถหาผู้ลงทุนรายอื่นที่มีความรู้ความสามารถ และความมั่นคงทางการเงิน ซึ่งจะสามารถเข้ามาร่วมพัฒนาธุรกิจให้เติบโตและมั่นคง นอกเหนือจากนายคณิสสร์ ศรีวชิระประภา ประธานเจ้าหน้าบริหาร ซึ่งเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่ได้

ขณะที่แผนใหม่ที่เสนอผู้ถือหุ้นพิจารณาอนุมัติในการประชุมวิสามัญผู้ถือหุ้น ครั้งที่ 1/2567 วันที่ 12 ก.ย.2567 จะเพิ่มทุนจดทะเบียน 8,837,309,596 บาท จาก 2,021,827,399 บาท เป็น 10,859,136,995 บาท โดยออกหุ้นสามัญเพิ่มทุนจำนวน 8,837,309,596 หุ้น มูลค่าหุ้นที่ตราไว้หุ้นละ 1.00 บาท

1. จัดสรรให้บุคคลในวงจำกัด (PP) คือ นายคณิสสร์ ไม่เกิน 75 ล้านหุ้น ราคาเสนอขายหุ้นละ 1.60 บาท ลดลงจากเดิมที่เคยกำหนดไว้ที่ 2.55 บาท คาดว่าจะดำเนินการภายในไตรมาส 4/2567

2. จัดสรรรองรับการใช้สิทธิที่จะซื้อหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทที่จัดสรรให้แก่บุคคลในวงจำกัด ได้แก่ นายคณิสสร์ (Warrant for Private Placement: PP) (NEXWA) จำนวน 375 ล้านหุ้น โดยไม่คิดมูลค่า แต่ปรับอัตราส่วนใหม่เป็น NEX-WA จำนวน 1 หน่วย : 5 หุ้นสามัญ ราคา 8.00 บาท หรือ 1.60 บาท/หุ้น อายุใบสำคัญแสดงสิทธิมีอายุ 3 ปี ระยะเวลาการใช้สิทธิทุกๆ 6 เดือน เริ่มใช้ครั้งแรกคาดว่าภายในไตรมาส 1-2/2568

3. จัดสรรขายผู้ถือหุ้นเดิม (PPO) (ครั้งที่ 1) ไม่เกิน 2,096,827,399 หุ้น อัตราส่วน 1:1 และ ครั้งที่ 2 ไม่เกิน 6,290,482,197 หุ้น อัตราส่วน 1:1.5 โดยจะดำเนินการหลังจากจดทะเบียนเปลี่ยนแปลงทุนชำระหุ้น (PP)