อธิบดีกรมสรรพสามิต ชี้ เก็บภาษีรถยนต์ตามปริมาณคาร์บอน แก้ Climate Change

ฐานเศรษฐกิจ จัดงานสัมมนา  “ROAD TO NET ZERO โอกาส & ความท้าทายทางธุรกิจ” ณ รอยัล พารากอนฮอลล์ ชั้น 5 เพื่อสร้างความรู้ ความเข้าใจ ให้ทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องทราบถึงมาตรการต่างๆ และเกิดการปรับตัวเพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน 

ในช่วง Session แรกว่าด้วย “นโยบายขับเคลื่อนภาษีคาร์บอน” ดร.เอกนิติ นิติทัณฑ์ประภาศ  อธิบดีกรมสรรพสามิต ระบุว่า การที่เราประกาศเป้าหมายสู่การปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ (Net-Zero) มีผลอย่างมากต่อสิ่งแวดล้อม ประเทศไทยติด 1 ใน 10 ประเทศของโลกที่จะได้รับผลกระทบจากวิกฤตสิ่งแวดล้อม 

เรามีเครื่องมือและเป้าหมายหลายอย่างที่จะช่วยให้เราไปสู่เป้าหมาย Net-Zero  แต่การกระทำ (action) เรายังไม่ชัด ขณะที่ในยุโรป 1 ตุลาคมนี้เขาจะเริ่มเก็บภาษีคาร์บอนก่อนเข้าพรมแดนกับ 7 กลุ่มสินค้าแล้ว อาทิ ซีเมนต์ ปุ๋ย ไฟฟ้า เหล็กและเหล็กกล้า อะลูมิเนียม ไฮโดรเจน และสินค้าปลายน้ำบางรายการ

ธุรกิจไทยกระทบแน่ๆหากเราจะส่งสินค้าไปยุโรปแล้วไม่ปรับตัว เราจะถูกเก็บภาษีที่พรมแดน ทางกรมสรรพสามิตจึงพยายามปรับบทบาทตัวเอง ที่จะมุ่งเน้นสิ่งแวดล้อม สังคม ธรรมาภิบาล อะไรที่ทำลายสิ่งแวดล้อมเราจะเก็บภาษีมากขึ้น

ในเรื่องของคาร์บอน ประเทศไทยปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ราว 400 ล้านตันต่อปี โดย70% มาจากภาคขนส่งและพลังงาน ภาษีสรรพสามิตเราเก็บทั้งภาคขนส่งและพลังงานแต่เราต้องปรับเปลี่ยนวิธีการเก็บให้เชื่อมโยงกับคาร์บอน 

สมัยก่อนเราเก็บภาษีรถยนต์ตามซีซี (CC) แต่วันนี้เราเก็บตามคาร์บอนไดออกไซด์ที่ปล่อย ถ้ารถยนต์ของท่านปล่อย 100 กรัมต่อกิโลเมตร เราเก็บที่ 25% ถ้าปล่อย 150 กรัมต่อกิโลเมตร เราเก็บ 30%   ถ้าปล่อย 200 กรัมต่อกิโลเมตร เราเก็บ 35% นี่คือภาษีสรรพสามิตที่เริ่มมาผูกกับคาร์บอน และเราจะเพิ่มอัตราไปเรื่อยๆตามการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ ส่วนรถ EV ที่ปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์น้อย เราเก็บที่ 8% แต่วันนี้เราพยายามส่งเสริมให้ EV มีบทบาทมากขึ้น เราก็ลดให้เหลือ 2%

เราจะขับเคลื่อนสิ่งแวดล้อมด้วยภาษีสรรพสามิต แต่ถึงอย่างนั้นก็ไม่ใช่แค่รถยนต์อย่างเดียว ยังมีส่วนของภาคพลังงาน ทุกวันนี้เรายังใช้ดีเซล ไบโอดีเซล เบนซิน E20 ใครที่ใส่พวกไบโอหรือเอทานอลเข้าไปเราจะลดภาษีให้

ส่วนในภาคธุรกิจ สิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมในวันนี้คือไม่ใช่แค่โอกาสและความท้าทาย แต่ต้องพร้อมปรับตัว ธุรกิจต้องเริ่มมีการวัดคาร์บอนฟุตพริ้นท์ นี่เป็นสิ่งที่หน่วยราชการไทยจะต้องไปเชื่อมโยงให้ได้ 

เราพยายามส่งเสริมอุตสาหกรรมที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม กรมสรรพสามิตจะลดภาษีที่สามารถเอาเอทานอลไปทำไบโอพลาสติกได้ และถือเป็นโอกาสให้ธุรกิจไทยเติบโต เนื่องจากสินค้าชนิดนี้เป็นที่ต้องการมากในระดับโลก นี่คือบทบาทใหม่ของกรมสรรพสามิต ที่จะไม่ใช่แค่เก็บรายได้จากเหล้า บุหรี่ แต่เราส่งเสริมสิ่งแวดล้อม สังคม และธรรมาภิบาล

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.