ระวัง! การเมืองไทยฉุดหุ้นไทยหลุด 1,300 จุด

     นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า ผลการประชุมธนาคารญี่ปุ่น (BOJ) ในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมามีมติคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 0-0.1% และได้ ตัดสินใจที่จะปรับลดการถือครองพันธบัตรรัฐบาล ซึ่ง ปัจจุบันอยู่ที่ระดับ 6 ล้านล้านเยนต่อเดือน โดยจะมีการเปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับการจะลดการซื้อ Pic of the day พันธบัตรในการประชุมรอบถัดไปใน เดือน ก.ค.

     ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯย่อตัว ตอบรับการรายงานตัวเลขดัชนีความเชื่อมั่นจากมหาวิทยาลัยมิชิแกน ที่ 65.6 จุด ลดลงจากเดือนก่อนที่ 69.1 สวนตลาดคาดว่าจะปรับขึ้นสู่ 72 จุด โดยถือว่าเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 7 เดือน ผสานกับความเสี่ยงในระยะสั้นเกี่ยวกับการเมืองในฝรั่งเศส ที่จะมีการจัดการเลือกตั้งใหม่ในวันที่ 30 มิ.ย. และ 7 ก.ค.นี้ (หลังจากที่ประธานาธิบดี มาครอง ได้ประกาศยุบสภาไปเมื่อวันที่ 9 มิ.ย.) ซึ่งล่าสุดพบว่าพรรคเนชั่นแนล แรลลี ซึ่งเป็นพรรคฝ่ายขวาจัดมีคะแนนความนิยมสูงขึ้นเรื่อยๆ

     ส่วนปัจจัยในประเทศสัปดาห์นี้ยังคงต้องติดตามประเด็นใหญ่การเมืองไทยเช่นกัน ในวันที่ 18 มิ.ย. ทั้ง ประเด็น 40 สว. ยื่นคําร้องถอดถอนนายกฯเศรษฐา, การพิจารณาคดียุบพรรคก้าวไกลปมล้มล้างการปกครองและอัยการสูงสุดนัดอดีตนายกฯทักษิณสั่งฟ้องคดี 112 ซึ่งอาจส่งผลให้ตลาดยังคงมีแรงกดดัน ระยะสั้น โดยประเมินแนวรับ SET บริเวณ 1300 และ 1280 จุด เน้นย่อตั้งรับหุ้นที่แนวโน้มผลประกอบการ ขยายตัวดีในช่วงครึ่งหลังของปี

     17 มิ.ย. Empire Manufacturing, 1-Yr MLF Rate จีน, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรมจีน, ยอดค้าปลีกจีน

     18 มิ.ย. ศาลฯพิจารณาหลายประเด็นทางการเมือง, ยอดขายปลีก US, ผลผลิตภาคอุตสาหกรรม US, ดัชนี CPI ของยูโรโซน

     19 มิ.ย. ดัชนี CPI ของอังกฤษ

     "คาด SET วันนี้ “Sideways” ในกรอบ 1300-1320 จุด แรงกดดันทางการเมือง ทั้งใน (18 มิ.ย.) และต่างประเทศ (เลือกตั้ง ฝรั่งเศส) อาจกดดัน sentiment ลงทุนในระยะสั้น ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน แนะรอ จังหวะย่อตั้งรับหุ้นที่คาดแนวโน้มผลประกอบการในช่วง 2H24 จะขยายตัวดี

     วันนี้แนะนํา “JMART” ราคาเป้าหมายเชิงกลยุทธ์ 20 บาท คาดแนวโน้มกําาไร 2H24 มีแนวโน้มฟื้นตัวต่อเนื่อง แรงหนุนจากผลประกอบการของบริษัทลูกที่เริ่ม กลับสู่ทิศทางขยายตัว ทั้ง JMT, SINGER, SGC ผสานกําไรส่วนแบ่งจาก TEENOI ที่เติบโตก้าวกระโดด ราคาหุ้นปัจจุบันมีส่วนลดจากมูลค่า NAV ค่อนข้างมาก ผสานอยู่ในเข้าสู่ภาวะ Underown น่าทยอยสะสม"

SETแกว่งรอการเมือง

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี พัฒนสิน ระบุว่า คาด SET วันนี้ “แกว่งรอการเมือง” ต้าน 1315/1320 จุด รับ 1300/1293 จุด ดัชนี S&P 500 พักตัว แต่ NASDAQ ทำจุดสูงสุดเป็นวันที่ 5 จาก หุ้น Adobe +14.5% หลังบริษัทปรับเพิ่มคาดการณ์รายได้โดยมองผลบวก AI Software ผสาน US Bond Yield อายุ 10ปี ยังลดลงอีก -3 bps สู่ 4.209%

     ขณะที่เศรษฐกิจสหรัฐฯ ส่งสัญญาณอ่อนลง ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI สำรวจโดย U of Michigan) ดัชนีชี้นำเศรษฐกิจแรก มิ.ย. 24 ต่ำสุดใน 7 เดือน

     ส่วน Asia จะเด่นขึ้น หากรายงานเศรษฐกิจจีนวันนี้ อาทิ ผลผลิตอุตสาหกรรม, ยอดค้าปลีกยังเป็นบวก ซึ่งรายงานชี้นำ New Yuan Loan ต่ำกว่าคาด ภายในระยะสั้นยังน่าจะฟื้นตัวลำบาก จนกว่าการเมืองจะมีความชัดเจน โดยตลาดจะรอพัฒนาการ 18 มิ.ย. ขณะที่มอง Downside ตลาดไม่มาก หลัง YTD -7.7% สะท้อนรับความกังวลล่วงหน้ามาแล้ว ทำให้คาด SET วันนี้แกว่งซึม 

     กลยุทธ์กลาง-ยาวแนะนำสะสมหุ้น ส่วนระยะสั้นเก็งกำไรหุ้นที่มีประเด็น อาทิ กลุ่มชิ้นส่วนฯ กลุ่มนิคม (BOI อนุมัติ 8 โครงการใหม่ 5.6 หมื่นล้านบาท) หุ้นลุ้นเข้า SET50/100(BJC เด่น) ผสานหุ้น Defensive วันนี้แนะนำ  AOT, ADVANC, TRUE

     คาดการณ์แนวโน้ม SET INDEX วันนี้ "ซึมลง" พิจารณาแนวรับ 1,300 / 1,293 จุด แนวต้านขยับลง 1,315 / 1,320 จุด" ทั้งนี้แท่งเทียนปิดลบในลักษณะของ SMALL BLACK LINE ต่ำกว่า EMA 5, 10, 50 วัน และระดับ VWAP ต่อเนื่อง รวมถึง MACD ที่ยังคงแกว่งตัวทำ NEW LOW ต่อเนื่องเป็นวันที่ 15 เช่นกัน ถึงแม้ MODIFIED STOCHASTIC และ RSI มีสัญญาณ OVERSOLD อย่างมากก็ตามส่งผลให้ดัชนีมีความเสี่ยงที่จะแกว่งตัวในลักษณะซึมลงต่อ จึงเน้นพิจารณาแนวรับถัดไป 1,300 / 1,293 จึงขยับแนวต้านลงตามที่ 1,315 / 1,320 

     สำหรับ SET50 ให้พิจารณาแนวรับถัดไป 801 / 798 โดยขยับแนวต้านลงที่ 813 / 817 จุด คำแนะนำสำหรับนักเก็งกำไรที่ได้ลดความเสี่ยงไปแล้วบางส่วน เน้นพิจารณาแนวรับถัดไป หรือ WAIT AND SEE ต่อ

     เก็งกำไร หุ้น BEM เป้าหมาย 8.20 / 8.45 บาท แนวรับ 7.90 บาท จุดตัดขาดทุน 7.70 บาท

     ADVANC เป้าหมาย 216 / 220 บาท แนวรับ 209 บาท จุดตัดขาดทุน 206 บาท

     SINO เป้าหมาย 1.55 / 1.60 บาท แนวรับ 1.46 บาท จุดตัดขาดทุน 1.43 บาท

     JMT เป้าหมาย 17.0 / 17.50 บาท แนวรับ 16.40 บาท จุดตัดขาดทุน 16.00 บาท