CRC ไตรมาส 1/67 กำไรสุทธิ 2,171 ล้าน เพิ่มขึ้น 0.1% รายได้ 67,255 ล้าน โต 6.4%

นายญนน์ โภคทรัพย์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ CRC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 2,171 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 0.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และมีรายได้รวม 67,255 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

โดยมีรายได้จากการขาย 60,347 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6.4% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน เนื่องจากการเพิ่มแบรนด์สินค้าให้ตอบสนองความต้องการ ผลจากการขยายสาขาและปรับปรุงสาขา ผลตอบรับที่ดีของธุรกิจใหม่ รวมถึงโครงการ Easy E-Receipt ของรัฐบาล 

อีกทั้งบริษัทยังมีรายได้จากการให้บริการเช่าและการให้บริการที่เพิ่มขึ้นจากการขยายพื้นที่ให้เช่าและจํานวนผู้ใช้บริการที่เพิ่มขึ้น อย่างไรก็ตามค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารได้เพิ่มขึ้น อันเป็นผลสืบเนื่องมาจากยอดขายที่เพิ่มขึ้น การขยายสาขา รวมทั้งต้นทุนทางการเงินและค่าใช้จ่ายภาษีเงินได้ที่เพิ่มขึ้นด้วย

รายได้จากการขาย สามารถจำแนกได้ตามส่วนงานธุรกิจของบริษัท ดังนี้

1.ส่วนงานแฟชั่น 16,265 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8.5% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน จากการเพิ่มขึ้นของยอดขายของส่วนงานในประเทศไทยและอิตาลี

โดยส่วนงานในประเทศไทย มีปัจจัยสนับสนุนหลักมาจากธุรกิจจัดจำหน่ายแบรนด์แฟชั่นและไลฟ์สไตล์ชั้นนำที่ได้เพิ่มแบรนด์สินค้าให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้า จํานวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โครงการ Easy E-Receipt ของรัฐบาล การเปิดสาขาใหม่ 2 สาขา ได้แก่ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัลนครสวรรค์และนครปฐม ในไตรมาสนี้ และผลจากการปรับปรุงสาขาอย่างต่อเนื่อง

สำหรับส่วนงานในประเทศอิตาลี ยอดขายเพิ่มขึ้นจากนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น สําหรับยอดขายผ่าน Omnichannel เพิ่มขึ้น 7% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน

2.ส่วนงานฮาร์ดไลน์ 19,487 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 4.1% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ยอดขายของส่วนงานในประเทศไทยได้เพิ่มขึ้นจากการเปิดสาขาใหม่และการปรับปรุงสาขาเดิมอย่างต่อเนื่อง จำนวนนักท่องเที่ยวที่เพิ่มขึ้น โครงการ Easy E-Receipt ของรัฐบาล รวมทั้งการจัดหาสินค้าให้ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เพียงพอ

สำหรับยอดขายจากส่วนงานในประเทศเวียดนามได้ลดลง เนื่องจากผู้บริโภคยังคงระมัดระวังการจับจ่ายใช้สอย ตามเศรษฐกิจของประเทศที่ชะลอตัว สำหรับยอดขายผ่าน Omnichannel เพิ่มขึ้น 11% จากปีก่อน

3.ส่วนงานฟู้ด 24,595 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 7.0% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยยอดขายจากส่วนงานในประเทศไทยได้เพิ่มขึ้น จากผลตอบรับที่ดีของ GO Wholesale จากการเปิด 4 สาขา ในไตรมาสก่อน และจากการเปิดสาขาใหม่ 1 สาขา ที่พระราม 2 จังหวัดกรุงเทพฯ ในไตรมาสนี้ และโครงการ Easy E-Receipt ของรัฐบาล และในไตรมาสนี้ ท็อปส์ ซูเปอร์มาร์เก็ต ได้เปิดสาขาใหม่ 3 สาขา ได้แก่ สาขาสแตนด์อโลน ที่ราษฎร์พัฒนา จังหวัดกรุงเทพฯ สาขาในศูนย์การค้าเซ็นทรัล นครสวรรค์ และนครปฐม

ส่วนยอดขายจากส่วนงานในประเทศเวียดนามเพิ่มขึ้นจากเทศกาลตรุษจีนในประเทศเวียดนาม โดยส่วนงานในประเทศเวียดนามได้เปิดสาขาใหม่ของมินิ go! 1 สาขา ที่ Thanh Binh สำหรับยอดขายผ่าน Omnichannel เพิ่มขึ้น 21% จากปีก่อน

ทั้งนี้ กลยุทธ์และแผนธุรกิจของบริษัทในระยะยาว บริษัทมุ่งมั่นที่จะสร้างการเติบโตและความเป็นเลิศทางธุรกิจอย่างยั่งยืนตามวิสัยทัศน์ “CRC OMNI-Intelligence” ซึ่งประกอบไปด้วย 5 กลยุทธ์สำคัญ (5R) ดังต่อไปนี้

1) Revolutionise Core Strength คือ การยกระดับความแข็งแกร่งของธุรกิจหลักใน Multi-Format, Multi-Category และ Multi-Market โดยมุ่งเน้นธุรกิจที่มีการเติบโตสูง รวมถึงการยกระดับเรื่อง Synergy และการทำ M&A เพื่อเพิ่ม Value ในระยะ ยาวให้กับธุรกิจ

2) Reinforce Financial Resilience คือ การทำให้สถานภาพทางการเงินมีความแข็งแกร่ง และมีการบริหารต้นทุนอย่างมี ประสิทธิภาพสูงสุด เพื่อให้ได้ผลตอบแทนที่ดีขึ้น และมีความยืดหยุ่นทางด้านการเงิน บนหลักการบริหาร 3C (Cash, Cost, Capex)

3) Reinvent Beyond Retail คือ การต่อยอดธุรกิจนอกเหนือจากธุรกิจค้าปลีก เช่น การเข้าไปเป็นส่วนสำคัญใน Community ต่างๆ ในแต่ละ Category เพื่อสร้าง Network และ Value ในระยะยาวให้กับธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล รวมถึงการขยายอีโคซิสเต็ม จาก B2C สู่ B2B อย่างเต็มรูปแบบ พร้อมเดินหน้า Scale up อย่างต่อเนื่อง

4) Reimagine Human Capital คือ การพัฒนาศักยภาพของพนักงาน ด้วยการรวม Intelligence ของ AI และ HI เข้าไว้ด้วยกัน เพื่อขยายขีดความสามารถในการทำงาน การวิเคราะห์ข้อมูลลูกค้า และการเพิ่มประสิทธิภาพของแพลตฟอร์ม Omnichannel แบบ ทวีคูณ

5) Rally Green Impact คือ การยกระดับการทำ Green Transition ด้วยการผนึกกำลังทั้งภาครัฐ เอกชน ลูกค้า และพาร์ทเนอร์ ทางธุรกิจ มาร่วมมือกันแก้ปัญหา Climate Change เพื่อไม่ให้ไปสู่ Climate Crisis โดยการลดการใช้พลังงาน ลดความเหลื่อมล้ำ และสร้างโลกสีเขียว เพื่อส่งต่อให้กับคนรุ่นหลัง

“ความสำเร็จทั้งหมดนี้มาจากกลยุทธ์การดำเนินธุรกิจที่แข็งแกร่งของเซ็นทรัล รีเทล ที่ได้วางไว้บนคอนเซ็ปต์ Leading Excellence and Advancing Sustainability คือ การเป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีก-ค้าส่ง ที่มีผลประกอบการและผลการดำเนินงานที่ยอดเยี่ยม (Leading Excellence) ในทุกกลุ่มธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล รวมทั้งมีการต่อยอดเรื่องการสร้างความยั่งยืนให้เข้มข้นไปอีกขั้น (Advancing Sustainability) ทั้งนี้ เราจะยังเดินหน้าพัฒนาธุรกิจในเครืออย่างไม่หยุดยั้ง เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับลูกค้าและผู้มีส่วนได้เสียทุกกลุ่มของเราทั้งในไทย เวียดนาม และอิตาลี” นายญนน์ กล่าว