III มั่นใจรายได้ปี 67 เติบโต 15% ตามเป้า รับเทรนด์โลจิสติกส์ฟื้นตัว

นายทิพย์ ดาลาล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III เปิดเผยว่า บริษัทมั่นใจรายได้ปี 2567 จะเติบโต 15% ได้ตามเป้าหมาย เนื่องจากมีแนวโน้มการเติบโตที่ดีทั้งจากการเติบโตของกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์เดิม และธุรกิจใหม่ที่เข้าลงทุน 

โดยการมุ่งขับเคลื่อนธุรกิจอย่างยั่งยืนด้วยยุทธศาสตร์ Logistics and Beyond ผสานความแข็งแกร่งของกลุ่มธุรกิจในรูปแบบการ Synergy ระหว่างบริษัทในกลุ่ม การร่วมทุนและเข้าซื้อกิจการ โดยเน้นพัฒนาการให้บริการโลจิสติกส์รูปแบบใหม่ๆ ทั้งในประเทศและระดับภูมิภาคให้ครอบคลุมและหลากหลาย เพื่อเติบโตอย่างรวดเร็วรับเศรษฐกิจที่ทยอยฟื้นตัวและก้าวสู่หนึ่งในผู้ให้บริการโลจิสติกส์ชั้นนำในภูมิภาคเอเชีย

สำหรับผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 บริษัทมีกำไรสุทธิ 116 ล้านบาท ลดลง 19% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน แต่มีรายได้จากการขายและให้บริการ 499 ล้านบาท เติบโต 14% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน ปัจจัยสำคัญที่ทำให้รายได้เติบโตมาจากการฟื้นตัวที่ดีของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว ส่งผลดีต่อจำนวนเที่ยวบินระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น

ประกอบกับบริษัทได้วางยุทธศาสตร์ Logistics and Beyond ด้วยการขยายธุรกิจและการลงทุนด้านโลจิสติกส์และอุตสาหกรรมที่เกี่ยวเนื่อง เพื่อผสานความแข็งแกร่งภายในกลุ่ม III ทำให้กลุ่มธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการขนส่งสินค้าทางอากาศมีอัตราเติบโตที่ดี และแม้สัดส่วนการถือหุ้นใน บริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ ANI ลดลง แต่ด้วยยุทธศาสตร์ที่วางไว้ ทำให้ได้รับส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากธุรกิจอื่นๆ ที่เข้าลงทุนมาชดเชยอย่างมีนัยสำคัญ

ทั้งนี้ ภาพรวมสำหรับกลุ่มธุรกิจโลจิสติกส์เดิมของบริษัทสามารถเติบโตอย่างต่อเนื่อง ทั้งจากกลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศและกลุ่มธุรกิจบริหารจัดการโลจิสติกส์สำหรับเคมีภัณฑ์และสินค้าอันตราย โดยเฉพาะอย่างยิ่งกลุ่มธุรกิจการขนส่งสินค้าทางอากาศที่มีการเติบโตอย่างโดดเด่นจากธุรกิจการรับจัดการขนส่งสินค้าทางอากาศ ที่มุ่งเน้นการใช้ประเทศไทยเป็น HUB ในภูมิภาค

โดยโฟกัสไปยังกลุ่มสินค้า e-Commerce เป็นหลัก แม้ว่าจะได้รับผลกระทบจากค่าระวางขนส่งสินค้าทางอากาศปรับตัวลดลงอย่างมาก รวมไปถึงการเติบโตของธุรกิจให้บริการคลังสินค้าในท่าอากาศยานดอนเมืองที่มีปริมาณสินค้าผ่านคลังที่เติบโตอย่างต่อเนื่องจากปริมาณเที่ยวบินที่เพิ่มมากขึ้น   

ในส่วนธุรกิจใหม่ที่บริษัทเข้าลงทุน อย่าง ANI ผู้นำธุรกิจตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบินในภูมิภาค แม้บริษัทจะมีสัดส่วนการถือหุ้นใน ANI ลดลง หลังจาก ANI เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ แต่จากการที่ ANI เตรียมเดินหน้าขยายบริการเพิ่มอีก 3 ประเทศเศรษฐกิจหลัก ได้แก่ อินเดีย เกาหลี และญี่ปุ่น ซึ่งเดิมมีพื้นที่ทางธุรกิจครอบคลุม 8 ประเทศเอเชีย จะทำให้บริษัทมีโอกาสได้รับส่วนแบ่งกำไรที่ดีขึ้นในไตรมาสถัดไป 

ขณะเดียวกัน จากการลงทุนผ่าน บริษัท เอสเอแอล กรุ๊ป (ไทยแลนด์) หรือ SAL ทำให้ในไตรมาส 1/2567 บริษัทได้รับส่วนแบ่งกำไรที่เพิ่มขึ้นจากการเติบโตที่โดดเด่นของ บริษัท บริการภาคพื้น ท่าอากาศยานไทย จำกัด หรือ AOTGA ผู้ให้บริการภาคพื้นสนามบินและผู้โดยสารในสนามบินดอนเมืองและภูเก็ต ซึ่งได้รับอานิสงส์จากการฟื้นตัวของอุตสาหกรรมการบินและการท่องเที่ยว 

รวมทั้งจะเริ่มให้บริการคลังสินค้ารองรับการขนส่งหลายรูปแบบ (MULTIMODAL WAREHOUSE) บนพื้นที่ประมาณ 4,800 ตร.ม. ภายในสนามบินสุวรรณภูมิในไตรมาส 2/2567 และล่าสุด AOTGA เตรียมยื่นประมูลเพื่อคัดเลือกผู้ให้บริการภาคพื้นดินของสนามบินสุวรรณภูมิรายที่ 3 ในเร็วๆนี้ นอกจากนี้ยังหาโอกาสร่วมมือกับพันธมิตรทางธุรกิจใหม่ๆ สร้างโอกาสในการเติบโตอย่างยั่งยืน

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.