MTC-TIDLOR โชว์กำไรสุทธิไตรมาสแรกพุ่ง-พอร์ตสินเชื่อขยายตัว
นายปริทัศน์ เพชรอำไพ รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท เมืองไทย แคปปิตอล จำกัด (มหาชน) หรือ MTC เปิดเผยว่า ผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 1/2567 บริษัทและบริษัทย่อย มีกำไรสุทธิ 1,389 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 29.1% จากงวดเดียวกันของปีก่อน มีรายได้ 6,630 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 17.8% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และพอร์ตสินเชื่อเพิ่มขึ้น 17.4% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แตะระดับ 147,587 ล้านบาท
โดยปัจจัยหนุนสำคัญที่ช่วยผลักดันรายได้และกำไรในไตรมาส 1/2567 ยังคงมาจากแรงขับเคลื่อนของสินเชื่อจำนำทะเบียนรถ และการขยายสาขาเพิ่ม ทำให้ยอดปล่อยกู้ขยายตัวมากขึ้น โดยบริษัทได้เปิดสาขาเพิ่ม 251 สาขา รวมเป็น 7,788 สาขา ในสิ้นเดือน มี.ค.2567 ซึ่งในปีนี้ มีแผนเปิดเพิ่ม 600 สาขา เพื่อรองรับดีมานด์ลูกค้า
สำหรับหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ (เอ็นพีแอล) ในไตรมาส 1/2567 ปรับตัวลดลงจากไตรมาสก่อน มาอยู่ที่ 3.03% ซึ่งมั่นใจว่าได้ผ่านจุดสูงสุดไปแล้วตั้งแต่ปี 2566 หลังจากตัดหนี้สูญ และขายเอ็นพีแอล รวมไปถึงให้ความสำคัญกับการปล่อยสินเชื่อด้วยความระมัดระวังขึ้น
“บริษัทยังคงมุ่งมั่นสู่การเป็นไมโครไฟแนนซ์มาตรฐานระดับโลก เน้นจุดแข็งความยั่งยืนให้กับธุรกิจ สร้างความเท่าเทียมทางการเงินให้ครอบคลุมทั่วประเทศ พัฒนาการบริการลูกค้าให้เกิดความประทับใจในทุกมิติ” นายปริทัศน์ กล่าว
ทั้งนี้ มั่นใจว่าแนวโน้มผลการดำเนินงานของบริษัทในปี 2567 จะเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ โดยตั้งเป้าหมายพอร์ตสินเชื่อเติบโต 15-20% เพื่อกระจายการเข้าถึงแหล่งเงินทุนผ่านสาขาที่คาดว่าจะมีอยู่กว่า 8,000 แห่ง ภายในสิ้นปีนี้ และตั้งเป้าหมายคุมสัดส่วนเอ็นพีแอลไม่เกิน 3.2% ควบคู่ไปกับการบริหารจัดการต้นทุนอย่างมีประสิทธิภาพ โดยมีแผนการจัดหาเงินทุนผ่านการกู้ยืมจากสถาบันการเงินทั้งในและต่างประเทศ และการออกหุ้นกู้
นายปิยะศักดิ์ อุกฤษฎ์นุกูล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท เงินติดล้อ จำกัด (มหาชน) หรือ TIDLOR กล่าวว่า ผลการดำเนินงานในไตรมาส 1/2567 เป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ทำกำไรสุทธินิวไฮ จำนวน 1,104.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 15.6% และมีรายได้รวม 5,309.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.2% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการเติบโตอย่างต่อเนื่องทั้งธุรกิจสินเชื่อและนายหน้าประกันภัย รวมถึงการบริหารต้นทุนที่มีประสิทธิภาพตลอดช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
สำหรับพอร์ตสินเชื่อคงค้าง ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 100,133.3 ล้านบาท ขยายตัว 20.6% จากงวดเดียวกันของปีก่อน จากการขยายตัวของพอร์ตสินเชื่อรวม ทั้งช่องทางออฟไลน์ผ่านสาขามากกว่า 1,700 แห่งทั่วประเทศ และช่องทางอื่นๆ เช่น พนักงานขายทางโทรศัพท์ (Telesales) ตัวแทน และช่องทางออนไลน์
ซึ่งปัจจัยหลักที่สนับสนุนการเติบโตของธุรกิจมาจากการลงทุนและพัฒนาด้านเทคโนโลยีอย่างต่อเนื่อง ทั้ง “บัตรติดล้อ” (Tidlor Card) ณ สิ้นเดือน มี.ค.2567 ได้มีการส่งมอบบัตรติดล้อแล้วกว่า 666,000 ใบ รวมถึงบริการโอนเงินสินเชื่อเข้าบัญชีผ่านแอปพลิเคชั่นเงินติดล้อ ซึ่งมีปริมาณการใช้งานขยายตัวเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง
ขณะที่อัตราส่วนสินเชื่อด้อยคุณภาพ (%NPL) อยู่ที่ระดับ 1.6% ซึ่งเป็นไปตามกรอบเป้าหมายที่ตั้งไว้ และยังคงอัตราส่วนเงินสำรองต่อหนี้ที่ไม่ก่อให้เกิดรายได้ NPL Coverage ในระดับสูงที่ 264%
ด้านธุรกิจนายหน้าประกันยังคงเติบโตได้อย่างแข็งแกร่ง โดย ณ สิ้นไตรมาส 1/2567 บริษัทมียอดเบี้ยประกันวินาศภัยมูลค่า 2,549.5 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 22.9% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน ซึ่งเติบโตได้ดีทั้งช่องทางออฟไลน์ และเทคโนโลยีแพลตฟอร์มเสนอขายประกันออนไลน์ (อารีเกเตอร์) ที่เข้ามาช่วยสนับสนุนให้นายหน้าประกันอิสระสามารถเข้าถึงระบบบริหารจัดการงานขายประกันของตนเองได้อย่างมืออาชีพ
รวมถึงแพลตฟอร์มนายหน้าประกันดิจิทัล (heygoody) ที่สร้างขึ้นเพื่อกลุ่มลูกค้าประกันรายย่อยที่ต้องการเปรียบเทียบและเลือกซื้อประกันด้วยตัวเองผ่านช่องทางออนไลน์ ซึ่งเบื้องหลังความสำเร็จของธุรกิจนายหน้าประกันเกิดขึ้นจากการสร้าง พัฒนา และใช้เทคโนโลยีด้านประกันมามากกว่า 10 ปี เพื่อเป็นพื้นฐานการดำเนินธุรกิจนายหน้าประกัน และยังคงเดินหน้าต่อยอด พัฒนาพื้นฐานธุรกิจนายหน้าประกันอย่างต่อเนื่อง เพื่อเป็นพื้นฐานสำคัญในการสนับสนุนการดำเนินธุรกิจทั้งในปัจจุบันและอนาคต
นอกจากนี้ บริษัทได้มีการปรับเปลี่ยนแบรนด์ (Rebrand) จาก “ประกันติดล้อ” เปลี่ยนเป็น “ประกันติดโล่” และยกระดับมาตรฐานการให้บริการอย่างครบวงจร ตั้งแต่การขายจนถึงการเคลม รวมถึงมีแผนที่จะขยายไปสู่ผลิตภัณฑ์ประกันภัยประเภทอื่นๆ ในอนาคตอีกด้วย
“ภาพรวมการดำเนินธุรกิจในไตรมาส 1/2567 ยังคงมุ่งเน้นการเติบโตอย่างมีคุณภาพ และใช้ประโยชน์ด้านเทคโนโลยีนำมาต่อยอดพัฒนาธุรกิจ เพื่อตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้สามารถเข้าถึงบริการได้อย่างรวดเร็ว ครอบคลุม ตรงกับความต้องการ รวมถึงเพื่อรองรับการเติบโตในระยะยาว” นายปิยะศักดิ์ กล่าว
สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจปี 2567 เชื่อว่ากลยุทธ์ที่วางไว้จะทำให้ผลการดำเนินงานเป็นไปตามเป้าหมาย พร้อมเดินหน้าบริหารธุรกิจให้เติบโตที่ระดับ 10-20% ทั้งธุรกิจสินเชื่อและนายหน้าประกัน เพื่อสร้างพื้นฐานการเติบโตให้กับ TIDLOR ได้อย่างยั่งยืนในอนาคต
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.