สหรัฐฯ เรียกร้องไทยปรับปรุงกฎหมายลิขสิทธิ์ หลังสินค้าละเมิดขายเกลื่อนโลกออนไลน์
สำนักงานผู้แทนการค้าสหรัฐฯ (USTR) เผยแพร่รายงานผลการทบทวนสถานะประเทศคู่ค้าของสหรัฐฯด้านทรัพย์สินทางปัญญา ตามมาตรา 301 พิเศษ กฎหมายการค้าสหรัฐฯ ประจำปี 67 โดยในรายงานระบุว่า แม้ไทยได้ปรับปรุงแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์ เพื่อเข้าเป็นสมาชิกสนธิสัญญาว่าด้วยการแสดงและสิ่งบันทึกเสียงขององค์การทรัพย์สินทางปัญญาโลก (WPPT), แก้กฎหมายสิทธิบัตร เพื่อปรับปรุงกระบวนการจดทะเบียนให้รวดเร็ว แก้ปัญหาการตรวจสอบคำขอจดทะเบียนที่คั่งค้างสะสมจำนวนมาก และเพื่อเข้าเป็นสมาชิกสนธิสัญญากรุงเฮก, หน่วยงานภาครัฐต่างๆ ที่เกี่ยวข้อง ทำงานร่วมกับเจ้าของสิทธิ์ในการป้องกัน และปราบปรามการละเมิดอย่างเต็มที่
แต่ยังมีสินค้าละเมิดวางขายต่อเนื่อง โดยเฉพาะทางออนไลน์ ซึ่งหน่วยงานของไทยมุ่งปราบผู้ค้ารายย่อยมากกว่าจะมุ่งปราบผู้ผลิตและจำหน่ายรายใหญ่ รวมถึงกังวลอาจไม่มีการดำเนินคดีทางอาญา อีกทั้งแม้ไทยได้ลงนามบันทึกความเข้าใจ (MOU) กับผู้ประกอบการแพลตฟอร์มขายสินค้าออนไลน์ ในการปราบปรามการขายสินค้าละเมิดทางออนไลน์ แต่การละเมิดลิขสิทธิ์ยังคงมีอยู่ เพราะมีอุปกรณ์ต่างๆ และแอปพลิเคชันที่สามารถสตรีม หรือดาวน์โหลดเนื้อหาได้โดยไม่ได้รับอนุญาต
สหรัฐฯ ยังได้เรียกร้องให้ไทยปรับปรุงแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์เพิ่มเติม เพราะสหรัฐฯ รัฐบาลต่างประเทศ และผู้มีส่วนได้ส่วนเสียอื่นๆ ยังมีข้อกังวล และยังมีอุปสรรคในขั้นตอนการบังคับใช้การป้องกันการแอบถ่ายหนังโดยไม่ได้รับอนุญาต รวมถึงเร่งแก้ปัญหาการพิจารณาคำขอจดสิทธิบัตรที่ยังคั่งค้างจำนวนมาก
ขณะที่การปรับปรุงแก้ไขกฎหมายสิ่งบ่งชี้ทางภูมิศาสตร์ สหรัฐฯเรียกร้องให้ไทยดำเนินการอย่างโปร่งใส และมีกระบวนการที่เหมาะสมในการคุ้มครอง
นอกจากนี้ สหรัฐฯ ยังมีข้อกังวลด้านอื่นเพิ่มเติม อาทิ ภาคเอกชนของไทยยังคงใช้ซอฟต์แวร์ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญาของสหรัฐฯ, การดำเนินคดีทางแพ่งมีความยืดเยื้อ และความเสียหายทางแพ่งอยู่ในระดับต่ำ รวมถึงเรียกร้องให้ไทยมีระบบปกป้องที่มีประสิทธิภาพเกี่ยวกับการใช้งานเชิงพาณิชย์โดยไม่เป็นธรรม การเปิดเผยข้อมูลโดยไม่ได้รับอนุญาต หรือการเปิดเผยผลการทดสอบ หรือข้อมูลทั่วไปเพื่อการเข้าสู่ตลาดของผลิตภัณฑ์ยา และเคมีภัณฑ์ทางการเกษตร
ทั้งนี้ นับเป็นอีกหนึ่งปีที่ไทย ยังคงถูกจัดให้อยู่ในกลุ่มประเทศที่ถูกจับตามองด้านทรัพย์สินทางปัญญา (Watch List : WL) ตั้งแต่ปี 60 แม้จะมีการพัฒนาด้านการป้องกัน คุ้มครองการละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และบังคับใช้กฎหมายจริงจังขึ้น ซึ่งกระทรวงพาณิชย์ของไทย หวังเป็นอย่างยิ่งว่า ไทยจะหลุดออกจากบัญชีดังกล่าว เพราะมีพัฒนาด้านทรัพย์สินทางปัญญาที่ดีขึ้นมาก โดยได้ดำเนินการต่างๆ ตามที่สหรัฐฯเรียกร้อง นำมาซึ่งความพอใจของเจ้าของสิทธิ์ แต่ก็ยังไม่สามารถหลุดพ้นจากการจัดสถานะด้านทรัพย์สินทางปัญญาได้
สำหรับกลุ่ม WL ปีนี้ มี 20 ประเทศ คือ อัลจีเรีย, บาร์บาโดส, เบลารุส, โบลิเวีย, บราซิล, บัลแกเรีย, แคนาดา, โคลอมเบีย, เกวาดอร์, อียิปต์, กัวเตมาลา, เม็กซิโก, ปากีสถาน, ปารากวัย, เปรู, ไทย, ทรินิแดด แอนด์ โทบาโก, เตอร์เกีย, เติร์กเมนิสถาน และเวียดนาม
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.