ผ่าเกมหุ้นเทรด 3 วันก่อนหยุดสงกรานต์ ดัชนีผันผวนเน้นสอยหุ้นดีมีสตอรี่

ดอกเบี้ย US ผันผวน

     นายวิจิตร อารยะพิศิษฐ นักกลยุทธ์การลงทุนฝ่ายวิจัย บล.ลิเบอเรเตอร์ ระบุว่า สุดสัปดาห์ที่ผ่านมาสหรัฐฯรายงานตัวเลขภาคแรงงาน เดือน มี.ค.ที่แข็งแกร่งกว่าคาด นําโดย 1) การจ้างงานนอกภาคเกษตร เพิ่มขึ้น +3.03 แสนราย เร่งขึ้นจาก ก.พ. ที่ +2.7 แสนราย และสูงกว่าคาดที่ +2.14 แสนราย 2) อัตราการว่างงาน ลดลงสู่ 3.8% จาก 3.9% ในเดือนก่อนหน้า และ 3) ค่าจ้างเฉลี่ยราย ชั่วโมง +0.3%m-m , +4.1%y-y ตามคาด

     จากตัวเลขแรงงานที่แข็งแกร่ง ส่งผลให้ล่าสุดตลาดประเมินโอกาสการปรับลดดอกเบี้ยสหรัฐฯครั้งแรก เลื่อนออกไปเป็นช่วง 3Q24 จากเดิมที่คาดหวังในช่วง เดือน มิ.ย.นี้ แต่อย่างไรก็ดีก็ยังมีความไม่แน่นอนจึงยังต้องติดตามตัวเลขเศรษฐกิจ US ในช่วงถัดไปอย่างใกล้ชิด โดยสําหรับสัปดาห์ แนะติดตาม US Core CPI ที่จะรายงานวันที่ 10 เม.ย. โดยตลาดคาดจะชะลอต่อเนื่องสู่ +3.7%y-y จาก +3.8%y-y รวมทั้งติดตาม การทยอยรายงานงบบริษัทจดทะเบียน US ซึ่งคาดยัง อยู่ในระดับที่แข็งแกร่ง

    ส่วนปัจจัยในประเทศ แม้ว่าสัปดาห์นี้ SET เปิดทําการเพียงแค่ 3 วัน แต่ยังคงมีปัจจัยสําคัญที่น่าติดตาม โดยเฉพาะอย่างยิ่งวันที่ 10 เม.ย. ซึ่งจะมีการประชุม กนง. ปัจจุบันเสียงส่วนใหญ่ยังให้โอกาสการคงอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ระดับ 2.5% ตามเดิม นอกจากนี้ยังแนะจับตารายละเอียดของโครงการ Digital wallet ที่ภาครัฐฯจะเปิดเผยในวันที่ 10 เม.ย.เช่นกัน

    "คาด SET วันนี้ “ฟื้นตัว” ในกรอบ 1370-1390 จุด แม้ตัวเลขภาคแรงงาน US จะแข็งแกร่งเกินคาดหนุนให้โอกาสปรับลดดอกเบี้ย US อาจเลื่อนเป็นช่วง 3Q24 แต่ตลาด US ยังมีแรงหนุนจากแนวโน้มกำไรบริษัทจดทะเบียนที่คาดแข็งแกร่ง ส่วนประเด็นน่าติดตามได้แก่ ประชุม กนง”, Digital wallet และ US CPI โดยยังแนะสะสมหุ้นพื้นฐานดี

     วันนี้แนะนำ “CPALL” ราคาเป้าหมาย 72 บาท คาดแนวโน้ม 1Q24 ยังมีทิศทางที่เติบโตต่อเนื่อง แรงขับเคลื่อนจากพัฒนาการที่ดีขึ้นของการบริโภค และบริษัทลูกทั้ง CPAXT และ Lotus หนุนกำไรปี 2024 คาดเติบโต +18%y-y ขณะที่ในระยะสั้นตลาดมีความกังวลต่อการเข้ามา
ของผู้เล่นรายใหม่มากเกินไปท่ามกลาง Valuation ของ CPALL ที่ยังเทรดในระดับไม่แพงมองเป็นโอกาสในการทยอยสะสม"

ผันผวนชวนเล่นสั้น

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า ตลาดหุ้นเมื่อวันศุกร์(5 เม.ย.67) SET Index เพิ่มขึ้น 2 จุด (+0.12%) ปิดที่ระดับ 1,376 จุด นักลงทุนระมัดระวังการ ซื้อขายเพื่อลดความเสี่ยงก่อนหยุดยาวเนื่องในวันจักรี

     แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้(9 เม.ย.67)ประเมิน SET แกว่งตัว 1,365 - 1,385 จุด เนื่องจากขาดปัจจัยใหม่โดยภาวะตลาด ยังคงกังวล FED อาจรึงอัตราดอกเบี้ยระดับสูงเป็นเวลานาน รวมถึงชะลอการซื้อ ขายเพื่อติดตามตัวเลขเงินเฟ้อ CPI สหรัฐฯ และการประชุม กนง.ในวันที่ 10 เม.ย. อย่างไรก็ตามคาดว่าแรงซื้อกลุ่มที่มีปัจจัยบวกเฉพาะตัวช่วยหนุนให้ดัชนีสลับรีบาวด์ขึ้นได้ ดังนั้นจึงแนะนำซื้อช่วงอ่อนตัวแบบ Selective buy

     "กราฟ SET ล่าสุดแม้จะฟื้นตัวขึ้นแต่ยังคงปิดใต้เส้น EMA 10 วัน นอกจากนี้ Volume ซื้อขายที่เบาบางและเครื่องมือ RSI กับ MACD ให้สัญญาณขัดแย้งกันส่งผลให้ภาวะตลาดผันผวนสูง ดังนั้นประเมินว่า SET จะแกว่งตัว 1,365 - 1,385 จุด ทั้งนี้แนะนำซื้อเล่นรีบาวด์ในกรอบดังกล่าวโดย Cut loss หากหลุด 1,360 จุด"

     หุ้นแนะนำวันนี้ คือ หุ้น AP (ปิด 10.6 ซื้อ/ เป้า IAA Consensus 14.40 บาท) มี Sentiment บวก จากกระแสข่าวภาครัฐเตรียมพิจารณาเพิ่มเพดานราคาบ้านที่จะได้สิทธิลดค่าโอน-จดจำนอง จากราคาไม่เกิน 3 เป็น 7 ล้านบาท เป็นบวกต่อกลุ่มอสังหาฯ โดยเฉพาะ AP ที่มีสัดส่วนบ้านอยู่ในระดับราคาดังกล่าวในสัดส่วนสูง

     และ หุ้น CK (ปิด 22.90 ซื้อ/เป้า IAA Consensus 27 บาท) มีประเด็นให้เก็งกำไรจากข่าวภาครัฐเตรียมเปิดประมูลงานทางด่วน จตุโชติ - ลำลูกกา มูลค่า 1.9 หมื่น ล้านบาทในเดือน เม.ย.นี้ และอยู่ระหว่างจัดทำ TOR โครงการรถไฟทางคู่ ขอนแก่น-หนองคาย มูลค่า 2.87 หมื่นล้านบาทคาดเปิดขายซองได้ พ.ค.- ก.ค. นี้

ประเด็นสำคัญวันนี้

     (+) อสังหาฯ – ลุ้นรัฐบาลออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ชุดใหญ่: วันนี้มีกระแสคาดการณ์ว่าภาครัฐจะออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯ ชุดใหญ่ อาทิ การเพิ่มเพดาน ราคาบ้านที่จะได้สิทธิลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนอง (ไม่เกิน 7 จากเดิม 3 ล้านบาท), การให้สิทธิลดหย่อนภาษีสำหรับผู้สร้างบ้าน และการจัดหาสินเชื่อ ดอกเบี้ยต่ำ หากเป็นจริงจะเป็นบวกกับกลุ่มอสังหาฯ โดยตรงโดยเฉพาะกลุ่ม ผู้ประกอบการที่มีที่อยู่อาศัยอยู่ในช่วงราคา 1-7 ล้านบาท อาทิ AP และ SPALI

     (+/-) พรุ่งนี้ประชุม กนง. คาดคงดอกเบี้ยที่ระดับ 2.5% ตามเดิม: เราคงมุมมอง เดิมคาดแบงก์ชาติจะคงดอกเบี้ยนโยบายไว้ที่ระดับ 2.5% โดยมีปัจจัยหนุนจาก 1) อัตราเงินเฟ้อที่ยังติดลบเป็นผลจากนโยบายลดค่าครองชีพจากภาครัฐ, 2) ปัจจัย ภายนอกเริ่มมีความไม่แน่นอนโดยเฉพาะ อัตราเงินเฟ้อและราคาพลังงาน และ 3) คาดรอดูผลจากนโยบายการคลังของรัฐที่กำลังจะเร่งเบิกจ่ายเงินงบประมาณฯ

     (-) จับตาตัวเลขเงินเฟ้อ (CPI) เดือน มี.ค. ของสหรัฐ เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้เฟด ลดดอกเบี้ย: โดยสหรัฐจะรายงานตัวเลขอัตราเงินเฟ้อ (CPI) เดือน มี.ค. ในวันพุธที่ 10 เม.ย. นี้ เบื้องต้น Consensus คาดอัตราเงินเฟ้อทั่วไป (Headline CPI) จะ เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 3.4% จาก 3.2% ในเดือน ก.พ. และคาดอัตราเงินเฟ้อพื้นฐาน (Core CPI) จะลดลงสู่ระดับ 3.7% จาก 3.8% ในเดือน ก.พ.