วัดพลังหุ้นน้องใหม่ “APO-BPS” ราคา IPO ต่ำบาท รีเทิร์นดีแค่ไหน?

จากการสำรวจข้อมูลหุ้นเข้าใหม่ นับตั้งแต่ต้นปี 2567 จนถึงปัจจุบัน พบว่า มีหุ้นเข้าใหม่รวมทั้งสิ้นจำนวน 10 บริษัท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนอยู่ที่ 4,712.87 ล้านบาท มูลค่าเสนอขายอยู่ที่ 10,449.80 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO อยู่ที่ 47,056.19 ล้านบาท 

โดยแบ่งเป็นหลักทรัพย์ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จำนวน 4 บริษัท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนอยู่ที่ 3,026.07 ล้านบาท มูลค่าเสนอขายอยู่ที่ 8,519.20 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO อยู่ที่ 39,936.19 ล้านบาท

ขณะที่หลักทรัพย์ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 6 บริษัท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนอยู่ที่ 1,686.80 ล้านบาท มูลค่าเสนอขายอยู่ที่ 1,930.60 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO อยู่ที่ 7,120.00 ล้านบาท

ทั้งนี้ “โพสต์ทูเดย์” ขอหยิบหยกมาเฉพาะหุ้นเข้าใหม่ราคาต่ำบาท หรือหุ้น IPO ที่กำหนดราคาเสนอขายต่ำกว่า 1 บาท ซึ่งมีจำนวน 2 บริษัท ได้แก่ บริษัท เอเชียนน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หรือ APO ราคาเสนอขายอยู่ที่ 0.99 บาท และ บริษัท บีพีเอส เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ BPS ราคาเสนอขายอยู่ที่ 0.90 บาท โดยมาดูกันว่า ราคาหุ้นปัจจุบัน (5 เม.ย.) เมื่อเทียบจากราคาไอพีโอ “ผลตอบแทน หรือ รีเทิร์น” เป็นอย่างไร

โดยทั้ง 2 บริษัทดังกล่าว คิดเป็นมูลค่าระดมทุนอยู่ที่ 207 ล้านบาท มูลค่าเสนอขายอยู่ที่ 207 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO อยู่ที่ 696.60 ล้านบาท

สำหรับ บริษัท เอเชียนน้ำมันปาล์ม จำกัด (มหาชน) หรือ APO ประกอบธุรกิจสกัดน้ำมันปาล์มดิบและจำหน่ายผลิตภัณฑ์หลักจากการสกัดน้ำมันปาล์มดิบและผลพลอยได้ รวมถึงผลิตพลังงานไฟฟ้าจากก๊าซชีวภาพเพื่อจำหน่ายให้กับการไฟฟ้าส่วนภูมิภาค 

APO จดทะเบียนในตลาด mai ในกลุ่มอุตสาหกรรมเกษตรและอุตสาหกรรมอาหาร เมื่อวันที่ 2 เม.ย.2567 เปิดเทรด 1.74 บาท ระหว่างวันปรับตัวขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ 2.86 บาท ปรับตัวต่ำสุดที่ 1.74 บาท ก่อนปิดเทรดวันแรก 2.12 บาท ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 1.13 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 114.14% จากราคา IPO ที่ 0.99 บาท 

จากนั้นวันที่ 3 เม.ย.2567 ปิดเทรดที่ 1.59 บาท ลดลง 0.53 บาท หรือลดลง 25% และวันที่ 4 เม.ย.2567 ปิดเทรดที่ 1.33 บาท ลดลง 0.26 บาท หรือลดลง 16.35% ก่อนราคาปิด ณ วันที่ 5 เม.ย.2567 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 1.56 บาท สูงกว่าราคา IPO ถึง 57.58%

ขณะที่ บริษัท บีพีเอส เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ BPS ประกอบธุรกิจจำหน่ายอุปกรณ์เชื่อมต่อไฟฟ้าภายในอาคาร สินค้าเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้อง อุปกรณ์โซลาร์เซล บริการจัดหา ออกแบบ ติดตั้ง โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์จากโซลาร์เซลแบบติดตั้งบนหลังคา ระบบควบคุมการจ่ายไฟฟ้า โครงข่ายไฟเบอร์ออพติกเพื่อการสื่อสาร และผลิตภัณฑ์ที่ช่วยอำนวยความสะดวกภายในที่อยู่อาศัยและอาคารพาณิชย์

BPS จดทะเบียนในตลาด mai ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุตสาหกรรม เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2567 เปิดเทรด 2.12 บาท ระหว่างวันปรับตัวขึ้นไปทำราคาสูงสุดที่ 2.20 บาท ปรับตัวต่ำสุดที่ 1.20 บาท ก่อนปิดเทรดวันแรก 1.23 บาท ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 0.33 บาท หรือคิดเป็นเพิ่มขึ้น 36.67% จากราคา IPO ที่ 0.90 บาท

จากนั้นวันที่ 4 เม.ย.2567 ปิดเทรดที่ 0.98 บาท ลดลง 0.25 บาท หรือลดลง 20.33% และราคาปิด ณ วันที่ 5 เม.ย.2567 ปรับตัวขึ้นมาอยู่ที่ 1.08 บาท สูงกว่าราคา IPO ถึง 20%

อย่างไรก็ตาม สำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ได้รับแบบรายงานการได้มาหรือจำหน่ายหลักทรัพย์ของกิจการ (แบบ 246-2) พบ รายงานการจำหน่ายหุ้นของ บริษัท บีพีเอส เทคโนโลยี จำกัด (มหาชน) หรือ BPS โดย “หมอวิน-นพ.รัชต์ชยุตม์ จีระพรประภา นักลงทุนเซียนเทคนิค ผู้ถือหุ้นอันดับ 5 จำนวนทั้งหมดที่ถือหุ้น 29.41 ล้านหุ้น คิดเป็น 7.35% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2567 ซึ่งเป็นวันแรกที่หุ้น BPS เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai 

ขณะเดียวกัน ยังพบรายงานการจำหน่ายหุ้น BPS โดย ทรัสต์เพื่อกิจการเงินร่วมลงทุน กองทุนร่วมลงทุนในกิจการ SMEs (กองทุนย่อยกองที่ 2) ผู้ถือหุ้นอันดับ 2 จำนวนทั้งหมดที่ถือหุ้น 54.19 ล้านหุ้น คิดเป็นสัดส่วน 13.55% ของสิทธิออกเสียงทั้งหมดของกิจการ เมื่อวันที่ 3 เม.ย.2567 ซึ่งเป็นวันแรกที่หุ้น BPS เข้าเทรดในตลาดหลักทรัพย์ mai 

จะเห็นได้ว่า หุ้น APO และ BPS เทรดวันแรกปรับตัวขึ้นไปสูง ขณะที่วันถัดมาราคาหุ้นปรับตัวลง แต่ราคาหุ้นปัจจุบันปิดเทรด (5 เม.ย.) ยังมีผลตอบแทนเป็นบวก หรือราคายืนเหนือกว่าราคา IPO