TRUE ชู 3 กลยุทธ์ ดันธุรกิจปี 67 ทำกำไรดีขึ้นทุกไตรมาส
นายมนัสส์ มานะวุฒิเวช ประธานคณะผู้บริหาร บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TRUE เปิดเผยว่า ในปี 2567 บริษัทมุ่งเป็นองค์กรที่ขับเคลื่อนทุกส่วนธุรกิจด้วยการเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียว ทั้งโครงสร้างพื้นฐาน การปฏิบัติการดึงพลังเทคโนโลยี AI ผสานความเข้าใจลูกค้าเชิงลึกมาใช้ในการปฏิวัติพัฒนาบริการ
โดยได้วางกลยุทธ์ทางธุรกิจ มุ่งเน้น 3 ด้าน คือ 1.ยกระดับประสบการณ์ลูกค้าระดับเวิลด์คลาส โดยมีแผนพัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย (Network Modernization) เพิ่มเป็น 10,000 เสา ในปี 2567 จากปัจจุบันพันฒนาไปแล้วมากกว่า 2,400 เสาทั่วประเทศ รวมถึงการใช้ประโยชน์คลื่นความถี่ทุกย่านอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ลูกค้าได้ใช้งานบนเครือข่ายที่ครอบคลุมมากขึ้นและเร็วยิ่งขึ้น
รวมไปถึงพัฒนา BNIC - Business Network Intelligence Center โดยใช้เทคโนโลยี AIเพื่อออกแบบบริการและนำเสนอสิทธิประโยชน์ที่เฉพาะเจาะจงตรงไลฟ์สไตล์ลูกค้าแต่ละบุคคลได้มากขึ้น
พร้อมทั้งส่งมอบบริการแบบไร้รอยต่อในทุกช่องทาง(Omnichannel) เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีที่สุดแก่ลูกค้า
2.ดึงเทคโนโลยีดิจิทัลเติมเต็มวิถีชีวิตคนไทยให้ดีขึ้นในทุกวัน โดยเปลี่ยนการสื่อสารบนมือถือสู่การเติมเต็มไลฟ์สไตล์ ผ่านบริการดิจิทัลที่หลากหลายและสิทธิประโยชน์ที่ตรงไลฟ์สไตล์เฉพาะบุคคล
เปลี่ยนบรอดแบนด์สู่การเติมเต็มชีวิตอัจฉริยะในบ้าน สร้างประสบการณ์ดิจิทัลใหม่ๆ ในการทำงาน เรียน บันเทิง และการใช้ชีวิตที่สะดวกสบายและปลอดภัยภายในบ้าน
เปลี่ยนระบบทีวีแบบเดิมๆเป็นสตรีมมิง ส่งตรงสาระและความบันเทิงจากหลากหลายคอนเทนต์ระดับโลกถึงมือผู้บริโภคให้เลือกรับชมได้อย่างจุใจทุกที่ทุกเวลา ผ่าน ทรูไอดี ทรูวิชั่นส์นาว และอีกหลากหลายแอปพลิเคชันชั้นนำ
3.พลิกธุรกิจเติบโตอย่างยั่งยืน ซึ่งจะยกระดับขีดความสามารถของทรู คอร์ปอเรชั่น ในการเปลี่ยนผ่านสู่ผู้นำบริษัทโทรคมนาคม-เทคโนโลยี ที่สามารถสร้างประโยชน์จากการผสานรวมกัน เพิ่มศักยภาพในการให้บริการลูกค้า การบริหารต้นทุน และเพิ่มความสามารถในการทำกำไร บนพื้นฐานของจริยธรรม ความรับผิดชอบ และเป็นไปตามแนวทางการดำเนินธุรกิจอย่างยั่งยืน
“ปีนี้เป็นปีที่จะทรานฟอร์ม และทำให้ผลกำไรดีขึ้นทุกไตรมาส และเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำกำไรภายหลังการปรับปรุง (Normalized) ในปี 2567 และเติบโตต่อเนื่องอย่างมั่นคงแข็งแกร่ง จากนั้นจะสร้างความยั่งยืนในการทำกำไรได้ในปี 2568 ส่วนกำไรสุทธิ เราไม่อยาก commit ว่าจะเห็นในปีไหน“ นายมนัสส์ กล่าว
สำหรับแนวโน้มผลการดำเนินงานไตรมาส 1/2567 คาดว่าจะดีกว่าไตรมาส 1/2566 เนื่องจากการใช้งานของลูกค้าเพิ่มมากขึ้น และบริษัทมีการบริหารต้นทุนที่ดีขึ้น ซึ่งสะท้อนจาก EBITDA ของบริษัทเติบโตมา 4 ไตรมาสติดต่อกัน
ส่วนงบลงทุนรวม (CAPEX) ปี 2567 จะใช้ประมาณ 30,000 ล้านบาท ใช้สำหรับเป็นค่าใช้จ่ายในการควบรวบ พัฒนาเครือข่ายให้ทันสมัย (Network Modernization) และค่าใช้จ่ายที่เกิดขึ้นประจำ
นายมนัสส์ กล่าวว่า ตามที่สำนักงานคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ (กสทช.) มีแผนนำคลื่นความถี่ 850 MHz, 2100 MHz, 2300 MHz ของ บริษัท โทรคมนาคมแห่งชาติ จำกัด (มหาชน) หรือ NT ซึ่งจะหมดอายุในเดือน ก.ย.2568 และคลื่นความถี่ 3500 MHz มาเปิดประมูลนั้น เรื่องคลื่นความถี่เป็นทรัพยากรที่สำคัญมากในการทำธุรกิจ ซึ่งบริษัทมีความพร้อมในทุกๆ เรื่อง
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ขึ้นอยู่กับการกำหนดร่างเงื่อนไขการประมูล รวมไปถึงการพิจารณาราคา และไทม์ไลน์ที่เหมาะสม
“จุดยืนเราพร้อมในทุกๆ เรื่อง เรามีการวางแผน Spectrum Strategy ไว้หมดแล้ว แต่เงื่อนไขเรายังไม่เห็น ดังนั้นสนใจเข้าประมูลหรือไม่ ขึ้นอยู่กับ กสทช. กำหนดกติกาว่ายังไง พิจารณาราคา และไทม์ไลน์ที่เหมาะสม รวมทั้งมีเวลาให้ปรับตัวเหมือนสากลหรือไม่” นายมนัสส์ กล่าว
ในขณะที่การขออนุญาตประกอบธุรกิจธนาคารพาณิชย์ไร้สาขา (Virtual Bank) นั้น บริษัทอยู่ในกระบวนการพิจารณา โดยหากจะทำจะเป็นในลักษณะดึงพันธมิตรเข้ามาร่วมดำเนินการ
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.