ทิ้งดิ่ง! 'ORI' ร่วงหนักรับงบปี66 วูบ ราคานี้ น่าซื้อ รึ รอก่อน?

     ความเคลื่อนไหวของราคาหุ้น "บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI" หลังจากเปิดการซื้อขายเช้านี้(1 มีนาคม 2567) ราคาหุ้นร่วงแรง ที่ 6.60 บาท เปิดกระโดดลดลง 1 บาท จากราคาปิดวานนี้(29 มีนาคม 2567) ที่ 7.60 บาท

     ท้ายที่สุด "ORI" กลับมาปิดการซื้อขายช่วงเช้านี้ อยู่ที่ 6.70 บาท ลดลง 0.90 บาท คิดเป็น -11.84% มูลค่าการซื้อขาย 289.90 ล้านบาท โดยราคาขึ้นไปสูงสุด 6.90 บาท และลดลงต่ำสุด 6.55 บาท

     สาเหตุหลักคาดมาจากการแจ้งผลประกอบการปี 2566 วานนี้ เวลา 21.00 น. ที่ลดลงกว่าหลายโบรกคาดการณ์ไว้

สะเทือนใจQ4ต่ำคาด

     บทวิเคราะห์ บล.กรุงศรี พัฒนสิน แนะนำ Trading Buy หุ้น ORI ราคาเป้าหมาย 9.50 บาท มุมมอง negative ต่อกำไรสุทธิในไตรมาส 4/66 เพียง 47 ล้านบาท (-95% y-y, -95% q-q) ต่ำกว่าคาดจาก extra expense การกลับรายการกำไรการต่อรองราคาซื้อโรงแรมต่ำกว่า Book value (ที่ 276 ล้านบาท) ที่บันทึกมาไตรมาสก่อน และรายได้ค่าบริหารโครงการ JV ที่ลดลงมาก 

     ทั้งนี้ถ้าไม่รวม extra gain / extra loss ไตรมาสนี้จะรายงาน Norm. loss ที่ -72 ล้านบาท เป็นการรายงานขาดทุนครั้งแรก โดย core operation ถูกกดดันจากการโอนที่ลดลง y-y, q-q และ SG&A expenses ที่สูง สำหรับ 2023 Norm profit เท่ากับ 1.9 พันล้านบาท (-34% y-y) มีเพียงปันผลจ่ายงวดครึ่งหลังปี66 ที่ 0.30 บาท/หุ้น dividend yield สูง 3.9% เป็นตัวประคองราคาหุ้น 

     สำหรับทิศทาง Norm. profit ในปี 67 ฝ่ายวิเคราะห์คาดดีขึ้น +30% y-y จากฐานต่ำ ขณะที่ extra gain ที่น่าจะลดลง y-y กดดันให้ทิศทางกำไรสุทธิลดลงทรงตัว y-y หรือราว 2.8 พันล้านบาท

     ฝ่ายวิเคราะห์คงราคาเป้าหมายปี 67 ที่ 9.50 บาท ถึงแม้คง Trading Buy แต่มองราคาหุ้นระยะสั้นถูกกดดันจากกำไรสุทธิในไตรมาส 4/66 ที่ไม่ดี และ outlook ปี 67 ที่ไม่สดใสนัก จึงแนะนำเพียง wait and see จนกว่าจะเห็น catalyst ใหม่

เปลี่ยนตัวเล่น

     ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ แลนด์ แอนด์ เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) ระบุว่า หุ้น ORI ราคาเป้าหมาย 9.50 บาท กำไรสุทธิไตรมาส 4/66 ที่ 47 ล้านบาท ลดลง -95%QoQ , -95%YoY จากยอดโอนลดลง -46%QoQ, -40%YoY มาอยู่ที่ 1.7 พันล้านบาท หลักๆจากยอดคอนโดที่ลดลงทั้ง QoQ และ YoY และรายได้ค่าบริหารโครงการที่ลดลงจากการทำ JV ใหม่น้อยลงในไตรมาส 4/66 

     ขณะที่ อัตรากำไรขั้นต้นในไตรมาส 4/66 ธุรกิจที่อยู่อาศัย อยู่ที่ 33.7% เพิ่มขึ้นจากฐานต่ำที่ 23.6% ในไตรมาส 3/66 จากผลกระทบการขาย Big lot ให้กับ RealX แต่ยังทรงตัวใกล้เคียงกับไตรมาส 4/65 ที่ 33.3% 

     ด้านค่าใช้จ่าย SG&A เพิ่มขึ้น +34%QoQ, +42%YoY หลักๆ เพิ่มขึ้นจากค่าใช้จ่ายด้านการตลาด ตามการจำนวนการเปิดโครงการใหม่ที่เพิ่มขึ้น และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานเพิ่มขึ้นจากการเร่งขยายธุรกิจ รวมถึงการจ่ายโบนัสให้แก่ในช่วงสิ้นปี ขณะรับรู้ส่วนแบ่งกำไรจากโครงการ JV ที่ 328 ล้านบาท เพิ่มขึ้น +138%QoQ แต่ทรงตัว YoY จากโครงการ JV ใหม่ที่น้อยลง และยอดโอนจากโครงการ JV ที่เพิ่มขึ้น ส่งผลให้กำไรทั้งปี 66 อยู่ที่ 2.72 พันล้านบาท ลดลง -28%YoY

     ฝ่ายวิเคราะห์มีมุมมองเป็นลบต่อผลประกอบการไตรมาส 4/66 ที่ลดลง YoY จากกำลังซื้อที่อยู่อาศัยที่อ่อนแอ ขณะที่ธุรกิจบริการและธุรกิจสร้างรายได้ประจำยังอยู่ในช่วงสร้างฐานในการเติบโต ส่งผลเรามองว่าในระยะสั้น ORI จะมีแรงขายจากผลประกอบการที่ออกมาน่าผิดหวังในไตรมาส 4/66 

     เบื้องต้น ORI ได้ประกาศแผนธุรกิจปี 67 เตรียมเปิดโครงการใหม่ 35 โครงการ มูลค่า 3.7 หมื่นล้านบาท แบ่งเป็นแนวราบ 20 โครงการ มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท และคอนโด 15 โครงการ มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท แบ่งสัดส่วนตามทำเลเป็น กทม. 52% และ ต่างจังหวัด 48% โดยจะเปิดโครงการใหม่ในช่วงครึ่งแรกของปี67 ที่ 10 โครงการ มูลค่า 1.47 หมื่นล้านบาท

     พร้อมกันนี้ บริษัทประกาศจ่ายเงินปันผลในช่วงครึ่งหลังของปี 66 ที่ 0.3 บาท คิดเป็น Div. yield ที่ 3.9% ขึ้น XD วันที่ 8 พ.ค. 67 รวมจ่ายปันผลทั้งปี 66 คิดเป็นยิลด์ 6% ดังนั้นแนะนำ “สับเปลี่ยนตัวลงทุน” ไปซื้อหุ้นที่มีความน่าสนใจทั้งในด้านผลประกอบการในปีนี้ เและ Div. yield งวดครึ่งแรกของปี66 ที่น่าสนใจมากกว่า อย่าง SPALI , LH และ AP 

 

รอดูภาพเศรษฐกิจ

     บทวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า ORI ไตรมาส 4/66 พิษเศรษฐกิจชะลอตัวทำให้มีรายได้อสังหาฯ ที่ 1,715.5 ล้านบาท ลดลง -39.6y-y , ลดลง -45.8%q-q อ่อนตัวค่อนข้างมาก และในช่วง 9 เดือนปี66 มีการร่วมทุนไปเยอะแล้ว ทำให้มีรายได้ค่าบริหารโครงการเหลือเพียง 43.6 ล้านบาท ลดลง -92.6%y-y , -95.9%q-q เป็น 2 ธุรกิจหลักที่ทำให้รายได้รวมลดลงที่ 2,291.48 ล้านบาท ลดลง -41.7%y-y , -52.3%q-q 

     ส่วนของ GPM อสังหาฯกลับมาอยู่ ในระดับปกติที่ 33.7% มี SG&A เพิ่มขึ้นเยอะจากค่าการตลาด-โฆษณา และค่าใช้จ่ายเกี่ยวกับพนักงานตามการขยายตัวของกลุ่มบริษัท ส่งผลให้มีขาดทุนปกติ 101.5 ล้านบาท แต่มีกำไรพิเศษจากการจำหน่ายเงินลงทุนในบริษัทย่อย(JV) และกลับรายการกำไรจากการต่อรองราคาซื้อโรงแรมในช่วงไตรมาส 3/66 สุทธิที่ 148.4 ล้านบาท ยังมีกำไรสุทธิ 46.9 ล้านบาท ลดลง -95.5%y-y , -95.3%q-q ต่ำกว่าคาดไปมากกำไรสุทธิทั้งปี 2,718.2 ล้านบาท ลดลง -28.0%y-y จ่ายปันผลเพิ่มอีก 0.30 บาท XD 8 พ.ค.67 จ่าย 23 พ.ค. 67

     ปี 67 คาดเปิดตัว 34 โครงการรวม 3.7 หมื่นล้านบาท ลดลงกว่าปีก่อนไปตามสภาพเศรษฐกิจที่ยังไม่ฟื้นตัว แบ่งเป็นแนวสูง 14 โครงการ มูลค่า 2 หมื่นล้านบาท แนวราบ 20 โครงการ มูลค่า 1.7 หมื่นล้านบาท แนะนำควรรอให้เห็นภาพเศรษฐกิจที่ฟื้นตัวก่อนลงทุน ซึ่งยังคาดหวังมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจในปีนี้ ระวังราคาหุ้นผันผวนจากผลประกอบการที่อ่อนตัว ทางฝ่ายอาจมีการปรับราคาพื้นฐานหลังประชุมนักวิเคราะห์ ราคาพื้นฐาน 9.85 บาท คงคำแนะนำซื้อ
 

ปีนี้เปิด 35 โครงการใหม่

     นายพีระพงศ์ จรูญเอก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ออริจิ้น พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ ORI แจ้งตลาดหลักทรัพย์ฯว่า ในปี 2567 กลุ่มบริษัทเตรียมเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 35 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 37,000 ล้านบาท หากแบ่งตามประเภทโครงการ ประกอบด้วย 1.บ้านจัดสรร ภายใต้บริษัท บริทาเนีย จำกัด (มหาชน) หรือ BRI เน้นกลุ่มบ้านเดี่ยว บ้านแฝด 20 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 17,000 ล้านบาท 

     2.คอนโดมิเนียม ภายใต้บริษัท ออริจิ้น เวอร์ติเคิล คอร์ปอเรชั่น จำกัด หรือ ORIGIN VERTICAL จำนวน 15 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 20,000 ล้านบาท โดยแบ่งตามทำเลที่ตั้งโครงการเป็น กรุงเทพฯและปริมณฑล ประมาณ 52% และจังหวัดท่องเที่ยว จังหวัดเศรษฐกิจสำคัญ และจังหวัดอุตสาหกรรมสำคัญ อาทิ ชลบุรี พัทยา ภูเก็ต ขอนแก่น ประมาณ 48%

     สำหรับโครงการคอนโดมิเนียมในแถบกรุงเทพฯ-ปริมณฑล จะยังคงเดินหน้าขยายอาณาจักร Origin Pet Family อย่างต่อเนื่อง ตอบรับการเติบโตของกลุ่มคนโสดที่มีรายได้ แต่ไม่มีลูก (Single Income No Kids หรือ SINKs) และกลุ่มคู่รักที่มีรายได้ทั้งคู่แต่ไม่มีลูก (Double Income No Kids หรือ DINKs) ที่หันมาเลี้ยงสัตว์เสมือนลูกมากขึ้น และตอกย้ำฐานะผู้นำโครงการคอนโดมิเนียมเลี้ยงสัตว์ได้สะสมมากที่สุดในตลาด

     โดยในช่วงครึ่งแรกของปี 67 นี้ บริษัทจะนำร่องเปิดตัวโครงการใหม่ทั้งสิ้น 10 โครงการ มูลค่าโครงการรวม 14,730 ล้านบาท เน้นแบรนด์คอนโดมิเนียมระดับไฮเอนด์ขึ้นไปอย่าง โซ ออริจิ้น (So Origin) ออริจิ้น เพลส (Origin Place) และแบรนด์บ้านจัดสรรระดับไฮเอนด์และลักชัวรี่ขึ้นไปอย่าง แกรนด์ บริทาเนีย (Grand Britania) และ เบลกราเวีย (Belgravia) 

 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.