DELTA ร่วงหน้าทิ่ม! เคาะกรอบหุ้นไทยพรุ่งนี้ 1375-1400 จุด

     ดัชนีตลาดหุ้นไทย ปิดการซื้อขายวันนี้(28 ก.พ.2567) อยู่ที่ 1,382.05 จุด ลดลง 11.65 จุด คิดเป็น -0.84% มูลค่าการซื้อขาย 55,291.63 ล้านบาท ระหว่างวันดัชนีปรับขึ้นสูงสุด 1,390.26 จุด และลดลงต่ำสุด 1,380.88 จุด

10 หุ้นซื้อขายสูงสุด ดังนี้

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ทิสโก้ ระบุว่า ดัชนีหุ้นไทยวันนี้ปรับตัวลงตามการรายงานผลประกอบการ รวมทั้งมีแรงขายทำกำไรในหุ้นที่ราคาขึ้นไปก่อนหน้า โดยหุ้นกลุ่ม ETRON ปรับลงมากสุด หลังงบ HANA ต่ำกว่าที่ตลาดคาด 

     ขณะที่นักลงทุนต่างชาติพลิกกลับมาซื้อสุทธิ 742.96 ล้านบาท รวมพลังบัญชีบริษัทหลักทรัพย์ ซื้อสุทธิ 749.96 ล้านบาท สวนทางแรงขายจากกองทุนในประเทศ 1,093.85 ล้านบาท และรายย่อยขายใส่อีก 399.06 ล้านบาท

ติดตาม GDP สหรัฐฯคืนนี้

     ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า คืนนี้เวลา 20.30 น. รอดู GDP ไตรมาส 4/66 ของสหรัฐฯ (ประมาณการครั้งที่ 2) Bloomberg Consensus คาดไว้ที่ 3.3%QoQ ชะลอตัวจาก 3Q66 ที่ 4.9%QoQ และ 29 ก.พ. ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) เดือน ม.ค. คาดการณ์ที่ 0.3%MoM สูงกว่า ธ.ค.66 ที่ 0.2%MoM หากตัวเลขดังกล่าวออกมา In-line อาจมีสัญญาณย่นเวลาการปรับลดดอกเบี้ยของ FED จากช่วงครึ่งหลังของปีนี้ หุ้นไทยแกว่งกรอบ แนวรับ 1380 จุด แนวต้าน 1390-1392 จุด 

     CPI เดือน ก.พ. ของไทย Bloomberg Consensus คาดติดลบเป็นเดือนที่ห้า -0.8%YoY ชะลอตัวจากเดือน ม.ค. -1.11%YoY (คาดมีการรายงานช่วง 1 –11 มี.ค. 67)สร้างกระแสเรียกร้องให้ ธปท. ปรับลดดอกเบี้ยในรอบการประชุม 10 เม.ย. นี้มากขึ้น สะท้อนที่ Bond Yield1 เดือน – 7 ปี ณ ปัจจุบันอยู่ต่ำกว่าอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 2.5% กระแสดังกล่าวเป็นบวกต่อกลุ่ม Financeเช่น TIDLOR MTC SAWAD KTC AEONTS

     เร่งเบิกจ่ายงบประมาณเร็วขึ้น 2 สัปดาห์ งบประมาณปี 67 อาจจะสามารถเบิกจ่ายได้ก่อนสงกรานต์จะช่วยกระตุ้นการบริโภคภายในประเทศและการจับจ่ายใช้สอยของภาครัฐ หนุน GDP ไตรมาส 2/67 ฟื้นตัว และตามที่สภาพัฒน์คาด GDP Growth ปีนี้อยู่ในช่วง 2.2-3.2% คาดการบริโภคภาครัฐฯ จะฟื้นตัวโดดเด่น +1.5%YoY เทียบปี 66 ลดลง -4.6% YoY เป็นบวกต่อกลุ่มอุปโภค-บริโภค CPALL CRC BJC DOHOME JMART MTC TIDLOR KTC รับเหมาก่อสร้าง-วัสดุก่อสร้าง STEC CK TTCL TASCO SCC SCCC

False Breakout กลับเข้ากรอบ อาจทดสอบแนวรับใหญ่

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.ฟิลลิป (ประเทศไทย) ระบุว่า มุมมองทางเทคนิค SET Index ภาพรายชั่วโมง ดัชนีเกิดสัญญาณของ False Breakout แล้วหลุดแนวรับลงมาต่อเนื่อง ไม่สามารถยืนเส้น EMA89 ไว้ได้ ประกอบกับ EMA20 ตัดลงต่ากว่า EMA50 สอดรับกับ MACD อยู่ในแดนลบ หากดัชนียืนแนวรับ 1375 จุดได้ อาจจะชะลอกำลังทางลง Sideways

     กลยุทธ์การลงทุน ทางฝ่ายแนะนำเก็งกำไรระยะสั้นในหุ้นที่แข็งแกร่งกว่าตลาด ตัดขาดทุน หากดัชนีลงมาต่ำกว่า 1375 จุด แนวต้าน 1395 / 1400 จุด

     หุ้น KKP มุมมองทางเทคนิค ภาพรายวัน ราคาเคลื่อนไหวในเชิง Sideways Down สร้าง Channel ทางลงมาเป็นระยะเวลานาน แต่ล่าสุดราคาได้ Breakout Channel ขึ้นมา พร้อมกับราคาปิดเหนือ EMA89 แท่งแรก ที่หากไม่หลุดกลับไปในกรอบเดิม น่าจะขึ้นไปต่อเท่ากับความสูงของ Channel ที่ 54.00 บาท

     ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Buy on Breakout ที่ 50.00 บาท แนวต้าน 52.50 / 54.00 บาท STOP LOSS หากต่ำกว่า 49.00 บาท

     หุ้น GLOBAL มุมมองทางเทคนิค ภาพรายวัน ราคาเคลื่อนไหวออกข้างในกรอบ Sideways ใหญ่ โดยที่ฐานกรอบล่างเกิด Bullish Divergence ชุดใหญ่ถึง 2 ครงั้ ติดต่อกัน ก่อนที่ MACD จะตัดขึ้นเหนือ Zero Line ดันราคาผ่านกรอบบนที่บริเวณ 16.30 บาทขึ้นมาได้ หากยืนได้ น่าจะปรับตัวขึ้นต่อไปที่แนวต้าน 17.00 บาท

     ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Buy on Breakout ที่ 16.30 บาท แนวต้าน 17.00 / 17.30 บาท STOP LOSS หากต่ำกว่า 16.00 บาท

     หุ้น SPRC มุมมองทางเทคนิค ภาพรายวัน EMA20 ตัดขึ้นเหนือเส้น EMA50 และราคายืนเหนือ EMA89 อยู่ได้เส้นทั้งสามถ่างออกจากกันมากข้ึน มีโอกาสที่ราคาจะกลับมาเป็นรอบแนวโน้มขาขึ้น สอดรับกับ MACD ที่ตัดขึ้นเหนือเส้น Signal คาดว่าราคาจะไปทดสอบโซนแนวต้านที่ 9.60 บาท

     ดังนั้นกลยุทธ์การลงทุน แนะนำ Buy on Dip ที่ 9.00 บาท แนวต้าน 9.60 / 10.00 บาท STOP LOSS หากต่ำกว่า 8.70 บาท