'ปานปรีย์'บุกอินเดียชวนลงทุนแลนด์บริดจ์-ขอฟรีวีซ่าคนไทย
นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ในโอกาสเยือนอินเดียระหว่างวันที่ 25-28 กุมภาพันธ์ 2567 โดยกล่าวถึงโอกาสของไทยในการเจาะตลาดอินเดีย และผลการประชุมคณะกรรมาธิการร่วมไทย-อินเดีย (JC) ครั้งที่ 10 ที่กรุงนิวเดลี ประเทศอินเดีย
- ไทยกล่อมอินเดียลงทุนแลนด์บริดจ์
นายปานปรีย์ กล่าวว่า สำหรับโครงการแลนด์บริดจ์ที่รัฐบาลไทยพยายามผลักดันนั้นนั้น หลังจากมีการพูดคุย ทางอินเดียมีความสนใจ แต่ขอศึกษารายละเอียดก่อน ซึ่งฝ่ายไทยเสนอว่าแลนด์บริดจ์เป็นโครงการสำคัญของไทยที่กำลังจะผลักดัน โดยเป็นโครงการที่สามารถเชื่อมโยงกับอินเดียทางทะเลและส่งเสริมความร่วมมือ 7 ประเทศในกรอบความริเริ่มแห่งอ่าวเบงกอล (BIMSTEC) ให้มีประสิทธิภาพมากขึ้น ซึ่งหากอินเดียให้ความสนใจอย่างจริงจัง ไทยก็จะส่งผลการศึกษาไปให้อินเดียพิจารณา
ขณะที่โครงการเชื่อมถนนไฮเวย์สามฝ่าย (Trilateral Highway) นั้น ก็เป็นเรื่องสำคัญที่มีการหยิบยกมาพูดคุยในที่ประชุมคณะกรรมาธิการร่วมครั้งนี้ด้วย ซึ่งอินเดียแจ้งว่าได้ดำเนินการเรื่องโครงสร้างพื้นฐานไปมากแล้ว ทั้งถนนหนทางต่างๆ ขณะที่ไทยก็แจ้งไปว่าได้ดำเนินการในฝั่งไทยเรียบร้อยแล้วเช่นกัน แต่ปัจจุบันยังติดปัญหาเรื่องสถานการณ์ความไม่สงบในเมียนมา ซึ่งส่งผลให้โครงการนี้ยังไม่เสร็จสมบูรณ์
อนึ่งการพูดคุยระหว่างรองนายกฯ กับรัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียรอบนี้ ฝ่ายอินเดียมีการตอบรับเรื่องการแลกเปลี่ยนระหว่างผู้นำระดับสูงด้วย ซึ่งฝ่ายไทยมีความพร้อมที่จะไปเยือนอย่างเป็นทางการ ขณะเดียวกันยังได้เชิญนายกรัฐมนตรีอินเดียไปเยือนไทยแล้ว อย่างไรก็ตาม เนื่องจากอินเดียกำลังเข้าสู่การเลือกตั้งในเดือนพฤษภาคม ดังนั้นจึงต้องรอให้ผ่านพ้นช่วงเวลาดังกล่าวไปก่อน จึงจะมีโอกาสเกิดขึ้น
- เร่งเจรจาขอฟรีวีซ่าคนไทยไปอินเดีย
นายปานปรีย์ กล่าวว่า อีกประเด็นสำคัญที่คนไทยให้ความสนใจคือการเจรจาเรื่องฟรีวีซ่าสำหรับคนไทยที่เดินทางไปอินเดีย โดยเรื่องนี้ถือเป็นประเด็นที่มีความสำคัญ เพราะเป็นเรื่องของการส่งเสริมความสัมพันธ์ระหว่างประชาชนไทยและอินเดียให้มีความใกล้ชิดยิ่งขึ้น ซึ่งจากที่ไทยได้ประกาศให้ฟรีวีซ่าแก่คนอินเดียไปก่อนหน้านี้แล้ว ก็ถือว่าประสบความสำเร็จอย่างมากในการกระตุ้นการท่องเที่ยว โดยคาดว่าตัวเลขนักท่องเที่ยวมีแนวโน้มจะเพิ่มขึ้นอีก จากปีที่แล้วที่มีมากถึง 1.6 ล้านคน
ทั้งนี้ได้หารือเรื่องวีซ่ากับรัฐมนตรีต่างประเทศอินเดียว่ามีความเป็นไปได้ที่อินเดียจะเปิดฟรีวีซ่าให้แก่ไทยหรือไม่ ซึ่งอินเดียระบุว่าจะรับไว้พิจารณา อย่างไรก็ตามที่ผ่านมาอินเดียไม่เคยให้ฟรีวีซ่ากับประเทศใดเลย แต่สำหรับไทยนั้นปัจจุบันมีการให้ E-Visa อยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม E-Visa ยังมีขั้นตอนเยอะพอสมควร ซึ่งถ้าสามารถลดขั้นตอนนี้ได้ ก็จะเป็นเรื่องที่ดีมาก และได้มอบหมายให้ นางสาว ภัทรัตน์ หงษ์ทอง เอกอัครราชทูต ณ กรุงนิวเดลี ติดตามเรื่องนี้ต่อไป
- ขยาย FTA ไทย-อินเดีย หวังเพิ่มการค้าการลงทุนทั้งสองประเทศ
นายปานปรีย์ กล่าวว่า อินเดียมีความเจริญเติบโตทางเศรษฐกิจที่สูงที่สุดในโลก ดังนั้นจึงเป็นตลาดที่ทุกประเทศให้ความสนใจ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของเศรษฐกิจ สังคม การเมือง และความมั่นคง
"การประชุมคณะกรรมาธิการร่วมฯ มีการพูดคุยกันหลายเรื่อง โดยเฉพาะประเด็นเศรษฐกิจ ซึ่งมีการหารือถึงอุปสรรคทางการค้าที่เกิดขึ้นระหว่างสองประเทศ โดยสองฝ่ายมีเป้าหมายส่งเสริมการค้าและการลงทุนให้ได้มูลค่าถึง 3.5 หมื่นล้านดอลลาร์ภายในปี 2570 ส่วนในปีที่ผ่านมา ไทยและอินเดียมีมูลค่าการค้าสูงถึง 1.7 หมื่นล้านดอลลาร์"
นายปานปรีย์ กล่าวเพิ่มเติมว่า การค้าระหว่างไทย -อินเดียยังมีอุปสรรคอยู่ ซึ่งก็จะหารือแก้ไขต่อไป เพื่อให้สินค้าอินเดียเข้าสู่ตลาดไทยมากขึ้น ขณะเดียวกันสินค้าไทยก็จะสามารถเข้าสู่ตลาดอินเดียได้มากขึ้นเช่นกัน โดยการจะบรรลุเป้าหมายมูลค่าการค้าดังกล่าวได้นั้น การเจรจาการค้าเสรี (FTA) ก็เป็นเรื่องสำคัญ โดย 20 ปีที่ผ่านมา มีสินค้าเพียง 82 รายการเท่านั้น ที่อยู่ในกรอบ FTA ไทย-อินเดีย ซึ่งถือว่าน้อยมาก
ดังนั้นครั้งนี้จึงมีการหารือกับ ดร.สุพรหมณยัม ชัยศังกระ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศอินเดียว่าจะปรับปรุงแก้ไขได้อย่างไร ซึ่งถ้าสามารถขยาย FTA ระหว่างกันเพิ่มขึ้นได้ ปริมาณการค้าและการลงทุนก็จะเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย
นอกจากนี้รัฐบาลไทยก็ยังสนใจที่จะลงทุนในอินเดีย เช่น อุตสาหกรรมยานยนต์ และเทคโนโลยี แต่ที่สำคัญคืออุตสาหกรรมพลังงาน ซึ่งที่ผ่านมามีการลงทุนมากที่สุด โดยเฉพาะพลังงานแสงอาทิตย์ นอกจากนี้ยังมีการลงทุนในไฮโดรเจนสีเขียวด้วย
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.