4 พันธมิตร ผนึกกำลังดันธุรกิจไทยระดมทุนตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน

นาย ณ ชนก รัตนทารส ประธานกรรมการบริหาร บริษัท เรเนซองส์ อินเตอร์เนชั่นแนล พาร์ทเนอร์ จำกัด (Renaissance International Partners Plc.)  เปิดเผยว่า บริษัท ในฐานะกองทุนร่วมลงทุนและส่วนทุน (Private Equity) ที่ร่วมกระจายหุ้นหลักทรัพย์ในนานาชาติ ร่วมกับ ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange Group, LSEG) ภายใต้การสนับสนุนจาก สถานทูตอังกฤษ ประจำประเทศไทย ส่วนงานการค้า, บริษัท วินตัน แอสโซซิเอส (อังกฤษ) จำกัด (Winton Associates Ltd. UK) ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาร่วม (Co Advisor) ที่ร่วมดำเนินการกับ WH Ireland Plc. บริษัทเอกชนกำกับหลักทรัพย์ (กลต.) ที่ได้รับอนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (Private Regulator/NOMAD/SPONSOR) ในตลาดเติบโต (Growth Market) อันดับหนึ่งของตลาดอังกฤษ ได้ร่วมกันผลักดันให้บริษัทขนาดกลางและบริษัทขนาดใหญ่ของไทย เข้าระดมทุนในตลาดการลงทุนทางเลือก (Alternative Investment Market : AIM) ของตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange : LSE) 

ทั้งนี้ LSE เป็นตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (International Stock Exchange) ที่เก่าแก่และมีขนาดใหญ่ (Market Capitalization) เกินกว่า 3.16 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ ณ สิ้นปี 2566 อยู่ในอันดับ TOP 10 ของตลาดหลักทรัพย์ชั้นหนึ่งในระดับ World Class   

สำหรับภาพรวมการแข่งขันของภาคธุรกิจทั้งในและต่างประเทศมีแนวโน้มทวีความดุเดือดมากขึ้น ซึ่งการเข้าถึงแหล่งเงินทุนถือเป็นหัวใจสำคัญที่จะช่วยเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน ต่อยอดโอกาสการเติบโตแบบก้าวกระโดดและแข็งแกร่งในระยะยาวให้กับภาคธุรกิจ 

โดยปัจจุบันภาคธุรกิจสามารถดำเนินการระดมทุนได้หลากหลายรูปแบบ รวมถึงการระดมทุนผ่านตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ เช่น ตลาดหลักทรัพย์ลอนดอน (London Stock Exchange : LSE) ซึ่งมีขั้นตอนไม่ยุ่งยาก สะดวก รวดเร็ว เพียงแค่ยื่นขออนุมัติจากบริษัทเอกชนกำกับหลักทรัพย์ (กลต.) ที่ได้รับอนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ (Private Regulator) ก่อนจะทำ Due-diligence หรือการตรวจสอบสถานะ และยื่นคำขอเพื่อเสนอขายหุ้นแก่ประชาชนทั่วไป (Filing) เบื้องต้นใช้ระยะเวลาดำเนินการเพียง 4-6 เดือน ก็สามารถเข้าระดมทุนได้ทันที

นายวรวุฒิ คงศิลป์ หัวหน้าเจ้าหน้าที่ผู้บริหารร่วมอาวุโส บริษัท วินตัน แอสโซซิเอส (อังกฤษ) จำกัด (Winton Associates Ltd. UK) ในฐานะบริษัทที่ปรึกษาร่วม (Co Advisor) กล่าวว่า การเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ นั้น นับเป็นอีกขั้นของโอกาสที่จะช่วยให้ภาคธุรกิจสามารถขยายการเติบโตได้อย่างก้าวกระโดด ไปพร้อมๆ กับความน่าเชื่อถือที่เพิ่มมากขึ้น 

ปัจจุบันการระดมทุนระหว่างประเทศ ผ่านตลาดหลักทรัพย์นานาชาติชั้นนำของประเทศพัฒนาแล้วของโลก อาทิ สหรัฐอเมริกา, อังกฤษ, สิงคโปร์, ฮ่องกง, และออสเตรเลีย ได้รับความนิยมจากภาคธุรกิจขนาดกลางและขนาดใหญ่เพิ่มสูงขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ เนื่องจากขั้นตอนการเข้าระดมทุนมีความสะดวก รวดเร็ว ดำเนินการแล้วเสร็จพร้อมเข้าระดมทุนได้ภายในระยะเวลาค่อนข้างสั้นเฉลี่ย 4-6 เดือนเท่านั้น ภายใต้โครงสร้างการระดมทุนแบบบริษัทโฮลดิ้ง (Holding Company) คือ บริษัทที่ไม่ได้มีการดำเนินธุรกิจ แต่นำเงินไปลงทุนถือหุ้นในบริษัทอื่น เพื่อรอรับเงินปันผลจากกิจการนั้นๆ

โดยใช้วิธีการเปิดเผยข้อมูลสาธารณะ (Disclosure-based) ซึ่งจะดำเนินการผ่าน บริษัท กลต.เอกชน ที่ได้รับอนุญาตจากตลาดหลักทรัพย์ หรือ (Private Regulator and Nominated Advisor or NOMAD) และได้รับการแต่งตั้งจากตลาดหลักทรัพย์ (Sponsor or Nominated Advisor) เพียงที่เดียว ร่วมกับบริษัทที่ปรึกษาร่วม (Co Advisor) ในประเทศที่ประกอบธุรกิจ เพื่อตรวจสอบและจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ฯ 

หากผ่านการตรวจสอบเรียบร้อยทุกขั้นตอน ภายใต้ระบบเปิดเผยสาธารณะ (Disclosure Base) ในประเทศที่พัฒนาแล้ว (Developed Country) ภายใต้สภาพแวดล้อมของนักลงทุนที่เป็นสถาบันการเงินและกองทุนขนาดใหญ่นานาชาติ (Accredited Investors) เป็นส่วนใหญ่ ภาคธุรกิจสามารถเข้าระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์ฯ ได้ทันที 

ซึ่งแตกต่างจากการระดมทุนภายในประเทศที่กำลังพัฒนา (Developing Country) ที่มีกฎเกณฑ์ค่อนข้างรัดกุม และเข้มงวด ตามแนวทางการกำกับดูแลโดยใช้วิธีการพิจารณาอนุญาติตามความเหมาะสม (Merit-based) ด้วยการยื่นตรวจสอบสถานะ หรือ Due-diligence ก่อนยื่น Filing และยื่นขออนุมัติจากคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ (ก.ล.ต.) ที่เป็นหน่วยงานราชการ (Public Regulator) ภายใต้สภาพแวดล้อมของนักลงทุนที่เป็นรายย่อยเป็นส่วนใหญ่ ซึ่งต้องใช้ระยะเวลาค่อนข้างนาน

“การระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างการเติบโตให้กับภาคธุรกิจ โดยไม่จำเป็นต้องมีธุรกิจประกอบการ (Operation) ในต่างประเทศ ซึ่งเป็นการเข้าหาแหล่งเงินทุนในส่วนทุน ที่เริ่มต้นจากการ Initial Public Offering (IPO) โดยไม่เป็นส่วนหนี้ ซึ่งเชื่อว่าการระดมทุนในตลาดหลักทรัพย์นานาชาติ จะเป็นส่วนเสริมผลักดันให้ภาคธุรกิจไทยเติบโตได้อย่างรวดเร็ว โดยเฉพาะโครงสร้างพื้นฐานของภาคธุรกิจในส่วนทุนจะมีความมั่นคงแข็งแรง มีสภาพคล่องที่ดี ซึ่งจะเป็นส่วนสำคัญของการเติบโตของภาคธุรกิจในระยะยาว” นายวรวุฒิ กล่าว

ด้าน Mr. Chris Fielding กรรมการผู้จัดการ WH Ireland Plc. (Private Regulator/NOMAD) กล่าวเพิ่มเติมว่า ขณะนี้มีภาคธุรกิจไทย ทั้งบริษัทขนาดกลาง และขนาดใหญ่สนใจ และเตรียมความพร้อมเข้าจดทะเบียนในตลาด LSE เป็นจำนวนมาก หลังจากที่ได้ผลักดันให้เข้าไปอยู่ระหว่างระดมทุนขั้นตอนสุดท้ายแล้วจำนวน 2 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักของประเทศ 

ทั้งนี้ ตลาด AIM เปิดกว้างสำหรับบริษัทที่มีศักยภาพในการเข้าระดมทุน โดยปัจจุบันมีบริษัทในตลาดนี้จำนวน 780 บริษัท ซึ่งกว่า 300 บริษัทเป็นบริษัทในเอเชีย มูลค่ารวมกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ 

“บริษัทที่จะเข้าระดมทุนในตลาด AIM ควรมีมาร์เก็ตแคป 500-1,000 ล้านบาท แต่มาร์เก็ตแคปที่เหมาะสม คือ 1,000-2,000 ล้านบาท เป็นบริษัทที่มีความโดดเด่นในธุรกิจที่ดำเนินการอยู่ และควรมีหุ้นสำหรับรายย่อยประมาณ 20%” Mr. Chris Fielding กล่าว 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.