ทรู คอร์ปอเรชั่น ชู 5 จุดเด่นหลังควบรวม มุ่งสู่เครือข่ายดีที่สุดในประเทศ
ในปีที่ผ่านมา เราได้เห็นการเปลี่ยนแปลงสำคัญที่เครือข่าย 5G ได้กลายเป็นปัจจัยหลักของการใช้ชีวิตประจำวันของผู้คน โดยทรูและดีแทคได้ปลดล็อกให้ลูกค้าทุกแพ็กเกจของทั้งแบรนด์ทรู และดีแทคที่ใช้งานดาต้า สามารถใช้งาน 5G ได้ หากอุปกรณ์รองรับ นี่คือจุดเปลี่ยนผ่านการยกระดับประสบการณ์ใช้งานโทรศัพท์มือถือของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้นด้วย 5G อีกทั้งยังสามารถนำไปสู่การบูรณาการดิจิทัลในการใช้ชีวิตด้านอื่นๆ อย่างไร้รอยต่อด้วย
ยิ่งไปกว่านั้น ด้วยความครอบคลุมของ 5G ถึง 90% ภายในไตรมาสที่ 2 ปี 2566 ทำให้ทรู คอร์ปอเรชั่นเป็นผู้นำเครือข่าย 5G ที่มีสัญญาณครอบคลุมมากที่สุดในประเทศ โดยไตรมาสที่ 3/ 2566 มีจำนวนผู้ใช้งาน 5G มากที่สุดถึง 9.4 ล้านคน สะท้อนให้เห็นว่า เครือข่าย 5G ของทรูเป็นเครือข่ายที่ได้รับการชื่นชอบมากที่สุดในไทย ซึ่งความตั้งใจที่จะเพิ่มประสบการณ์ของลูกค้าในการเชื่อมต่ออินเทอร์เน็ตความเร็วสูง ทั้ง 5G 4G และอินเทอร์เน็ตบ้านในการบริการ 5G และการครอบคลุมการใช้งานได้ถูกเร่งขยายเพื่อให้ทุกคนสามารถเข้าถึงได้
การเปลี่ยนแปลงนี้ไม่เพียงแต่ส่งผลต่อวิถีชีวิต แต่ยังเป็นตัวขับเคลื่อนการพัฒนาในด้านอื่นๆ ไม่ว่าจะเป็นธุรกิจ การศึกษา หรือแม้กระทั่งการแพทย์ การเข้าถึงเทคโนโลยีที่ก้าวหน้านี้ได้อย่างทั่วถึง ทำให้ประเทศไทยก้าวไปอีกขั้นในการเป็นสังคมที่เชื่อมต่อและมีประสิทธิภาพมากขึ้น
นายประเทศ ตันกุรานันท์ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านเทคโนโลยี บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การเปลี่ยนแปลงที่ยิ่งใหญ่ของการสื่อสาร ต้องไม่ใช่แค่การเปลี่ยนแปลงในด้านเทคโนโลยีเท่านั้น แต่ต้องเป็นการเปลี่ยนแปลงในทุกด้านที่จะเพิ่มคุณภาพชีวิตของลูกค้าทรูและดีแทค และเพิ่มโอกาสดิจิทัลให้กับทุกความเป็นไปได้เพื่อทุกคน และทุกคนสามารถเข้าถึงเครือข่ายที่รวดเร็วและมีคุณภาพสูง ทำให้เปิดโอกาสสู่การเรียนรู้ การสร้างสรรค์ และการเติบโตสำหรับทุกคน ไม่ว่าจะอยู่ที่ไหนในประเทศไทย
การพัฒนาคุณภาพของสัญญาณมือถือ เป็นภารกิจสำคัญที่ทั้งทรูและดีแทคต่างให้ความสำคัญมาโดยตลอด และภายหลังการควบรวมกันยิ่งทำให้ศักยภาพเครือข่ายของทรูมีความโดดเด่น ย้ำความเป็นเครือข่ายที่ดีที่สุดในประเทศไทย
สำหรับ 5 จุดเด่นของทรู คอร์ปอเรชั่น ที่ทำให้ทรูเป็นเครือข่ายที่ดีที่สุดในประเทศไทย ประกอบด้วย
1. เสาสัญญาณที่เพิ่มมากขึ้น : ภายหลังการรวมกัน มีการใช้เทคโนโลยีล้ำสมัยในการจัดการโครงข่าย ผสานจุดแข็งเสาสัญญาณของทรูและดีแทคทำให้มีเสาสัญญาณเพิ่มมากขึ้น เพิ่มประสิทธิภาพการทำงานของโครงข่ายในทุกคลื่นสัญญาณ ครอบคลุมขึ้น และดีขึ้นสำหรับลูกค้าของเรา อีกทั้งภายหลังการรวมกันทำให้เลือกพื้นที่ในการวางเสาที่สามารถกระจายสัญญาณได้ดีที่สุดอีกด้วย
เทคโนโลยีล้ำสมัยที่ทรูใช้ในการจัดการโครงข่ายหลังควบรวม มีคุณลักษณะเด่น 3 อย่าง ได้แก่ ทันสมัยขึ้น/ มีประสิทธิภาพขึ้น/ และเป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมขึ้นช่วยลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนประมาณ 15-20% และการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน จากโซลูชันปัญญาประดิษฐ์ (AI) และ Machine Learning (ML) เพื่อวิเคราะห์การใช้พลังงาน และติดตามเพิ่มประสิทธิภาพสูงสุด
2. คลื่นความถี่ที่เพิ่มมากขึ้น และเป็นผู้ให้บริการที่มีคลื่นครบทุกย่านความถี่มากที่สุด
3. วิศวกรผู้เชี่ยวชาญที่เพิ่มมากขึ้นจากทรูและดีแทค ทั้งไทย ยุโรป และเอเชีย : ภายหลังการรวมกัน ทีมเน็ตเวิร์ค ของทรูและดีแทคเป็นระดับโลก เนื่องจากมีผู้เชี่ยวชาญจากหลายประเทศ ทั้งทีมวิศวกรชาวไทยที่มากประสบการณ์ไม่เป็นรองใคร ทำงานร่วมกับทีมงานจากยุโรป เอเซีย จีน นับได้ว่าเป็นการผนึกกำลังผู้เชี่ยวชาญ รวมทั้งมีการนำนวัตกรรมเทคโนโลยีด้านเน็ตเวิร์ค เพื่อร่วมกันยกระดับโครงข่ายของทรู ให้เป็นเครือข่ายที่ดีที่สุด
4. ความครอบคลุมของสัญญาณที่เพิ่มมากขึ้น : เมื่อมีเสาสัญญาณมากขึ้น ทำให้ความครอบคลุม เพิ่มมากขึ้น สัญญาณไปยังพื้นที่ห่างไกลได้ทั่วถึงมากยิ่งขึ้นกว่าเดิม
ปัจจุบันโครงข่าย 5G ของทรู-ดีแทคครอบคลุม 90% และตั้งเป้าขยายให้ครอบคลุมประชากรถึง 97% ภายในปี 2568 ขณะที่โครงข่าย 4G ของทรู-ดีแทค ครอบคลุมประชากร 99% ซึ่งปัจจุบันหลังควบรวม ทุกแพ็กเกจสามารถใช้งาน 5G ได้ หากสมาร์ทโฟนและอุปกรณ์ที่ใช้งานรองรับ โดยไม่ต้องเปลี่ยนแพ็กเกจ ส่งผลให้ผู้ใช้บริการแพ็กเกจราคาประหยัดก็สามารถเข้าถึงบริการ 5G ได้ โดยไม่ต้องเปลี่ยนมาใช้แพ็กเกจใหม่ เรียกได้ว่าเป็น 5G เพื่อทุกคน
5.มากกว่าอัจฉริยะ : ศูนย์ปฏิบัติการเครือข่ายอัจฉริยะ หรือ Business and Network Intelligence Center (BNIC) : ทรู คอร์ปอเรชั่นลงทุนสู่ศูนย์ปฏิบัติการล้ำสมัยเพื่อให้ความสำคัญกับการดูแลสัญญาณเครือข่ายให้ดีที่สุด ได้ลงทุนนำ AI เข้ามาดูแลวิเคราะห์ข้อมูลการใช้งานสัญญาณทั่วไทยแบบ 24 ชั่วโมง ร่วมกับทีมวิศวกรโครงข่ายเพื่อวางแผนเพิ่มประสิทธิภาพการใช้งานของลูกค้าให้ดีที่สุดตลอดเวลา
นอกจากนี้ ยังมีองค์กรระดับโลกการันตี ว่า ทรู เป็นเครือข่ายที่ดีที่สุดในไทย ซึ่งในเดือนพฤษภาคม ที่ผ่านมา ทรูได้รับรางวัลจาก nPerf ซึ่งเป็นสถาบันทดสอบคุณภาพอินเทอร์เน็ตยักษ์ใหญ่จากฝรั่งเศสในฐานะผู้ให้บริการ “เครือข่ายที่ดีที่สุดในไทย”ต่อเนื่องเป็นปีที่ 7 ติดต่อกัน โดยปีล่าสุดทำคะแนนได้ดีที่สุดในทุกด้าน ซึ่งเป็นผลการสำรวจจากผู้ใช้งานแอป nPerf ทั้งหมด จำนวน 1,800,000 ครั้ง พบว่า ทรูมูฟ เอช ได้คะแนนรวมสูงสุดใน 6 หมวดของการทดสอบ ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จในการเชื่อมต่อ ความเร็วในการดาวน์โหลดและอัปโหลด ความหน่วงต่ำ คุณภาพการเปิดเว็บ และคุณภาพการสตรีมมิ่ง
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.