จังหวะย่อสะสม 12 หุ้นปันผลสูง - 7 หุ้นกำไร Q4 แกร่ง

12 หุ้นปันผลสูงกว่า 4%

     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.บัวหลวง ระบุว่า ตั้งแต่ปัจจุบันจนถึงสิ้นเดือน ก.พ. 2567 บริษัทต่างๆจะรายงานผลประกอบการไตรมาส 4/66 โดยหลายบริษัทจะประกาศการจ่ายเงินปันผลครั้งต่อไปด้วย จากการรวบรวมรายชื่อบริษัทที่น่าจะให้ผลตอบแทนสูงสุด พบว่ามี 12 หุ้นที่ให้ผลตอบแทนจากเงินปันผลที่เหลือมากกว่า 4% 

     โดย 12 หุ้นที่ฝ่ายวิเคราะห์ให้คำแนะนำจะจ่ายเงินปันผลที่เหลือด้วยอัตราผลตอบแทนอย่างน้อย 4% และอีก 6 หุ้นที่น่าจะให้ผลตอบแทนอย่างน้อย 5% ได้แก่ กลุ่มยานยนต์ (หุ้น 1 ตัวที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลคงเหลือเกิน 6%)

     กลุ่มพลังงาน (หุ้น 2 ตัวที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงิน ปันผลคงเหลือเกิน 5%) 

     และ หุ้นธนาคารขนาดเล็กที่มีอัตราผลตอบแทนจากเงินปันผลคงเหลือเกิน 5% เป็นหุ้นปันผลที่น่าสนใจที่สุด นอกจากนี้ มี 2 หุ้นกลุ่มอสังหาริมทรัพย์ที่อยู่ในรายชื่อหุ้นปันผลสูงสุดในปีนี้

     ซึ่งสมมติฐานการจ่ายเงินปันผลในปี 2566 ของฝ่ายวิเคราะห์ที่ 52% กรอบบนของช่วงการจ่ายเงินปกติที่ 47-52% ในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา โดยมีปัจจัยคือหลายกลุ่มมีผลประกอบการดีขึ้นตามการฟื้นตัวของเศรษฐกิจหลังโควิด เมื่อพิจารณาถึงปี 2567 อัตราการจ่ายเงินเฉลี่ยน่าจะอยู่ที่ 48% อัตราผลตอบแทนพันธบัตรไทย (ปัจจุบันพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปีอยู่ที่ 2.6% และอายุ 3 ปีอยู่ที่ 2.3%) น่าจะเคลื่อนตัวในกรอบแคบๆ (คาด 2-2.5% สำหรับพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 10 ปี) เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อไทยที่ต่าและความสัมพันธ์ระหว่างดอกเบี้ยของไทยกับดอกเบี้ยสหรัฐฯที่คาดการณ์ไว้ ซึ่งจะเป็นขาลงในช่วงปลายปีนี้ 

บอนด์ยีลด์อ่อนแอ-หุ้นปันผลดูดี 

     อัตราเงินเฟ้อสหรัฐฯ ยังคงปรับตัวลงอย่างต่อเนื่อง ขณะที่อัตราเงินเฟ้อของไทยอยู่ในระดับต่ำมาก ซึ่งบ่งชี้ว่า Fed อาจเริ่มลดอัตราดอกเบี้ยในปีนี้ การปรับเพิ่มอัตราดอกเบี้ยครั้งล่าสุดคือเดือน ก.ค.2566 ฝ่ายฯคาดว่าเงินเฟ้อทั่วไปของไทยจะชะลอตัวลงที่ 1.2% ในปี 2567 จาก 1.3% ในปี 2566 

     ขณะที่เงินเฟ้อทั่วไปของสหรัฐฯคาดว่าจะชะลอตัวลงเป็น 2.3% ในปี 2567 จาก 4.1% ในปี 2566แนวโน้มบอนด์ยีลด์ที่อ่อนแอทำให้หุ้นปันผลค่อนข้างน่าดึงดูดมากขึ้น การฟื้นตัวของเศรษฐกิจมหภาคหลังโควิดที่แข็งแกร่งอาจสร้างกำไรให้หลายกลุ่มอุตสาหกรรม และความสามารถของบางบริษัทในการ
เพิ่มราคาสินค้าและบริการจะทำให้หุ้นบางตัวมีความน่าสนใจมากกว่าหุ้นอื่นๆ จากความสามารถในการสร้างการเติบโตของกำไรที่แข็งแกร่ง 

     อย่างไรก็ดี SETHD (SET High-Dividend Index) มีแนวโน้มที่จะปรับตัวได้ดีกว่า SET ในช่วงการจ่ายเงินปันผล โดย SETHD ให้ผลตอบแทนเฉลี่ย 10 ปีที่เป็นบวก 1.8% ในเดือน ก.พ. (โดยมีโอกาสถึง 80%) และเมื่อเปรียบเทียบกับ SET แล้ว SETHD มักจะมีความน่าสนใจมากกว่าในเดือน ก.พ. โดยมีโอกาสปรับตัวขึ้นดีกว่า SET ถึง 70% จากสถิติที่ผ่านมา

7 หุ้นงบ Q4 โตแกร่งน่าสะสม

     ฝ่ายวิจัย บล. เอเซีย พลัส ระบุว่า สัปดาห์นี้เป็นจุดเริ่มต้นในการรายงานงบ ธนาคารพาณิชย์ งวดไตรมาส 4/66 ฝ่ายวิจัยฯคาดกำไรสุทธิกลุ่มฯ (8 ธนาคาร) ที่ 5.5 หมื่นล้านบาท และสัปดาห์ถัดๆ ไปจะมีการทยอยประกาศงบของกลุ่ม Real Sector ออกมาเรื่อยๆ อาทิ SCGP และ SCGD ประกาศงบวันที่ 23 ม.ค.67 , SCC วันที่ 24 ม.ค.67 และ PTTEP วันที่ 30 ม.ค.67

     ทั้งนี้ ฝ่ายวิจัยฯรวบรวมข้อมูลกำไรบริษัทจาก Bloomberg Consensus ทั้งหมด 216 บริษัท มีสัดส่วน 82% ของ Market Cap ทั้งตลาดฯ มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2.16 แสนล้านบาท ลดลง 15.4% เทียบจากไตรมาสก่อนหน้า(QoQ) และเพิ่มขึ้น 36.8%จากช่วงเดียวกันของปีก่อน(YoY)

     โดยแรงกดดันให้กำไรงวดไตรมาส 4/66 ลดลง QoQ หลักๆมาจากหุ้นอิงราคาน้ำมัน ที่ปรับลดลงต่อเนื่องจาก 90 เหรียญ/บาร์เรล ในช่วงปลายไตรมาส 3/66 เหลือ 70 เหรียญในช่วงปลายไตรมาส 4/66 กดดันให้หุ้นกลุ่มพลังงานเกิด Stock Loss อาทิ PTT, PTTEP, IRPC, TOP ขณะที่การเติบโต YoY โดดเด่น ส่วนใหญ่เกิดจากหุ้นในกลุ่มที่อิงราคา Commodity ต่างๆ จากฐานที่ต่ำกว่าปกติ อย่าง PETRO, PKG, PERSON, ENERG, BANK เป็นต้น

     และหากแบ่งออกเป็นราย Sector พบว่า มีกลุ่มที่กำไรเติบโตเด่น ทั้ง QoQ และ YoY คือ PETRO, ICT, PERSON, MEDIA, COMM เป็นต้น

     ยามตลาดผันผวน ฝ่ายวิจัยฯ แนะนำสะสมหุ้นพื้นฐานดี แนวโน้มกำไรงวดไตรมาส 4/66 มีโอกาสเติบโตเด่นทั้ง QoQ และ YoY อาทิ CPAXT, ITC, INTUCH, ADVANC,SCCC, MAJOR, SCGP ฯลฯ

     อย่างไรก็ดี เริ่มทยอยเข้าสู่ฤดูกาลประกาศงบ ซึ่งอาจทำให้ตลาดฯผันผวนได้ กลยุทธ์การลงทุนเน้นหุ้นที่กำไรไตรมาส 4/66 เติบโตเด่นทั้ง QoQ และ YoY อาทิ CPAXT, ITC, INTUCH, ADVANC, SCCC, MAJOR, SCGP ฯลฯ คาดสามารถ Outperform ตลาดฯในช่วงผันผวนได้ ส่วน Toppicks เลือก MAJOR ให้ราคาเหมาะสม 20 บาท SCGP ให้ราคาเหมาะสม 45 บาท และ III ให้ราคาเหมาะสม 14.20 บาท

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.