นัมเบอร์วัน! หุ้นไอพีโอน้องใหม่ปี 66 สุดปัง-สุดแป้ก

“โพสต์ทูเดย์” ได้ทำการสำรวจข้อมูลหุ้นเข้าใหม่ในปี 2566 พบว่ามีหุ้นเข้าใหม่รวมทั้งสิ้นจำนวน 40 บริษัท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนอยู่ที่ 38,259.50 ล้านบาท มูลค่าเสนอขายอยู่ที่ 45,306.19 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO อยู่ที่ 173,717.04 ล้านบาท ลดลงจากปี 2565 ที่มีหุ้นเข้าใหม่รวมทั้งสิ้นจำนวน 42 บริษัท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนอยู่ที่ 97,852.50 ล้านบาท มูลค่าเสนอขายอยู่ที่ 127,835.82 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO อยู่ที่ 506,545.49 ล้านบาท  

โดยหุ้นเข้าใหม่ในปี 2566 แบ่งเป็นหลักทรัพย์ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (SET) จำนวน 20 บริษัท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนอยู่ที่ 28,081.47 ล้านบาท มูลค่าเสนอขายอยู่ที่ 32,521.79 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO อยู่ที่ 125,629.59 ล้านบาท 

ขณะที่หลักทรัพย์ที่เข้าจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์เอ็ม เอ ไอ (mai) จำนวน 20 บริษัท คิดเป็นมูลค่าระดมทุนอยู่ที่ 10,178.02 ล้านบาท มูลค่าเสนอขายอยู่ที่ 12,784.40 ล้านบาท มูลค่าหลักทรัพย์ ณ ราคา IPO อยู่ที่ 48,087.45 ล้านบาท

โดยเฉพาะในเดือน ธ.ค.2566 มีหุ้นเข้าใหม่จำนวน 3 บริษัท ที่สร้างเสียงฮือฮาไม่แพ้กัน ได้แก่ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI ประกอบธุรกิจเกี่ยวกับการพาณิชย์ ผ่านการสร้างประสบการณ์จากความงาม และความบันเทิง จากการจัดการประกวด มิสแกรนด์ ไทยแลนด์ และ มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล ซึ่งเป็นรูปแบบการประกวดนางงามระดับประเทศและระดับโลก และกิจกรรมอื่นๆ จากศิลปิน นำไปสู่การประกอบธุรกิจพาณิชย์ ทั้งค้าปลีกและค้าส่ง ในหลากหลายช่องทางการจัดจำหน่าย ผ่านตราสินค้าของบริษัท แบรนด์ Miss Grand, NangNgam, นางงาม, MGI และสินค้าแบรนด์ต่างๆ จากตัวแทนจำหน่ายหรือแหล่งผลิตอื่นๆ ที่หลากหลาย

MGI จดทะเบียนในตลาด mai ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค วันที่ 14 ธ.ค.2566 ปิดเทรดวันแรก 8.50 บาท ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 71.72% จากราคา IPO ที่ 4.95 บาท จากนั้นราคาหุ้นปรับตัวเพิ่มขึ้น 5 วันติดต่อกัน จนกระทั่งตลาดหลักทรัพย์ฯ ออกมาเตือนนักลงทุนให้ระมัดระวังการซื้อขาย ทำให้ราคาหุ้นปรับตัวลดลง 3 วันติดต่อกัน และได้ประกาศจ่ายปันผล 0.20 บาท/หุ้น ราคาหุ้นกลับมาปรับตัวเพิ่มขึ้น 

ล่าสุด ราคาปิดเทรด ณ วันที่ 28 ธ.ค.2566 อยู่ที่ 19.00 บาท สูงกว่าราคา IPO ถึง 283.83% จนถูกประกาศให้เป็นหลักทรัพย์ที่เข้าข่ายมาตรการกำกับการซื้อขาย ระดับ 1 : ห้ามคำนวณวงเงินซื้อขาย และ Cash Balance เริ่มตั้งแต่วันที่ 2 ม.ค.-18 ม.ค.2567

ขณะเดียวกัน MGI มีบริษัทจดทะเบียน (บจ.) นักลงทุนวีไอ คนดัง หลายรายเป็นผู้ถือหุ้นใหญ่

บริษัท เอเชีย เน็ตเวิร์ค อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ ANI ประกอบธุรกิจโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจหลักเป็นตัวแทนขายระวางสินค้าสายการบิน (Cargo General Sales Agent: Cargo GSA) (GSA) ครอบคลุม 8 ประเทศและเขตบริหารพิเศษในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ เขตบริหารพิเศษฮ่องกงและจีน

ANI จดทะเบียนในตลาด SET ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ หมวดธุรกิจขนส่งและโลจิสติกส์ วันที่ 14 ธ.ค.2566 ปิดเทรดวันแรก 4.98 บาท ราคาปรับตัวลดลง 5.14% จากราคา IPO ที่ 5.25 บาท แต่ราคาปิดเทรด ณ วันที่ 28 ธ.ค.2566 อยู่ที่ 5.95 บาท สูงกว่าราคา IPO ถึง 13.33% 

จากการตรวจสอบรายชื่อผู้ถือหุ้น 10 รายแรก พบว่า บริษัท เอสซีจี เจดับเบิ้ลยูดี โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ SJWD ถือหุ้นอันดับ 4 จำนวน 92,200,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 4.99% และ บริษัท สกาย ไอซีที จำกัด (มหาชน) หรือ SKY ถือหุ้นอันดับ 6 จำนวน 28,595,000 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 1.55% นอกเหนือจาก บริษัท ทริพเพิล ไอ โลจิสติกส์ จำกัด (มหาชน) หรือ III บริษัทแม่ของ ANI ที่ ถือหุ้นอันดับ 1 จำนวน 668,047,650 หุ้น คิดเป็นสัดส่วน 36.15% 

บริษัท เอสซีจี เดคคอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ SCGD ประกอบธุรกิจผลิตกระเบื้องปูพื้นบุผนัง ทั้งในประเทศไทยและต่างประเทศ และธุรกิจผลิตสุขภัณฑ์ในประเทศไทย รวมถึงผู้จัดจำหน่ายผ่านร้านค้าปลีกของตนเอง และธุรกิจอื่นๆ ได้แก่ การให้บริการธุรกิจนิคมอุตสาหกรรม

SCGD เป็น IPO ที่มีมูลค่าหลักทรัพย์มากที่สุดของปี 2566 ถึง 18,975 ล้านบาท จดทะเบียนในตลาด SET ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดธุรกิจวัสดุก่อสร้าง วันที่ 20 ธ.ค.2566 ปิดเทรดวันแรก 9.80 บาท ราคาปรับตัวลดลง 14.78% จากราคา IPO ที่ 11.50 บาท และราคาปิดเทรด ณ วันที่ 28 ธ.ค.2566 อยู่ที่ 10.00 บาท ต่ำกว่าราคา IPO ถึง 13.04% 

สำหรับภาพรวมหุ้นเข้าใหม่ในปี 2566 พบว่า ปิดเทรดวันแรกเหนือจอง มีทั้งหมด 20 บริษัท เป็นหุ้นที่เข้าจดทะเบียนใน SET จำนวน 6 บริษัท ได้แก่ CHASE (+3.45%), PRTR (+40.28%), MGC (+11.95%), PSP (+61.29%), COCOCO (+43.64%), SINO (+37.86%) 

และหุ้นที่เข้าจดทะเบียนใน mai จำนวน 14 บริษัท ได้แก่ SAF (+46.11%), MASTER (+50.00%), SVR (+13.64%), NTSC (+40.95%), MEB (+55.26%), BVG (+68.83%), READY (+105.48%), ITTHI (+2.00%), DEXON (+2.67%), TBN (+150.00%), GFC (+50.00%), JPARK (+22.63%), TRP (+12.86%), MGI (+71.72%) 

โดยบริษัทที่ปิดเทรดวันแรกผลตอบแทนสูงสุด คือ บริษัท ทีบีเอ็น คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TBN จดทะเบียนในตลาด mai ในกลุ่มอุตสาหกรรมเทคโนโลยี วันที่ 19 มิ.ย.2566 ปิดเทรดวันแรก 42.50 บาท ราคาปรับตัวเพิ่มขึ้น 150.00% จากราคา IPO ที่ 17.00 บาท 

ส่วนปิดเทรดวันแรกต่ำจอง มีทั้งหมด 20 บริษัท เป็นหุ้นที่เข้าจดทะเบียนใน SET จำนวน 14 บริษัท ได้แก่ PQS (-4.17%), GABLE (-6.10%), BLC (-31.43%), PHG (-22.38%), KCG (-2.35%), SAV (-19.47%), TAN (-0.61%), WINDOW (-39.52%), ORN (-26.85%), NAM (-13.64%), ETL (-22.62%), SAFE (-15.24%), ANI (-5.14%), SCGD (-14.78%)

และหุ้นที่เข้าจดทะเบียนใน mai จำนวน 6 บริษัท ได้แก่ PLT (-18.71%), TPL (-32.73%), I2 (-7.41%), SRS (-22.50%), MCA (-38.18%), SCL (-11.04%)

โดยบริษัทที่ปิดเทรดวันแรกผลตอบแทนต่ำสุด คือ บริษัท วินโดว์ เอเชีย จำกัด (มหาชน) หรือ WINDOW จดทะเบียนในตลาด SET ในกลุ่มอุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง หมวดธุรกิจวัสดุก่อสร้าง วันที่ 25 ต.ค.2566 ปิดเทรดวันแรกที่ 1.27 บาท ราคาปรับตัวลดลง 39.52 % จากราคา IPO ที่ 2.10 บาท 

ขณะที่ปิดเทรดวันสุดท้ายของปี 2566 เหนือจอง มีทั้งหมด 13 บริษัท เป็นหุ้นที่เข้าจดทะเบียนใน SET จำนวน 4 บริษัท ได้แก่ KCG (+4.71%), COCOCO (+43.64%), SINO (+10.71%), ANI (+13.33%) 

และหุ้นที่เข้าจดทะเบียนใน mai จำนวน 9 บริษัท ได้แก่ MASTER (+26.09%), MEB (+14.91%), BVG (15.32%), READY (71.23%), GFC (55.71%), JPARK (71.05%), TRP (27.86%), SCL (13.64%), MGI (283.83%)  

โดยบริษัทที่ปิดเทรดวันสุดท้ายของปี 2566 ผลตอบแทนสูงสุดจากราคา IPO คือ บริษัท มิสแกรนด์ อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด (มหาชน) หรือ MGI จดทะเบียนในตลาด mai ในกลุ่มอุตสาหกรรมสินค้าอุปโภคบริโภค โดยราคาปิดเทรด ณ วันที่ 28 ธ.ค.2566 อยู่ที่ 19.00 บาท ปรับตัวเพิ่มขึ้น 283.83% จากราคา IPO ที่ 4.95 บาท 

ในส่วนปิดเทรดวันสุดท้ายของปี 2566 ต่ำจอง มีทั้งหมด 27 บริษัท เป็นหุ้นที่เข้าจดทะเบียนใน SET จำนวน 16 บริษัท ได้แก่ PQS (-53.33%), CHASE (-37.93%), PRTR (-22.22%), MGC (-28.30%), GABLE (-31.46%), BLC (-56.19%), PHG (-40.95%), PSP (-27.74%), SAV (-15.26%), TAN (-19.39%), WINDOW (-35.24%), ORN (-28.86%), NAM (-9.74%), ETL (-2.98%), SAFE (-12.86%), SCGD (-13.04%) 

และหุ้นที่เข้าจดทะเบียนใน mai จำนวน 11 บริษัท ได้แก่ SAF (-53.89%), SVR (-27.73%), NTSC (-48.95%), ITTHI (-47.00%), DEXON (-50.67%), PLT (-41.94%), TBN (-17.06%), TPL (-57.88%), I2 (-16.30%), SRS (-36.25%), MCA (-21.82%)  

โดยบริษัทที่ปิดเทรดวันสุดท้ายของปี 2566 ผลตอบแทนต่ำสุดจากราคา IPO คือ บริษัท ไทยพาร์เซิล จำกัด (มหาชน) หรือ TPL จดทะเบียนในตลาด mai ในกลุ่มอุตสาหกรรมบริการ โดยราคาปิดเทรด ณ วันที่ 28 ธ.ค.2566 อยู่ที่ 1.39 บาท ปรับตัวลดลง 57.88% จากราคา IPO ที่ 3.30 บาท