ฮั่วเซ่งเฮงมองราคาทองสัปดาห์นี้ระยะสั้นลดลงมาที่1,940-1,960 ดอลลาร์
ฮั่วเซ่งเฮงประเมินราคาทองสัปดาห์นี้ (11-15 ธ.ค.2566) ว่า หลังเกิดแรงเทขายออกมาอย่างหนัก เมื่อผ่านช่วงที่ราคาทองคำปรับขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ (All-time high) ที่ 2,144 ดอลลาร์ ขณะที่แท่งเทียนของราคาทองคำรายวันเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา เกิดแท่งเทียนสีแดงแท่งยาว และปิดตลาดต่ำกว่าราคาปิดวันก่อนหน้า และราคาทองคำรายสัปดาห์ก็ปิดตลาดต่ำกว่าราคาปิดสัปดาห์ก่อน ซึ่งถือว่าเป็นการปรับตัวลงรายสัปดาห์ครั้งแรกในรอบ 4 สัปดาห์ ส่งผลให้สัญญาณทางเทคนิคของราคาทองคำไม่ดีนัก ระยะสั้นจึงคาดว่าราคาทองคำอาจปรับตัวลดลงมาสู่ระดับ 1,940-1,960 ดอลลาร์ ซึ่งบริเวณนี้คาดว่าอาจมีแรงซื้อกลับเข้ามา
สำหรับสัปดาห์นี้ติดตามการประชุมธนาคารกลางสหรัฐในวันที่ วันที่ 12-13 ธ.ค. การประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) และการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 ธ.ค. นี้
อย่างไรก็ตามมองว่าราคาทองคำสัปดาห์นี้มีแนวรับอยู่ที่ 1,960 ดอลลาร์ และ 1,940 ดอลลาร์ ขณะที่มีแนวต้าน 2,020 ดอลลาร์ และแนวต้าน 2,036 ดอลลาร์ ส่วนราคาทองแท่งในประเทศมีแนวรับ 33,400 บาท และ 33,250 บาท ขณะที่มีแนวต้านที่ 33,900 บาท และ 34,100 บาท
ทั้งนี้มองว่ายังมีปัจจัยที่ทำให้ราคาทองสัปดาห์นี้ปรับขึ้น จากทั้งภาวะเศรษฐกิจโลกมีความเสี่ยงเข้าสู่ภาวะเศรษฐกิจถดถอย ความขัดแย้งด้านภูมิรัฐศาสตร์ที่เพิ่มขึ้น ได้แก่ สงครามยูเครน-รัสเซีย สงครามอิสราเอล-ฮามาส ธนาคารกลางทั่วโลกเข้าซื้อทองคำต่อเนื่อง ตลอดจนคาดว่าเฟดจะยุติการขึ้นอัตราดอกเบี้ย ส่วนปัจจัยลบคือความต้องการทองคำจากจีนลดลง
สัปดาห์นี้ต้องจับตาการประชุมของธนาคารกลางที่สำคัญ ได้แก่ การประชุมของธนาคารกลางสหรัฐที่จะมีในวันที่ 12-13 ธ.ค.นี้ และการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) กับการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) ที่จะมีขึ้นในวันเดียวกันวันที่ 14 ธ.ค. นี้ คาดว่าธนาคารกลางทั้ง 3 แห่งจะยังคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับเท่าเดิม แต่สิ่งสำคัญที่ต้องจับตา คือการส่งสัญญาณทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า ทั้งนี้
การประชุมธนาคารกลางสหรัฐในเดือนธ.ค.นี้ เฟดจะเปิดเผยการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (dot plot) ซึ่งจะเห็นมุมมองทิศทางอัตราดอกเบี้ยของเฟดในปี 2567 โดยเฟดได้เปิดเผยครั้งล่าสุดในการประชุมเฟดเดือนก.ย. ชี้ว่าการคาดการณ์อัตราดอกเบี้ยนโยบาย (dot plot) เจ้าหน้าที่เฟดส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีก 1 ครั้ง สู่ระดับ 5.6% ภายในสิ้นปีนี้
ขณะที่จะส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 2 ครั้งสู่ระดับ 5.1% ในช่วงสิ้นปี 2567 และแตะ 3.9% ในช่วงสิ้นปี 2568 ขณะที่แตะ 2.9% ในช่วงสิ้นปี 2569 ขณะที่คาดการณ์อัตราดอกเบี้ยระยะยาวที่ระดับ 2.5% ซึ่งแตกต่างจากที่ตลาดคาดว่าเฟดจะไม่ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยอีกในปีนี้ และเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยอีก 5 ครั้งในปี 2567 เหลือเพียง 4.00%-4.25% ภายในสิ้นปี 2567
โดยจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในเดือนมี.ค.2567 ถือว่าเป็นการปรับลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็ว ซึ่งอาจจะสร้างความผันผวนให้ตลาดทองคำได้ โดยการลดอัตราดอกเบี้ยอย่างรวดเร็วนั้นอาจทำให้ราคาทองคำดีดตัวขึ้นไปสู่ระดับสูงสุดใหม่เป็นประวัติการณ์ ทั้งนี้ปีนี้ราคาทองคำได้ปรับตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณที่ 2,144 ดอลลาร์
ส่วนการประชุมธนาคารกลางยุโรป (ECB) ที่จะมีขึ้นในวันที่ 14 ธ.ค. นั้น คาดว่า ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมสัปดาห์นี้เช่นกัน ซึ่งอาจจะทำให้สกุลเงินยูโรอ่อนค่า ดอลลาร์แข็งค่าขึ้น กดดันราคาทองคำระยะสั้น และคาดว่า ECB จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า โดยคาดว่า ECB จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายช่วง Q1/67 หรืออย่างเร็วที่สุดที่ ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในช่วงเดือนมี.ค.2567 โดยคาดว่าทั้งปี 2567 ECB จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลง 1.50% เนื่องจากอัตราเงินเฟ้อชะลอตัวลงอย่างชัดเจน
สำหรับการประชุมธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) คาดว่าจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25% ในการประชุมสัปดาห์นี้เช่นกัน แต่ทิศทางอัตราดอกเบี้ยในปี 2567 นั้นอาจเริ่มปรับอัตราดอกเบี้ยลงช้ากว่าธนาคารกลางสหรัฐและธนาคารกลางยุโรป โดยคาดว่าปี 2567 ธนาคารกลางอังกฤษ (BOE) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในไตรมาส 4 ของปี 2567 โดยจะปรับลดลง 0.50% ในไตรมาสดังกล่าว
ขณะที่ผลสำรวจมุมมองต่อทิศทางราคาทองคำในประเทศรายสัปดาห์ระหว่างวันที่ 11-15 ธ.ค.2566 จากการสำรวจ GRC Gold Survey โดย ศูนย์วิจัยทองคำระบุว่า 14 ผู้เชี่ยวชาญในตลาดทองคำที่ได้มีส่วนร่วมตอบแบบสำรวจ ในจำนวนนี้มี 3 ราย หรือเทียบเป็น 21% คาดว่าราคาทองคำในสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 6 ราย หรือเทียบเป็น 43% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 5 ราย หรือเทียบเป็น 36% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สำหรับนักลงทุนทองคำ ได้เข้าร่วมตอบแบบสำรวจ จำนวน 334 ราย ในจำนวนนี้มี 181 ราย หรือเทียบเป็น 54% คาดว่าราคาทองคำในประเทศของสัปดาห์หน้าจะปรับเพิ่มขึ้น ส่วนจำนวน 107 ราย หรือเทียบเป็น 32% คาดว่าราคาทองคำจะลดลง และ จำนวน 46 ราย หรือเทียบเป็น 14% คาดว่าราคาทองคำจะใกล้เคียงกับสัปดาห์ที่ผ่านมา
สถานการณ์ราคาทองคำ
ราคาทองคำแท่งในประเทศ 96.5% ตามประกาศ สมาคมค้าทองคำ ในสัปดาห์ที่ผ่านมาเคลื่อนไหวอยู่ระหว่าง 33,700 – 34,400 บาท ต่อบาททองคำ โดยราคาทองคำปิดอยู่ที่ระดับ 33,750 บาท ต่อบาททองคำ ลดลง 350 เมื่อเปรียบเทียบกับราคาปิดของสัปดาห์ก่อนหน้า (สัปดาห์ก่อนหน้าปิดที่ 34,100 บาท) ดูรายงาน GRC ฉบับก่อนหน้า
ปัจจัยที่ต้องติดตาม
1. นโยบายทางการเงินของธนาคารกลางสหรัฐฯ (FED) โดย FED จะจัดการประชุมกำหนดนโยบายทางการเงิน (FOMC) ระหว่างวันที่ 12 – 13 ธันวาคม 2566 ซึ่งนักลงทุนยังคงคาดการณ์ว่า FED จะประกาศคงอัตราดอกเบี้ย และอาจเร็วเกินไปที่ตลาดจะคาดการณ์ว่าจะมีการปรับลดอัตราดอกเบี้ยของสหรัฐฯ ในต้นปีหน้า หลังจากสหรัฐฯ เปิดเผยข้อมูลการจ้างงานที่แข็งแกร่งเกินคาดเมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมา
2. รายงานตัวเลขทางเศรษฐกิจที่สำคัญของสหรัฐฯ ได้แก่ ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภค, ดัชนีราคาผู้บริโภค, ดัชนีราคาผู้ผลิต, ยอดค้าปลีก, ข้อมูลการผลิตภาคอุตสาหกรรมของเดือน พฤศจิกายน 2566 และจำนวนผู้ขอรับสวัสดิการว่างงานรายสัปดาห์
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.