ฟันด์โฟลว์ไหลออก-หยุด 3 วันป่วนหุ้นไทยแกว่งแคบ
ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า ตลาดหุ้นวานนี้ SET Index ร่วง 11 จุด (-0.78%) ปิดที่ระดับ 1,378 จุด จากแรงขายหุ้นในกลุ่ม น้ำมันหลังราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกร่วงทำสถิติต่ำสุดในรอบ 5 เดือน กลุ่มอิเล็กฯมี Sentiment ลบหลังจีนรายงานยอดนำเข้าสินค้าเดือน พ.ย. พลิกเป็นหดตัว 0.6%yoy
แนวโน้มตลาดหุ้นวันนี้(8 ธ.ค.66)ประเมิน SET แกว่งตัว 1,370 - 1,390 จุด แม้ภาวะตลาดจะได้แรงหนุนจากตลาด หุ้นสหรัฐดีดตัวขึ้นและเม็ดเงินจากกองทุน TESG SSF RMF ช่วงท้ายปี อย่างไรก็ตาม Fund flow ต่างชาติที่ยังไหลออกและตลาดหยุด long weeken 3 วัน จะกดดันให้ดัชนีผันผวน
ตั้งรับเล่นรีบาวด์
กราฟ SET ไม่สามารถผ่านเส้น EMA 10 วันขึ้นได้ส่งผลให้ภาพรวมยังคงเป็นแนวโน้มขาลงต่อเนื่อง นอกจากนี้เครื่องมือ MACD + RSI ทิ้งตัวลงให้สัญญาณลบทั้งคู่ยิ่งเป็นแรงกดดันต่อภาวะตลาดในช่วงนี้ ดังนั้นประเมินว่า SET จะอ่อนตัวแนวรับ 1,375 / 1,370 จุด จึงแนะนำซื้อเล่นรีบาวด์ช่วงอ่อนตัว แนวต้าน 1,385 / 1,390 จุด โดย Cut loss หาก SET หลุด 1,365 จุด
สำหรับหุ้นแนะนำคือ PLANB (ปิด 8.50 ซื้อ/เป้า 10.2 บาท) คาดกำไรปีนี้ทำสถิติสูงสุดใหม่ และโต ถึง 30% ขณะที่คาดว่าโมเมนตัมการเติบโตจะดำเนินต่อไปในปี 2024 ซึ่งเราคาดว่าจะโต 31% จาก UR ที่เพิ่มขึ้น และการปรับขึ้นค่าโฆษณา
CBG (ปิด 82.25 ซื้อ/เป้า 93.60 บาท) แนวโน้มรายได้และกำไรจะเร่งตัวขึ้นในไตรมาส 4/2566 จากการรับรู้รายได้ผลิตขวดและจัดจำหน่ายเบียร์เข้ามาเต็มไตรมาสเป็นไตรมาสแรก ขณะที่ในปี 2567 จะมีค่าใช้จ่ายค่าลิขสิทธ์ฟุตบอลคาราบาวคัพลดลงจากการแชร์ค่าใช้จ่ายร่วมกับคุณเสถียร
ประเด็นสำคัญวันนี้
(-) ยอดนำเข้าจีนเดือน พ.ย.พลิกเป็นติดลบสะท้อนดีมานด์สินค้าส่งออกไทยชะลอตัว: วานนี้จีนรายงานยอดส่งออกเดือน พ.ย. พลิกเป็นขยายตัว 0.5%yoy จากเดือน ต.ค. ที่หดตัว 6.4%yoy นับเป็นการขยายตัว yoy ครั้งแรกในรอบ 7 เดือน อย่างไรก็ตามยอดนำเข้ากลับหดตัว 0.6%yoy จากที่เพิ่มขึ้น 3%yoy ใน เดือน ต.ค. เรามองเป็นลบกับประเด็นนี้ โดยเฉพาะยอดนำเข้าที่หดตัวสะท้อนดีมานด์สินค้านำเข้าจากไทยลดลงเป็น Sentiment ลบต่อกลุ่มส่งออกโดยเฉพาะ กลุ่มอิเล็กทรอนิกส์
(+/-) คืนนี้ติดตามตัวเลข Nonfarm Payrolls ชี้วัดความแข็งแกร่งในตลาดแรงงานสหรัฐ: Nonfarm Payrolls หรือการจ้างงานนอกภาคเกษตรเป็นอีก หนึ่งตัวเลขที่เฟดให้ความสำคัญ หากตัวเลขการจ้างงานดังกล่าวลดลงหรือต่ำกว่า คาดจะเพิ่มโอกาสให้เฟดคงดอกเบี้ยในการประชุมครั้งถัดไปมากยิ่งขึ้นเป็นบวกต่อภาพรวมการลงทุน โดย Consensus คาดจำนวนการจ้างงานที่ 1.8 แสนคน เพิ่มขึ้นจาก 1.5 แสนคนในเดือน ต.ค. และ คาดอัตราการว่างงานทรงตัวที่ 3.9%
(+/-) สัปดาห์หน้า สัปดาห์แห่งการประชุมของธนาคารกลางทั่วโลกโฟกัสหลัก อยู่ที่ FED Meeting: โดย FED Meeting จะมีขึ้นในวันที่ 12-13 ธ.ค. ตามด้วย BoE และ ECB Meeting จะมีขึ้นในวันเดียวกันคือ 14 ธ.ค. เราคงมุมมองเดิมคาด FED, BoE และ ECB จะคงอัตราดอกเบี้ยไว้ที่ระดับ 5.25-5.5%, 5.25% และ 4.5% ตามลำดับ แต่สิ่งที่จะต้องจับตาและอาจสร้างความผันผวนให้กับตลาดจะ อยู่ที่ ถ้อยแถลงหลังการประชุมของประธานเฟด, Dot Plot และ คาดการณ์ GDP ในปีหน้าของสหรัฐ
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.