คลัง จ่อส่งกฤษฎีกาตีความโครงการดิจิทัลขัดกฎหมายหรือไม่ พรุ่งนี้

นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยกระทรวงการคลัง กล่าวถึงความคืบหน้าโครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet ว่า ภายใน 1- 2 วัน กระทรวงการคลังเตรียมส่งหนังสือคำถามถึงความชอบด้วยกฎหมายเกี่ยวกับโครงการฯไปยังสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา ซึ่งจะเป็นการสอบถามในรูปแบบของข้อกฎหมาย โดยส่วนตัวมั่นใจว่า โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet จะไม่ขัดต่อกฎหมาย

“ตอนนี้คำถามที่เสร็จเป็นที่เรียบร้อยแล้ว น่าจะส่งให้กฤษฎีกาได้ภายในวันพรุ่งนี้ หรือวันพุธนี้ ซึ่งคำถามที่ส่งให้กฤษีกามีอะไรบ้างบอกไม่ได้ แต่จะเป็นคำถามในรูปแบบของกฎหมาย หลังจากนี้ต้องรอตอบกลับมากฤษฎีกาจะว่าตอบเยส หรือโน ” นายจุลพันธ์ กล่าว
 

นายจุลพันธ์ ยังกล่าวด้วยว่า ส่วนตัวผมมั่นใจว่า คำตอบของกฤษฎีกาออกมาว่า โครงการเติมเงิน 10,000 บาท ผ่าน Digital Wallet  ไม่ขัดต่อกฎหมาย  เนื่องจากกระทรวงการคลังสอบถามถึงข้อกฎหมาย ไม่ได้ถามเรื่องว่าเศรษฐกิจไทยวิฤกตหรือไม่ ไม่วิกฤต เพราะกฤษฎีกาไม่มีหน้าที่ตอบอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม หลังจากได้คำตอบจากกฤษฎีการแล้ว หากได้คำตอบว่าไม่ขัดต่อกฎหมาย กระทรวงการคลังก็จะเดินหน้ายกร่างพ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท 

“คาดว่าจะใช้เวลายกร่างประมาณ 1-2 อาทิตย์ เมื่อแล้วเสร็จจะนำเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี และคาดว่าภายในช่วงต้นปี 2567 จะเข้าสู่การประชุมของสภา และ สว. ได้ ซึ่งหากไม่มีอุปสรรค หรือฟ้องร้องก็คาดว่าจะได้ข้อสรุปทั้งหมดภายในเดือน เม.ย. และโครงการจะเดินหน้าตามกำหนดการ พ.ค. 2567” นายจุลพันธ์ กล่าว
 

นายจุลพันธ์ กล่าวอีกว่า กรณีที่ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ประเมินว่าโครงการดิจิทัลวอลเล็ต จะช่วยกระตุ้นให้เศรษฐกิจไทยในปี 2567 ขยายตัวที่ 3.8% ลดลงจากคาดการณ์เดิมที่ 4.4% หรือให้น้ำหนักโครงการเงินดิจิทัลมีผลต่อจีดีพีต่ำเพียง 0.6% เพราะเงื่อนไขเรื่องระยะเวลาในการดำเนินโครงการที่เปลี่ยนไปจากกำหนดเดิมในเดือน ก.พ. เป็น พ.ค. 2567 นั้น ก็เป็นเรื่องที่ต้องยอมรับ แต่เราไม่ได้มองแค่นั้น เรามองเรื่องกำลังซื้อ เงินยังอยู่ในระบบ สร้างให้เกิดการหมุนเวียนทางเศรษฐกิจยาวนานอย่างน้อย 3 รอบ ซึ่งจะมีกลไกลอื่นเข้ามาด้วย ตั้งเป้าปีหน้าเฉลี่ยโต 5% เพราะไม่รู้จะดีเดย์ถึงเมื่อไร เช่น มีคนยื่นตีความ ซึ่งเป็นเรื่องที่ควบคุมไม่ได้ แต่มีผลไม่คิดถอย ดำเนินโครงการให้ได้ เราจะทำเต็มที่ หากผลออกมาทำไม่ได้ ก็ต้องมาดูเหตุผลประกอบ เช่น เศรษฐกิจไม่วิกฤต เราก็ต้องรอดูกันต่อไป รอให้สถานการณ์มันชี้ชัดกว่านี้ ก็อาจเป็นช่วงเวลาที่เหมาะสมต่อไป
 

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.