หมูเถื่อนฉุด "CPAXT" ร่วงต่อ 3โบรกส่องพื้นฐานแกร่ง รอไร้มลทินคดีชัด

     นับตั้งแต่มีข่าว DSI บุกค้นแม็คโครเพื่อตรวจเอกสารซื้อขายหมูหลังบริษัทคู่ค้าตกเป็นผู้ต้องหาคดีหมูเถื่อน ราคาหุ้น CPAXT ปรับลดลงต่อเนื่องจากราคาทรงตัวแถว 28 บาทปรับตัวลดลงต่อเนื่อง 

     ล่าสุด CPAXT ปิดการซื้อขายในช่วงเช้านี้(29 พ.ย.2566) อยู่ที่ 26.25 บาท ลดลง 1 บาท คิดเป็น -3.67% มูลค่าการซื้อขาย 522.39  ล้านบาท โดยราคาขึ้นไปสูงสุด 27.25 บาท และลดลงต่ำสุด 25.50 บาท แม้ทางบริษัทจะชี้แจงว่าซื้อหมูถูกกฎหมายก็ตาม

รอภาพไร้พัวพันรับซื้อของโจร

     ฝ่ายวิจัย บล.เอเซีย พลัส ระบุว่า เมื่อวันที่ 27 พ.ย. 66ที่ผ่านมา เจ้าหน้าที่กรมสอบสวนคดีพิเศษ (DSI) เข้าตรวจค้นแม็คโครเพื่อขอตรวจเอกสารการซื้อขายหมู หลังจากกรรมการบริษัทของ บจ. เว้ลท์ซี่แอนด์ เฮ็ลธ์ซี ฟูดส์ และบจ. เดอะ กู๊ด ช็อป (เคยเป็นคู่ค้ากับ MAKRO) ตกเป็นผู้ต้องหาในคดีหมูเถื่อน
     ล่าสุด วานนี้(28 พ.ย. 66) MAKRO ได้ออกมาชี้แจงว่า 1. เคยทำสัญญาค้าขายกับบริษัทดังกล่าวมาหลายปี ซึ่งในส่วนของเนื้อหมู และเครื่องในหมูที่เป็นประเด็น MAKRO มีหลักเกณฑ์ในการจัดซื้อดังนี้
     1.1 เนื้อหมูซึ่งเป็นสินค้าที่ห้ามนำเข้า บริษัทจะตรวจสอบว่า
     - สินค้าของคู่ค้าเป็นสินค้าที่ถูกกฏหมายหรือไม่ ซึ่งที่ผ่านมาบริษัทดังกล่าวมีเอกสารมาสำแดงถูกต้องตามกฎหมาย
     - คุณภาพต้องเป็นไปตามเกณฑ์ แต่ MAKRO ได้ยกเลิกซื้อเนื้อหมูกับบริษัทดังกล่าวไป ในปี 2565 เนื่องจากพบว่าเนื้อหมูไม่ได้มาตรฐาน

     1.2 ตับหมู(เครื่องในหมู) เป็นสินค้าที่สามารถนำเข้าได้ ซึ่งก่อนบริษัทจะรับซื้อสินค้า จะตรวจสอบว่า
     - มีเอกสารนำเข้าถูกต้อง และเป็นการนำเข้าจากประเทศที่กรมปศุสัตว์ไม่ได้ห้ามนำเข้า ณ ขณะนั้น
     - คุณภาพต้องได้มาตรฐาน ซึ่งตั้งแต่ต้นปี 2566 สินค้าตับหมูจากบริษัทดังกล่าวไม่ได้คุณภาพ ทาง MAKRO จึงได้ยกเลิกซื้อขายกับบริษัทดังกล่าวทุกสินค้า
     แม้คำแนะนำของเราสำหรับ CPAXT จะยังเป็น “Outperform” เนื่องจากเชื่อว่ากำไรใน 4Q66 จะสดใสขึ้นจากผลบวกของฤดูกาล ขณะที่ได้ยกเลิกการซื้อเนื้อหมูและเครื่องใน จากคู่ค้ารายนี้ไปแล้ว และการซื้อนั้นมีสัดส่วนน้อยมาก (ราว 390 ล้านบาท เมื่อเทียบกับยอดขายรวม 2.5 แสนล้านบาท/ปี ของ MAKRO 
     อย่างไรก็ตามเชื่อว่าประเด็นข่าวนี้เป็นลบในระยะสั้นกับ CPAXT ทั้งธุรกิจค้าส่ง (MAKRO) และค้าปลีก (Lotus’s) ของบริษัท เพราะน่าจะกระทบต่อความเชื่อมั่นของผู้บริโภค และอาจยังกดดันราคาหุ้นจนกว่าจะมีความชัดเจนว่าบริษัทจะไม่ได้รับผลกระทบทางคดีจากคดีหมูเถื่อน โดยมีประเด็นที่ต้องติดตาม คือ บริษัทจะตกเป็นผู้รับซื้อของโจรหรือไม่ (คดีอาญา) 

ไม่กระทบพื้นฐาน
     ฝ่ายวิเคราะห์ บล.กรุงศรี ระบุว่า ตามที่มีข่าวกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ตรวจคน สำนักงานใหญ่ของ CPAXT เพื่อหาเนื้อหมูผิดกฎหมายที่จัดหาโดยซัพพลายเออร์รายหนึ่ง บริษัทให้ความรวมมือกับดีเอสไอและชี้แจงว่า บริษัทมีกระบวนการ จัดหาสินค้าซึ่งหมายถึง 1) ผลิตภัณฑ์เนื้อหมูทั้งหมดต้องจัดหาโดยผู้ขายที่ได้รับ อนุมัติ 2) เนื้อหมูที่สั่งซื้อทุกครั้งจะต้องมีใบรับรองแหล่งกำเนิดสินค้าที่สามารถ สืบหาได้จากฟาร์มดั้งเดิม และ 3) การซื้อแต่ละครั้งต้องได้รับการทดสอบในด้าน คุณภาพ บริษัทเชื่อว่ามีผู้ขายเพียงพอที่จะจัดหาเนื้อหมู และหากไม่ได้ทำการค้า กับผู้ขายรายนี้ บริษัทก็สามารถหาหมูจากแหล่งอื่นได้ นอกจากนี้ บริษัทได้หยุด การค้ากับบริษัทนี้ตั้งแต่ต้นปี 2023 แล้วเพราะจัดหาหมูไม่ได้คุณภาพ
     ซึ่งฝ่ายฯมองข่าวนี้ไม่ได้กระทบปัจจัยพื้นฐาน CPAXT ซึ่งบริษัทแจ้งว่ามีเอกสารประกอบถูกต้อง อย่างไรก็ตามกระบวนการทางกฎหมายจะใช้เวลาสักพักจึงจะสรุปผลได้ จากมุมมองพื้นฐาน เราเชื่อว่าการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในเดือนตุลาคมยังคงเป็นบวก และอาจส่งผลบวกต่อราคาหุ้นในระยะกลาง
      นอกจากนี้ ฝ่ายฯยังไม่ได้เริ่มวิเคราะห์หุ้นฉันทามติของ IAA ให้ราคาเป้าหมายอยู่ที่ 35.49 บาท มีโบรกเกอร์ 14 รายที่วิเคราะห์หุ้น โดย 9 รายให้คำแนะนำเป็นซื้อ 3 ถือ และ 1 ขาย จากประมาณการ EPS ของ IAA 2024F หุ้นซื้อขายอยู่ที่ 27.8x 

ผลงานผ่านจุดต่ำ
     บล.หยวนต้า(ประเทศไทย) แนะนำซื้อ CPAXT ราคาเหมาะสมใหม่ปี 2567 ที่ 32.50 บาท คาดผลประกอบการผ่านจุดต่ำสุด โดยบริษัทตั้งเป้าเติบโตปี 2567 โดยยอดขายโต 7-9% และ GPM ธุรกิจค้าส่งตั้งเป้า +20bps. และค้าปลีก +100 bps.จากการร่วมจัดซื้อสินค้าร่วมกันและเพิ่มสัดส่วนสินค้า private brand 
     ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ปรับลดกำไรปกติปี 2566 และ 2567 ลง -8.0% และ -8.9% เป็น 8.1 พันล้านบาท และ 1.1 หมื่นล้านบาท ตามลำดับ เพื่อสะท้อนยอดขายที่ฟื้นตัวช้ากว่าคาด และSG&A/Sales ที่เพิ่มขึ้นในธุรกิจค้าส่ง
     โดยมีมุมมองเป็นกลางต่อการประชุม Analyst Meeting เนื่องจากข้อมูลสอดคล้องกับคาดการณ์อยู่แล้ว โดย 4Q66 คาดโตทั้ง QoQ และ YoY และทำจุดสูงสุดของปี ได้แรงหนุนจากการเข้าสู่ช่วง High Season ของธุรกิจ รวมถึงดอกเบี้ยจ่ายลดลงหลังรีไฟแนนซ์เงินกู้เสร็จสิ้นและต้นทุนค่าไฟต่อหน่วยลดลง