ภูมิธรรม ถก คณะนักธุรกิจ USABC สานต่อการเป็นพันธมิตรทางการค้า

นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ เปิดเผยว่า ได้หารือกับคณะนักธุรกิจ จากสภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (USABC) จำนวน 41 คน จาก 29 บริษัท พร้อมด้วยคณะผู้บริหารของกระทรวงพาณิชย์ โดยคณะนักธุรกิจ USABC นำโดยนายไบรอัน แม็กฟีตเทอร์ส รองประธาน USABC และมีผู้แทนจากบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ อาทิ Agoda Cargill Ford Google Johnson & Johnson และ Philip Morris เข้าร่วมด้วย เพื่อแสดงความยินดีกับการเข้ารับตำแหน่งใหม่ พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนความคิดเห็นถึงแนวทางสนับสนุนนโยบายรัฐบาลชุดใหม่ของไทยในการพัฒนายกระดับเศรษฐกิจไทย 

นายภูมิธรรม กล่าวว่า ไทยและสหรัฐฯ ถือเป็นหุ้นส่วนเชิงยุทธศาสตร์ที่มีความสัมพันธ์อันดีระหว่างกันเสมอมา และได้ใช้โอกาสนี้ ชี้แจงนโยบายด้านเศรษฐกิจการค้าที่สำคัญของไทยแก่นักธุรกิจสหรัฐฯ เพื่อต่อยอดการทำงานร่วมกัน ในประเด็นที่สอดรับกับนโยบายรัฐบาล อาทิ การพัฒนาที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม การส่งเสริมความยั่งยืน พลังงานสะอาด และการสร้างความเติบโตผ่านเศรษฐกิจดิจิทัล นอกจากนี้ ได้เชิญชวนนักธุรกิจสหรัฐฯ เข้าร่วมและสนับสนุนกิจกรรมส่งเสริมการค้าของไทย อาทิ งาน THAIFEX-ANUGA ASIA และ Bangkok Gems & Jewelry Fair รวมทั้งเชิญชวนร่วมลงทุนและพัฒนาอุตสาหกรรมเป้าหมายของไทย และส่งเสริมความร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับภาคธุรกิจไทย โดยเฉพาะการเสริมสร้างขีดความสามารถให้กับ MSMEs

สำหรับนักธุรกิจสหรัฐฯ ได้แสดงความพร้อมที่จะร่วมมือกับไทย โดยบริษัทเทคโนโลยีดิจิทัล พร้อมสนับสนุนรัฐบาลไทยในการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลมาประยุกต์ใช้ในการแก้ปัญหาต่างๆ ในสังคม อาทิ ด้านสาธารณสุข และด้านสิ่งแวดล้อม โดยเฉพาะ Climate Change บริษัทยาและเวชภัณฑ์ จะลงทุนด้านการวิจัยทางคลินิกและโครงการศึกษาทางการแพทย์ในไทยอย่างต่อเนื่อง และให้ความสำคัญกับการส่งเสริมสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญา บริษัทสุราและบุหรี่ พร้อมร่วมมือกับรัฐบาลไทยในการป้องกันและปราบปรามสินค้าสุราและบุหรี่ที่ละเมิดทรัพย์สินทางปัญญา และบริษัทแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง พร้อมสนับสนุนหนังไทยฉายในแพลตฟอร์มสตรีมมิ่ง ซึ่งสอดรับกับนโยบาย Soft power ของไทยทั้งนี้ สภาธุรกิจสหรัฐฯ-อาเซียน (USABC) ได้ก่อตั้งเมื่อปี 2527 โดยมีบริษัทชั้นนำของสหรัฐฯ ที่ประกอบธุรกิจและลงทุนในอาเซียน ซึ่งมีบทบาทสนับสนุนและส่งเสริมความสัมพันธ์ด้านการค้าและการลงทุนระหว่างสหรัฐฯ กับไทยและอาเซียน 

ทั้งนี้ ในปี 2565 สหรัฐฯ เป็นคู่ค้าอันดับ 2 ของไทย รองจากจีน โดยการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ มีมูลค่า 65,277.91 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งสหรัฐฯ เป็นตลาดส่งออกอันดับ 1 ของไทย โดยไทยส่งออกไปสหรัฐฯ มูลค่า 47,534.72 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และเป็นแหล่งนำเข้าอันดับ 3 ของไทย โดยไทยนำเข้าจากสหรัฐฯ มูลค่า 17,743.19 ล้านดอลลาร์สหรัฐ สินค้าส่งออกสำคัญ อาทิ เครื่องคอมพิวเตอร์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ ผลิตภัณฑ์ยาง เครื่องโทรสาร โทรศัพท์ อุปกรณ์และส่วนประกอบ อุปกรณ์กึ่งตัวนำ ทรานซิสเตอร์ และไดโอด และสินค้านำเข้าสำคัญ อาทิ น้ำมันดิบ เครื่องจักรกลและส่วนประกอบ เคมีภัณฑ์ แผงวงจรไฟฟ้า และเครื่องบิน