จุลพันธ์เกาะติดมาตรการพักชำระหนี้ลูกค้ารายย่อยของธ.ก.ส.ในสระบุรี
นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและประธานกรรมการธนาคารเพื่อการเกษตรและสหกรณ์การเกษตร (ธ.ก.ส.) พร้อมด้วยนายยุวพล วัตถุ รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. ลงพื้นที่ติดตามการดำเนินงานเข้าร่วมมาตรการพักชำระหนี้ สำหรับลูกค้ารายย่อยที่มีเงินต้นเป็นหนี้ทุกสัญญารวมกันไม่เกิน 300,000 บาท ณ 30 กันยายน 2566
โดยมีลูกค้า ธ.ก.ส. ที่ได้รับสิทธิ์ตามมาตรการกว่า 2 ล้านราย ยอดหนี้ทั้งหมดจำนวน 283,000 ล้านบาท ซึ่ง ธ.ก.ส. ได้เปิดบูธให้บริการตรวจสอบสิทธิ์และแจ้งความประสงค์เข้าร่วมมาตรการผ่านแอปพลิเคชัน “BAAC Mobile” ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 31 มกราคม 2567
ทั้งนี้ เพื่อติดตามขั้นตอนการปฏิบัติงาน ทั้งการตรวจสอบสิทธิ์ การตรวจสุขภาพหนี้ การทำเอกสารข้อตกลงต่อท้ายสัญญา และการฟื้นฟูศักยภาพในการประกอบอาชีพ ภายใต้หลักการ “ตลาดนำ นวัตกรรมเสริม เพิ่มรายได้” พร้อมเติมสินเชื่อเสริมสภาพคล่องในการประกอบอาชีพ วงเงินไม่เกิน 100,000 บาท เพื่อส่งเสริมให้เกษตรกรมีรายได้เพิ่มขึ้นในระหว่างการพักชำระหนี้และป้องกันการก่อหนี้นอกระบบ โดยมีคณะผู้บริหารและพนักงาน ธ.ก.ส. ในพื้นที่และเกษตรกรลูกค้า เข้าร่วมกิจกรรมกว่า 1,000 คน ณ อำเภอแก่งคอยและอำเภอพระพุทธบาท จังหวัดสระบุรี เมื่อวันที่ 28 ตุลาคม 2566
ด้านนายยุวพล วัตถุ รองผู้จัดการ ธ.ก.ส. เปิดเผยว่า หลังคณะรัฐมนตรีมีมติเมื่อ 26 ก.ย. 2566 ให้ดำเนินมาตรการในการพักชำระหนี้ให้กับเกษตรกรและบุคคลที่มีสถานะเป็นหนี้ปกติและหนี้ค้างชำระ ที่มีต้นเงินคงเป็นหนี้ทุกสัญญารวมกัน ณ 30 กันยายน 2566 ไม่เกิน 300,000 บาท ธ.ก.ส. ได้เปิดระบบการแจ้งความประสงค์และตรวจสอบสิทธิ์ผ่านแอปพลิเคชัน BAAC Mobile ตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2566 – 31 มกราคม 2567 โดยปัจจุบันมีผู้แจ้งความประสงค์แล้วกว่า 880,345 คน (ณ 26 ตุลาคม 2566)
โดยธ.ก.ส. ได้ลงพื้นที่พบปะเกษตรกรและลูกค้ารายย่อยที่เข้าร่วมมาตรการ เพื่อตรวจสอบขั้นตอนและกระบวนการทำงานว่ามีจุดใดที่มีปัญหา เพื่อปรับปรุงให้เกิดความสะดวกรวดเร็ว สำหรับพื้นที่จังหวัดสระบุรี มีเกษตรกรที่ได้รับสิทธิ์ในการเข้าร่วมมาตรการดังกล่าว จำนวนกว่า 11,647 ราย จำนวนหนี้ 1,547 ล้านบาท และมีผู้แจ้งความประสงค์ผ่าน แอปพลิเคชัน BAAC Mobile แล้วกว่า 2,884 ราย (ข้อมูล ณ วันที่ 26 ตุลาคม 2566)
สำหรับการดำเนินมาตรการในครั้งนี้ รัฐบาลให้ความสำคัญกับการเสริมแกร่งให้กับเกษตรกรในการประกอบอาชีพระหว่างการพักหนี้ เพื่อให้เกษตรกรมีรายได้เพียงพอและสามารถชำระหนี้ได้ โดยชูต้นแบบการฟื้นฟูศักยภาพชุมชนอย่างศูนย์การเรียนรู้ตลาดหัวปลี ตลาดชุมชนที่จำหน่ายสินค้าโอทอป (OTOP) ที่มาจากผลิตภัณฑ์จากชาวบ้านในจังหวัดสระบุรี อาทิ อาหารท้องถิ่น ของใช้ ผักพื้นบ้าน และผักปลอดสารพิษ ที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวเข้ามาเดินเล่น ชม ชิม ช้อปสินค้า พร้อมพักผ่อนไปกับบรรยากาศสบาย ๆ ตลอดจนมีการถ่ายทอดองค์ความรู้ในการประกอบอาชีพของเกษตรกรในด้านต่าง ๆ ให้กับผู้ที่สนใจสำหรับการนำไปใช้พัฒนาและต่อยอดการประกอบอาชีพ
จากนั้น เดินทางไปเยี่ยมชมศูนย์เรียนรู้สวนเพิ่มบุญ วิสาหกิจชุมชนภูริธาราพรรณ ที่ประกอบอาชีพผลิตกระชายขาว พันธุ์ท้องถิ่น โดยหันมาเพิ่มมูลค่าผลิตภัณฑ์ ด้วยการแปรรูปเป็นกระชายผงพร้อมดื่มและกาแฟกระชายปรุงสำเร็จโดยใช้วิธีการ Freeze Dried ที่ทันสมัย เพื่อให้ได้สารอาหารในเครื่องดื่มที่สมบูรณ์ที่สุด ลดความเผ็ดร้อนลง และดื่มได้ง่าย
นอกจากนี้ ทางกลุ่มฯ ยังมีการพัฒนาพื้นที่สวนเพิ่มบุญให้เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงเกษตรสมุนไพรและสุขภาพที่เปิดโอกาสให้นักท่องเที่ยวได้เข้ามาเยี่ยมชมและเรียนรู้กระบวนการผลิตที่ได้มาตรฐานและปลอดภัย ซึ่ง ธ.ก.ส. พร้อมสนับสนุนโครงการฟื้นฟูศักยภาพในการประกอบอาชีพ เพื่อร่วมกันพัฒนาและส่งเสริมให้สมาชิกกลุ่มฯ มีรายได้เพิ่มขึ้นในระหว่างการพักหนี้ อันนำไปสู่การแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างยั่งยืน
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.