SCOOP : "เพียว-บุ๋มบิ๋ม" ความฝันสำเร็จได้ด้วยความมุ่งมั่นและพยายาม
ถ้าพูดถึงความฝันแรกของนักกีฬาทุกคน เชื่อได้เลยว่าเกินกว่าครึ่งคือการได้เป็นนักกีฬาทีมชาติ ในบางชนิดกีฬาความฝันนั้นอาจจะสำเร็จได้อย่างรวดเร็ว แต่บางชนิดกีฬาก็ต้องใช้เวลาเพราะมีคู่แข่งมากมายที่ต้องเอาชนะเพื่อก้าวไปติดธงไตรรงค์ลงแข่งขันในฐานะตัวแทนของประเทศ
ขณะที่กีฬาประเภททีม การคัดเลือกทีมชาติคือการนำเอานักกีฬาฝีมือดีจากต่างที่ต่างถิ่นต่างพื้นเพมารวมตัวกัน เพื่อเป้าหมายที่มีร่วมกัน ความยากคือจะทำอย่างไรให้ทุกคนมองภาพเดียวกันในการไปให้ถึงผลลัพธ์ที่ตั้งใจเอาไว้
วอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย คือตัวอย่างที่ดีสำหรับการผสมองค์ประกอบที่แตกต่างให้เข้ากันอย่างลงตัว ด้วยความรักในกีฬาประเภทเดียวกัน และความฝันที่มีร่วมกัน ทำให้เป็นแรงขับเคลื่อนซึ่งกันและกัน ดังนั้นคนที่จะมาเล่าเรื่องนี้ได้ดีที่สุด คงเป็นใครไปไม่ได้ ถ้าไม่ใช่ "เพียว" อัจฉราพร คงยศ และ "บุ๋มบิ๋ม" ชัชชุอร โมกศรี สองนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทย
ความฝันส่วนตัว ที่สำเร็จแบบไม่ตั้งตัว
ไม่ว่าใครก็ตามที่เคยเล่นกีฬาอย่างจริงจังในวัยเด็ก คงจะมีไอดอลส่วนตัวในกีฬาที่ตัวเองเล่น จากการได้ตามดู ตามเชียร์ ในทัวร์นาเมนต์ต่าง ๆ โดยเฉพาะมหกรรมกีฬานานานาชาติ ซึ่งกลายเป็นแรงบันดาลใจชั้นดีที่ทำให้เกิดความฝันง่าย ๆ ที่ทำได้ยากคือคำว่า "นักกีฬาทีมชาติไทย" ไม่ต่างจาก "เพียว" และ "บุ๋มบิ๋ม" แต่สิ่งที่ต่างคือความฝันแรกของพวกเธอมาถึงอย่างรวดเร็ว
"ความฝันแรกของหนูตอนที่เริ่มเล่นกีฬาวอลเลย์บอลคือฝันว่าอยากจะติดทีมชาติ แต่ตอนที่ติดทีมชาติครั้งแรกรู้สึกงง ๆ นิดหนึ่งว่า อ้าว นี่ติดทีมชาติแล้วเหรอ แล้วพอได้มาอยู่กับพวกพี่ ๆ ได้มาคลุกคลีกับพวกเขาก็รู้สึกว่า มันก็ดีนะ พอหลัง ๆ มาก็รู้สึกดีใจว่า เราได้ติดทีมชาติแล้วนะ เราเริ่มมีชื่อเสียงขึ้นมา คนเริ่มรู้จักแล้วนะ" บุ๋มบิ๋ม ย้อนความหลังให้ฟังด้วยรอยยิ้ม
ต่างจากเพียวที่เมื่อความฝันสำเร็จกลับกลายเป็นแรงกดดัน แต่ก็ช่วยให้ไม่หยุดพัฒนาตัวเอง "ความฝันแรกของหนูก็ไม่ต่างกัน ก็คือการติดทีมชาติ แต่ตอนที่ทำได้สำเร็จ ไม่รู้สึกดีใจ เพราะรู้สึกว่าเรายังเก่งไม่พอ ยังดีไม่พอ ยังไม่ถึงเวลาของเรา ทำให้อยากพัฒนาตัวเองให้ดีขึ้น เพื่อก้าวเข้ามาเป็นทีมชาติได้อย่างที่ตัวเองภาคภูมิใจ แบบ เออเราพร้อมที่จะเป็นทีมชาติชุดใหญ่แล้วจริง ๆ นะ ในวันที่เราโตขึ้นทั้งทางร่างกาย, จิตใจ และศักยภาพ"
พลังขับเคลื่อนไปสู่ฝัน
ความฝันแรกของพวกเธอสำเร็จได้อย่างรวดเร็วก็จริง แต่ก่อนจะถึงวันนั้นไม่ใช่เรื่องง่าย เช่นเดียวกับทุกวันนี้ที่ยังต้องมุ่งมั่นทุ่มเทต่อไป แล้วอะไรคือพลังผลักดันให้พวกเธอทำสิ่งนั้นอย่างไม่ย่อท้อ คำตอบไม่ใช่เรื่องที่เดายากอะไร รวมทั้งยังเป็นสิ่งที่ผลักดันชีวิตของทุกคน นั่นก็คือ "ครอบครัว"
"สำหรับตัวหนูทุกวันนี้มีความสุขอยู่แล้ว แต่เราอยากให้คนที่เรารักมีความสุขด้วย ทำให้ต้องอดทนแล้วก็สู้ต่อไป" บุ๋มบิ๋ม พูดถึงพลังขับเคลื่อนของตัวเอง
"ของหนูก็ครอบครัวเหมือนกันค่ะ แล้วก็คนที่เรารัก แล้วก็ตัวเราเองค่ะ เพราะว่า กว่าที่เราจะขึ้นมาเป็นทีมชาติได้มันต้องใช้ความอดทนแล้วก็ความพยายามอย่างหนักมาก ๆ แล้วต้องจากบ้าน จากครอบครัว ต้องมาอยู่ต่างที่ เราก็เลยอยากทำให้คนที่อยู่ข้างหลังเรามีความสุข และภูมิใจกับเรา" เพียว เห็นด้วยกับคำตอบของเพื่อนร่วมทีม พร้อมเสริมรายละเอียดจากประสบการณ์ตรง
ขณะเดียวกัน พลังขับเคลื่อนอย่างเดียวอาจไม่เพียงพอให้เข้าใกล้ความฝัน แต่ต้องมีเครื่องยนต์ที่นำเอาแรงผลักดันนั้นมาเป็นเชื้อเพลิงเพื่อพุ่งสู่เป้าหมายเปลี่ยนฝันให้กลายเป็นความจริง ซึ่งไม่จำเป็นว่าต้องจำกัดแค่ใครคนหนึ่ง แต่ทุกคนทำได้เหมือน ๆ กัน เพียงแค่อย่าท้อ หรือล้มเลิกกลางทาง
"แน่นอน หนูว่าทุกคนทำได้ ถ้าเรามีความฝัน หนูว่าเราทำได้แน่นอน ทุก ๆ ความสำเร็จต้องใช้ความพยายามมาก ๆ แล้วก็ใช้ความอดทนสูงมากค่ะ ถ้าสมมติว่าเราท้อ ความฝันนั้นจะไม่สำเร็จเลย" บุ๋มบิ๋ม ตอบด้วยสายตาเชื่อมั่น
"แล้วก็ต้องมีความมุ่งมั่นอีกอย่างหนึ่งค่ะ คือทุกคนมีฝันทุกคนก็ต้องมุ่งมั่นที่จะไปให้ถึงฝันให้ได้ ท้อได้ แต่อย่าเพิ่งถอย อย่าเพิ่งรีบถอนใจ อย่าเพิ่งรีบถอดใจ อยากให้สู้เพื่อที่จะไปให้ถึง" เพียว ให้กำลังใจคนที่กำลังไล่ตามความฝัน
ชีวิตที่มาเกินฝัน
คำว่าไปให้ไกลกว่าฝัน สำหรับหลาย ๆ คน คือความมุ่งมั่นที่จะไปให้ไกลขึ้น ขึ้นไปให้สูงขึ้น แต่สองนักกีฬาวอลเลย์บอลหญิงทีมชาติไทยมองว่าตัวเองมาไกลกว่าจุดนั้นมาก ๆ แล้ว ณ ปัจจุบัน
เรื่องนี้ บุ๋มบิ๋ม เล่าว่า "สำหรับตัวหนู การได้ติดทีมชาติมันคือความฝันในตอนเด็ก ตอนนี้มันมาไกลกว่าฝันหนูมาก เพราะว่า ตอนเด็ก ๆ เราก็คิดแค่ว่า ก็แค่เล่นวอลเลย์แล้วก็ติดทีมชาติแค่นั้น แต่เราไม่เคยรู้ว่า การติดทีมชาติเราได้อะไรกลับมาบ้าง เราได้ชื่อเสียงเพราะมีคนรู้จักเราเยอะ อีกอย่างก็คือเราได้ไปเที่ยวเกือบรอบโลก มันเหมือนเป็นการผจญภัย มีอะไรที่ท้าทายเราอยู่ตลอดเวลา ทำให้เราตื่นเต้นอยู่ตลอดเวลา และมันทำให้เราได้เรียนรู้สิ่งใหม่ ๆ อยู่ตลอดเวลา"
ขณะที่ เพียว ตอบด้วยความรู้สึกเดียวกัน "สำหรับหนูตอนนี้นะคะ ถามว่าเกินฝันมั้ย มันก็แอบเกินกว่าที่เราคิดไว้เยอะพอสมควร มีทุกวันนี้ได้มันก็ไกลมาก ๆ แล้ว มันก็เหมือนการเปิดโลกของเราเลยค่ะ พูดง่าย ๆ ถ้าเกิดเราเป็นเด็กธรรมดา เราคงไม่มีโอกาสที่จะได้เดินทางไปต่างประเทศหลาย ๆ ประเทศ ได้ไปพบเจอผู้คนที่ทั้งต่างถิ่น ซึ่งอันนี้คือเรื่องเกินฝันที่เราวาดไว้อยู่แล้ว แล้วทุกวันนี้ ทุกคนให้ความรักให้ความอบอุ่นกับพวกเรามาก มากกว่าที่เราคิดว่าเราจะได้ รู้สึกว่าอันนี้มันเป็นสิ่งที่แบบ เกินสิ่งที่เราคาดไว้มาก ๆ ค่ะ"
อย่างไรก็ตามระหว่างทางไปสู่ฝันย่อมต้องเจออุปสรรค และเสียงวิจารณ์คือสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ ยิ่งเป็นกีฬายอดนิยมอย่างวอลเลย์บอลแล้วจำนวนคำวิจารณ์ยิ่งทวีคูณ แต่ด้วยประสบการณ์ทำให้พวกเธอผ่านพ้นมาได้อย่างน่าชื่นชม
บุ๋มบิ๋ม คือหนึ่งในคนที่เจอกับคำวิจารณ์มากมาย เปิดเผยเคล็ดลับในการรับมือกับเรื่องนี้ว่า "ตอนเด็กหนูโดนมาเยอะมากจนวันหนึ่งเสียงวิจารณ์เหล่านี้มันกลายเป็นเสียงที่เราไม่ได้ยินไปแล้ว ไม่ใช่ว่าเราเหลิง แต่เราคิดว่ามันเป็นเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ ไปแล้ว เหมือนแต่ก่อนที่เราเป็นเด็กยังรับมือกับมันไม่ได้ ก็รู้สึกว่ามันเป็นปัญหาใหญ่ในชีวิตมาก แต่พอโตขึ้นมาแฟน ๆ หลาย ๆ คนให้ความรักความอบอุ่นกับพวกเรามาก ๆ ๆ มากจนเราไม่ได้ยินเสียงเล็ก ๆ น้อย ๆ พวกนั้น มันก็เลยกลายเป็นรู้สึกว่าไม่ได้สนใจอะไรมากแล้ว ให้โฟกัสกับคนที่รักเราดีกว่า
"เราก็โฟกัสกับคนที่รักเรา คนที่หวังดีกับเรา คนที่เขาเห็นการเติบโตของเรามากกว่า ก็รู้สึกขอบคุณทุก ๆ คน" เพียวที่เป็นอีกหนึ่งคนที่ต้องเจอกับเสียงวิจารณ์ ใช้วิธีรับมือคล้าย ๆ กัน
ฝันร่วมกัน ไปได้ไกล
ความยากของกีฬาประเภททีมคือเมื่อมีเป้าหมาย ทุกคนต้องเห็นภาพเดียวกัน แต่กับวอลเลย์บอลแล้วเรื่องนี้ไม่ต้องเสียเวลาในการปรับตัวอะไรกันเลยแม้แต่น้อย เพราะเป้าหมายใหญ่สุดคือสิ่งที่ทุกคนรับรู้ร่วมกันทั้งประเทศ
"เพราะว่าความฝันในใจของทุกคนในตอนนี้ก็คือการไปโอลิมปิก แล้วเราทุกคนต่างไม่หยุด ไม่หยุดที่จะพัฒนาตัวเอง ไม่หยุดที่จะเดินตามฝัน มันก็เลยทำให้เรารู้ว่าเป้าหมายของเราคืออะไร แล้วเราก็พยายาม พยายามมาก ๆ เพื่อที่จะไปให้ได้" เพียว เริ่มก่อน
"เราทุกคนต่างมีใจรักในวอลเลย์บอลด้วย มันก็เลยเกิดความที่แบบว่า ฉันจะต้องทำมันให้ได้ในสักวันหนึ่ง" บุ๋มบิ๋ม เติมคำตอบจนสมบูรณ์แบบ
ขณะเดียวกันหลังจากจบศึกสำคัญอย่างการคัดเลือกโอลิมปิก 2024 ทัพวอลเลย์บอลสาวไทยเจอศึกใหญ่ต่อเนื่องนั่นก็คือเอเชียนเกมส์ ที่พวกเธอเป็นรองแชมป์คราวที่แล้ว
"เป้าหมายแรกก็คือเข้ารอบ 4 ทีมค่ะ เพราะว่าการแข่งขันเอเชียนเกมส์ก็เป็นแมตช์ที่ใหญ่มาก ๆ ของเราเหมือนกัน เป้าหมายแรกเลยก็คือการเข้ารอบ 4 ทีมสุดท้ายให้ได้ค่ะ" เพียวเผยเป้าหมายเบื้องต้นในหางโจวเกมส์
การจะไปให้ถึงฝัน หรือไปให้ไกลกว่านั้น ต้องใช้หลายองค์ประกอบร่วมกัน เริ่มจากความมุ่งมั่นทุ่มเทและพยายาม พร้อมด้วยพลังขับเคลื่อนจากตัวเองและคนรอบข้าง และสำหรับศึกคัดเลือกโอลิมปิก รวมทั้งเอเชียนเกมส์ ครั้งที่ 19 "หางโจว 2022" ณ เมืองหางโจว สาธารณรัฐประชาชนจีน ระหว่างวันที่ 23 กันยายน ถึง 8 ตุลาคมนี้ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรเชื่อได้เลยว่าแฟนกีฬาชาวไทยจะยังคงสนับสนุนและให้กำลังใจพวกเธอต่อไปอย่างแน่นอน
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.