เฉลยแล้ว! ทำไม "ลูกบาสเกตบอล" ถึงเป็นสีส้ม?

หากพูดถึงกีฬา "บาสเกตบอล" หลายคนคงจะคุ้นเคยกันดี เพราะกีฬาชนิดนี้มีเอกลักษณ์เฉพาะตัวที่ไม่เหมือนใคร และนับว่าเป็นกีฬาอีกชนิดหนึ่งที่เป็นที่นิยมในหลายประเทศทั่วโลก

สำหรับจุดเริ่มต้นของกีฬาชนิดนี้ ต้องย้อนไปถึจุดกำเนิดที่เมืองสปริงฟีลด์ รัฐแมสซาชูเซตส์ ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อปี 1891 โดย ดร.เจมส์ เนสมิธ อาจารย์พละศึกษาของโรงเรียนคนงานคริสเตียน ต้องการให้มีการแข่งขันกีฬาในร่มช่วงฤดูหนาว เนสมิท จึงตั้งใจที่จะสร้างเกมขึ้นที่ชั้นเรียน และนำ 'Duck on a Rock’ เกมความทรงจำในวัยเด็กของตน มาดัดแปลงในเกิดการใช้ทักษะมากยิ่งขึ้น และกำหนดหลักการเล่นจำนวน 13 ข้อ จนได้กลายมาเป็นเกมกีฬาบาสเกตบอล ที่เรารู้จักกันดีในปัจจุบัน ซึ่งสิ่งสำคัญของการเล่นกีฬาบาสเกตบอล คือ ผู้เล่น และ ลูกบาสเกตบอล
แน่นอนว่าผู้เล่นมักจะเปลี่ยนไปตามกาลเวลา แต่ลูกบาสเกตบอลไม่ว่าจะอยู่ในยุคสมัยไหน ก็ยังคงมี "สีส้ม" อันเป็นเอกลักษณ์ และแตกต่างจากกีฬาชนิดอื่นๆทั่วโลก จนเกิดเป็นคำถามว่า "ทำไมลูกบาสเกตบอลถึงต้องเป็นสีส้มมาทุกยุคทุกสมัย?" พื้นที่ตรงนี้เราไปหาคำตอบพร้อมๆกัน

ลูกบาสเกตบอล ถูกผลิตขึ้นครั้งแรกในปี 1894 โดยบริษัท Spalding & Bros และใช้หนังสัตว์เป็นวัสดุภายนอก ดังนั้น ในช่วงแรกลูกบาสไม่ได้มีสีส้ม แต่มีสีน้ำตาลเข้มตามสีของหนังสัตว์ ที่เป็นวัสดุหลักในการผลิตลูกบาสเกตบอลในยุคนั้น และนั่นจึงเป็นสาเหตุให้ลูกบาสเกตบอลในช่วงแรก มีหน้าตาคล้ายกับลูกฟุตบอลอย่างมากจนแทบแยกไม่ออก โดยต่อมาในปี 1950 กีฬาบาสเกตบอลได้รับความนิยมพุ่งสูงขึ้น และได้มีการเปลี่ยนดีไซน์ลูกบาสเกตบอลหลายครั้ง
ถึงแม้ว่าสีน้ำตาลจะเป็นเอกลักษณ์ของลูกบาสเกตบอล แต่ผู้ชมส่วนใหญ่พูดเป็นเสียงเดียวกันว่า มองเห็นยากเกินไป รวมถึงตัวนักบาสเองก็ประสบปัญหานี้เช่นเดียวกัน หลังจากนั้น โทนี ฮิงเกิล ผู้ฝึกสอนบาสเกตบอลประจำมหาวิทยาลัยบัตเลอร์ ได้นำไอเดียไปพูดคุยกับบริษัท Spalding เพื่อพัฒนาลูกบาสแบบใหม่ โดยสีที่ได้ คือ สีส้ม เนื่องจากสีส้มเป็นสีที่สะดุดตา เพื่อให้ผู้เล่นและผู้ชมสามารถมองเห็นลูกบาสได้ง่ายยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ สีส้ม ยังเป็นสีที่ใกล้เคียงกับสีน้ำตาลของพื้นสนาม ซึ่งจะช่วยถนอมสายตา และลดอาการตาล้าของทั้งตัวนักกีฬาและผู้ชมได้ ส่วนที่มีลายเส้นสีดำตัดนั้น ก็เพื่อให้สะดุดตา และง่ายต่อการตัดสิน เนื่องจากบาสเกตบอลเป็นกีฬาที่มีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็ว หากลูกบาสใช้สีที่ตัดกับสนามโดยตรง อาจทำให้นักกีฬาเกิดอาการตาล้า ปวดศีรษะ เห็นภาพซ้อน และอาจส่งผลทำให้เกิดอุบัติเหตุได้นั่นเอง
แม้ NBA จะเลือกใช้ลูกบาสเกตบอลสีส้ม แต่ก็ใช้ว่าทุกลีกบนโลกนี้จะใช้ลูกบาสสีส้ม เพราะ American Basketball Association หรือ ABA ซึ่งเป็นลีกบาสเกตบอลที่ก่อตั้งขึ้นเพื่อเป็นคู่แข่งของ NBA เมื่อปี 1967 ปฏิเสธการใช้ลูกบาสสีส้ม และหันมาใช้ลูกบาสที่มีสีแดง-ขาว-น้ำเงิน ซึ่งเป็นสีธงชาติสหรัฐอเมริกา เพื่อเน้นย้ำความเป็นอัตลักษณ์ของ ABA ที่เป็นลีกบาสเกตบอลของชาวอเมริกันได้เป็นอย่างดี แต่ไม่นานลูกบาสสีนี้ก็ไม่สามารถต้านทานความนิยมของ NBA ได้ ก่อนถูกยกเลิกใช้ในปี 1978
นับตั้งแต่นั้นมา ลูกบาสเกตบอลทั่วโลกต่างก็ใช้สีส้มทั้งหมด แม้การแข่งขันในบางประเทศจะนำสีอื่นมาใช้บ้าง เช่น สีขาว ที่ฟิลิปปินส์และตุรกี, สีดำ ที่สเปน และ สีฟ้า ที่รัสเซีย แต่ทั้งหมดก็ยังคงยึดสีส้มเป็นหลัก นั่นจึงทำให้สีส้มกลายมาเป็นสีของลูกบาสเกตบอลตั้งแต่อดีตจนถึงปัจจุบันในที่สุด

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.