มีวิธีอื่นมั้ย? อดีตนักกีฬาญี่ปุ่นชี้ "มิยาตะ" ถูกตัดจากทีมโอลิมปิกเหมือนโดนซ้ำ (ภาพ)

จากกรณีที่กลายเป็นข่าวดังไปทั่วโลกเมื่อ สมาคมยิมนาสติกแห่งญี่ปุ่น (JGA) ออกแถลงข่าวว่า โชโกะ มิยาตะ นักยิมนาสติกสาวทีมชาติญี่ปุ่น ตัดสินใจขอถอนตัวออกจากการเข้าร่วมแข่งขันโอลิมปิกเกมส์ 2024 ที่กรุงปารีส ประเทศฝรั่งเศส

โดย นักกีฬาสาววัย 19 ปี จากมหาวิทยาลัยจุนเทนโด ละเมิดหลักปฏิบัติสำหรับทีมชาติ หลังถูกพบว่าเธอนั้นแอบสูบบุหรี่ และดื่มแอลกอฮอล์ ในการเข้าเก็บตัวทีมชาติ ก่อนที่ในเวลาต่อมาเธอจะออกมายอมรับว่ากระทำจริง และได้ขอถอนตัวออกจากทีม

อย่างไรก็ตาม ได ทาเมซึเอะ อดีตนักกีฬาวิ่งข้ามรั้ว 400 เมตร ที่เคยร่วมแข่งขันในกีฬาโอลิมปิก 3 ครั้ง ได้ออกมาคัดค้านเรื่องนี้ พร้อมชี้แม้ว่าการกระทำของ มิยาตะ จะมีปัญหา แต่เธอก็ไม่ควรถูกถอดออกจากทีม รวมทั้งเผยมุมมองเกี่ยวกับเรื่องนี้ว่าสมาคมไม่ควรทอดทิ้งเธอในวันที่ต้องเจอปัญหา

"ผมไม่รู้ว่าเธอตัดสินใจลาออกด้วยตัวเอง หรือถูกผู้ใหญ่บีบบังคับขอให้ทำเช่นนั้น แต่เมื่อคิดถึงสถานะของนักกีฬา ผมคิดว่ามันเป็นเรื่องที่เจ็บปวดมาก และหวังว่าสมาคมจะหาทางออกให้เธอได้กลับมามีส่วนร่วมได้"

"จริงอยู่หลักปฏิบัติสำหรับนักกีฬาทีมชาติญี่ปุ่น แม้ว่าบุคคลนั้นจะมีอายุเกิน 20 ปี แต่ก็มีกฏห้ามดื่มแอลกอฮอล์ ซึ่งผมอยากให้ สมาคมยิมนาสติกแห่งญี่ปุ่น ได้พิจารณาเรื่องนี้ใหม่อีกครั้ง ไม่ใช่ว่าพอเธอประสบความสำเร็จพวกคุณชื่นชมเธอ แต่พอเกิดปัญหาพวกคุณกลับผลักเธอพ้นทีม"

พร้อมกันนี้ อดีตนักกีฬาวัย 46 ปี ยังได้เสนอมุมมองของเรื่องนี้ทั้งหมด 3 ด้าน ว่า "จากมุมมอง 3 ด้าน ผมเชื่อว่าเราควรใช้โอกาสนี้สร้างสังคมที่สนับสนุนเด็กวัยรุ่นด้วยความรัก ขณะเดียวกันก็สามารถตำหนิพวกเขาได้เมื่อพวกเขาสร้างปัญหา"

"ประเด็นแรกคือไม่ควรใช้กฎเกณฑ์ในทางกลไกเพื่อทำให้เธอรู้สึกอับอาย และเป็นเหมือนการข่มขู่ให้นักกีฬารายอื่นไม่กระทำแบบเธอ"

"ประเด็นที่สองคือ สมองของวัยรุ่นแตกต่างจากสมองของผู้ใหญ่ ฉันคิดว่าผู้ใหญ่ควรสนับสนุนให้พวกเขาใช้สิ่งนี้เป็นโอกาสในการเรียนรู้ไม่ใช่ตัดโอกาสทิ้งทันที"

''ประเด็นที่สาม ก็คือ ผมเชื่อว่าคนเราสามารถเปลี่ยนแปลงได้ตามประสบการณ์ส่วนตัวของพวกเขา อย่างในกรณีของผมสมัยเด็ก ผมเคยย้อมสีผม, เจาะหู ซึ่งเป็นเรื่องหายากในสมัยนั้นเนื่องจากจะถูกมองว่าเป็นมีพฤติกรรมที่ไม่ดี และเมื่อถึงตอนนี้เมื่อมองย้อนกลับไปผมมองว่าทั้งหมดที่ผมทำเป็นเพราะผมยังไร้เดียงสา"

"ตอนที่ผมเป็นวัยรุ่น ผมทำเรื่องโง่ๆ มากมาย แต่ผมคิดว่าผมสามารถเปลี่ยนแปลงมันได้ด้วยแรงสนับสนุนจากผู้ใหญ่ที่อยู่รอบตัว วัยรุ่นเป็นวัยที่ไม่มั่นคง อย่างไรก็ตามผู้ใหญ่ที่ผ่านช่วงเวลาวัยรุ่นมาแล้ว จะสามารถช่วยพวกเขาได้มากกว่าที่จะมุ่งสนใจแต่ปัญหาของเด็กเท่านั้น ผมคิดว่ามันคงจะดีกว่าถ้าสังคมของเราเชื่อมั่นในเรื่องนี้" ได ทาเมซึเอะ กล่าว

Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.