ภารกิจใหญ่ แพทองธาร (ว่าที่)หัวหน้าเพื่อไทย กับ เสียงสะท้อน 2เดือน เศรษฐา

พรรคเพื่อไทย นัดประชุมใหญ่วิสามัญ เลือกหัวหน้าพรรค กรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ วันที่ 27ต.ค.  อุ๊งอิ๊งค์-‘แพทองธาร ชินวัตร’ ไร้คู่แข่ง นอนมาเป็นหัวหน้าพรรคนใหม่ ‘สรวงศ์ เทียนทอง’ เป็นเลขาธิการพรรค 

กรรมการบริหารพรรค ตำแหน่งสำคัญๆ มีส่วนผสม ผู้มีประสบการณ์ คนรุ่นใหม่ ‘ชูศักดิ์ ศิรินิล’ มือกฎหมายของพรรค หนิม-‘จุลพันธ์ อมรวิวัฒน์’ รมช.คลัง บุตรชาย ‘สมพงษ์ อมรวิวัฒน์’ อดีตหัวหน้าพรรค น้ำ-‘จิราพร สินธุไพร’ สส.ร้อยเอ็ด มาเป็น รองหัวหน้าพรรค บรู๊ค-‘ดนุพร ปุณณกันต์’ ทำหน้าที่ โฆษกพรรคเพื่อไทย 

คาดการณ์โครงสร้าง โฉมหน้าใหม่ ภายใต้การนำของ แพทองธาร  

‘เศรษฐา ทวีสิน’ นายกรัฐมนตรีและรมว.คลัง หลังจาก บริหารงานได้ประมาณ 2 เดือน ประกาศทำงาน ไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย ลุยงานทั้งในประเทศ ต่างประเทศ แทบไม่ว่างเว้นวันหยุด สานต่อนโยบายรัฐบาล โดยเฉพาะ โครงการแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 1 หมื่นบาท ประกาศเดินหน้าต่อ ไม่เปลี่ยนแปลง แม้จะมีเสียงท้วงติง แหล่งที่มาของเงิน ที่มากถึง 5.4 แสนล้าน ไม่ให้ ผิดเงื่อนไขจากกกต. สัญญาว่าจะให้ และบรรดานักตรวจสอบทั้งหลาย ต่างเพ็งเล็งทุกฝีก้าว  

‘แสวง บุญมี’ เลขากกต. ระบุว่า "..การแจกเงินในกระเป๋าเงินดิจิทัล 10,000 บาท ให้กับคนไทยอายุ 16 ปีขึ้นไป  เป็นนโยบายที่ใช้งบประมาณแผ่นดินอยู่แล้ว หากได้ไปเป็นรัฐบาล นโยบายลักษณะนี้ จะไม่ผิดกฎหมาย สัญญาว่าจะให้"

ในวันที่นำงบประมาณแผ่นดิน มาใช้ก็ไม่มีปัญหาให้ถูกตีความ เอาผิด แต่เนื่องจากตอนนี้ งบประมาณ2567 ยังไม่ผ่านสภา ครั้น แนวคิดรัฐบาล หากจะกู้เงินจากธนาคารออมสิน หรือ จะออกพันธบัตร อาจถูกตีความทางกฎหมาย สัญญาว่าจะให้ อันอาจส่งผลกระทบไปถึง หัวหน้ารัฐบาล เศรษฐา รวมทั้ง คณะรัฐมนตรี สุ่มเสี่ยง มีความผิดทางกฎหมาย 

การเดินทางไปยังต่างประเทศ กระชับสัมพันธ์ สวมบทบาท เซลส์แมน นำสินค้า บริการ เป็นตัวกลางเชื่อมโยง จับคู่ เอกชนกับเอกชน การชักชวนให้มา ลงทุน หวัง ยกระดับเศรษฐกิจให้ไทย ไปพร้อมกับการชูเมกะโปรเจก ‘แลนด์บริดจ์’ พร้อมมาตรการต่างๆจูงใจ โน้วน้าม ถูกตั้งคำถาม ในยุคสมัยที่เปลี่ยนไป การพูดถึงโครงการลักษณะดังกล่าวมีมาช้านาน ความคุ้มค่า ผลกระทบทางเศรษฐกิจ ความสัมพันธ์ของ 2 ชาติมหาอำนาจโลก เรื่องละเอียดอ่อน จึงทำให้โครงการ แลนด์บริดจ์ หรือ คอคอดกระ อยู่แค่ในชั้น ศึกษาความเป็นไปได้ แต่ไม่เคยผลักดัน เป็นรูปธรรม ออกมาได้เลย

ช่องว่างระหว่าง สส. กับ นายกรัฐมนตรี ยามลงพื้นที่ปฏิบัติภารกิจ ในมุมมอง นักเลือกตั้ง เฝ้าจับอาการ ปฏิกิริยาทั้งในช่วงพบปะชาวบ้าน ผู้นำชุมชน ข้าราชการ หรือแม้แต่สส. สมาชิกพรรคเอง ตั้งวงวิเคราะห์ เศรษฐา ที่บางคนอยากให้หันมาสวมหมวก นักการเมืองผู้เฟรนด์ลี่ มากกว่า สวมบทบาท ซีอีโอผู้เคร่งขรึม   

แต่ไม่ว่าอย่างไร การขยับการเข้ามามีบทบาท แพทองธาร นอกพรรค ได้รับการแต่งตั้ง มอบหมายงานที่สำคัญอย่างต่อเนื่อง

แพทองธาร ชินวัตร ได้รับการแต่งตั้งเป็น รองประธานกรรมการซอฟต์พาวเวอร์แห่งชาติ ที่หวังนำเอาของดีของไทย ไม่ว่าจะเป็นสินค้า วัฒนธรรม ประเพณี ละคร ภาพยนต์ เพลง กีฬา อาหาร ฯ ไปสู่สายตาโลก ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น แปลงเป็น เม็ดเงิน ไหลกลับเข้าประเทศ

แพทองธาร เพิ่งได้รับมอบหมายจาก นายกฯ แต่งตั้งเป็น ประธานคณะกรรมการบริหารการพัฒนาระบบสุขภาพแห่งชาติ ขับเคลื่อน บูรณาการทำงาน ยกระดับสุขภาพคนไทย โดยมีภารกิจสำคัญ ไม่ว่าจะเป็น พัฒนาระบบฐานข้อมูลผู้ป่วย สู่ระบบดิจิทัล เพื่อความสะดวกรวดเร็วในการรักษา ผ่านการยื่นบัตรประชาชนใบเดียว เพื่อร่วมสร้างระบบสาธารณสุขให้มีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น

เป็นบทบาทนอกพรรค แต่เรื่องที่รับผิดชอบ ล้วนเป็น เรื่องใหญ่ ที่ต้องลงมือปฏิบัติอย่างจริงจัง หากหวังผลไปสู่ การเปลี่ยนแปลงที่ดีขึ้น 

บทบาทในพรรค แพทองธาร เข้าร่วมประชุมกับ คณะกรรมการชุดสำคัญๆ มีผลต่อการกำหนดทิศทาง แนวทางพรรค อยู่บ่อยครั้ง เรียนรู้ ร่วมทำงานกับ บุคคลากรการเมือง ที่มีทั้ง ทีมงานมันสมอง เคยร่วมงานมาตั้งแต่ยุคไทยรักไทย ในช่วง ทักษิณ ชินวัตร เป็นหัวหน้าพรรค และทีมงานคนรุ่นใหม่ ทายาทนักการเมือง ผสมผสาน ทำงานกับคนทั้ง 2 เจนเนอเรชั่นสำคัญ ที่มีผลต่อพรรค 

ในวันประชุมสส.พรรคเมื่อวันที่ 24ต.ค. แพทองธาร พูดในที่ประชุมตอนหนึ่งว่า 

“เวลา 9.30 น. วันที่ 27 ต.ค. จะมีการประชุมใหญ่วิสามัญพรรค ขอให้ทุกท่านมากัน อยากจะพูดถึงเรื่องความเปลี่ยนแปลงภายในพรรค 
....อยากทำให้พรรคเพื่อไทย มีการหาความรู้อยู่เรื่อยๆ เสมอในทุกด้าน ทั้งด้านที่เราถนัดและไม่ถนัด ในโอกาสที่พรรค เป็นพรรคจัดตั้งรัฐบาล อยากได้ความร่วมมือจากพรรคร่วมรัฐบาลในการมาให้ความรู้ในแต่ละด้านเช่นกัน เพราะบางคนอาจไม่ได้มีความรู้ในกระทรวงมากนัก ฉะนั้นเรามาแบ่งปันความรู้ความสามารถ และคิดว่าหลายคนที่อยู่ในกระทรวงต่างๆ อยากจะเรียนรู้ร่วมกัน จุดนี้เป็นจุดที่อยากจะส่งเสริม”

27ต.ค. ไม่ใช่เพียงแค่ การก้าวขึ้นมารับตำแหน่งหัวหน้าพรรคเพื่อไทย อย่างเป็นทางการ แพทองธาร ชนิดนอนมา ไร้คู่แข่งแล้ว บทบาทหลังจากนั้น น่าจับตายิ่ง การเตรียมปักหมุดลงพื้นที่ สลับกับ เศรษฐา ในห้วงวันหยุดราชการ เพื่อสัมผัสกับชีวิตประชาชน ขับเคลื่อนซอฟต์พาวเวอร์ ไปพร้อมกับการเช็กฐานเสียง สำรวจคะแนนนิยม 

นับจาก แพทองธาร ตัดสินใจ เข้าสู่การเมืองเต็มตัว มีแบ๊กอัพคนในครอบครัวสนับสนุนอย่างเต็มที่ บทบาท เพื่อไทย ภายใต้ การควบคุม สั่งการ แพทองธาร ขับเคลื่อนงานในพรรค งานนอกพรรค เป็นการซักซ้อม ทำงานใหญ่ เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลง ก้าวขึ้นสู่ตำแหน่งใหญ่กว่า ในอนาคต ไปพร้อมกับ ทวงความยิ่งใหญ่เพื่อไทย ให้ยืน1 บนเวทีเลือกตั้งอีกครั้ง