รัฐจ่อฟื้นโครงการช่วยค่าน้ำมันวินมอเตอร์ไซค์รับจ้าง ลดภาระประชาชน
นายประเสริฐ สินสุขประเสริฐ ปลัดกระทรวงพลังงาน กล่าวว่า จากการที่ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน มอบหมายให้กรมธุรกิจพลังงาน จัดทำแผนช่วยเหลือกลุ่มผู้ใช้น้ำมันเบนซิน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ภายหลังที่ดำเนินการลดราคาน้ำมันดีเซลเหลือลิตรละ 29.94 บาท โดยใช้วิธีลดภาษีสรรพสามิตน้ำมันดีเซลลิตรละ 2.50 บาท และใช้กลไกกองทุนน้ำมันเชื้อเพลิง ดูแลด้านราคาร่วมด้วยไปแล้ว
อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ กรมธุรกิจพลังงาน ได้ส่งแผนช่วยเหลือมาให้เรียบร้อยแล้ว โดยจะมุ่งเป้าไปช่วยเหลือกลุ่มมอเตอร์ไซค์รับจ้างในลักษณะเดียวกับ “โครงการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน สำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ” เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายของผู้ประกอบอาชีพในภาคขนส่ง โดยให้ส่วนลดราคาน้ำมันกลุ่มเบนซินแก่ผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะ (รถมอเตอร์ไซค์รับจ้าง) ที่มีใบอนุญาตขับรถจักรยานยนต์สาธารณะที่จดทะเบียนเป็นผู้ขับขี่จักรยานยนต์รับจ้างกับกรมการขนส่งทางบก
"จากที่กระทรวงพลังงานได้ดำเนินมาตรการช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางในเฟสแรกไปแล้ว จึงถือว่ามีประสบการณ์และได้เห็นอะไรหลายอย่าง ดังนั้น ในการพิจารณาใช้มาตรการโครงการวินเซฟในครั้งนี้ อาจจะไม่แตกต่างจากครั้งแรกมากนั้น ส่วนการกำหนดกรอบงบประมาณ ซึ่งหากใช้งบประมาณของบัญชีกลางวงเงินไม่เกิน 600 ล้านบาท ก็สามารถเป็นอำนาจที่นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สามารถพิจารณาได้ โดยไม่ต้องนำเสนอ ครม."
นายประเสริฐ กล่าวว่า อยากขอให้รอความชัดเจนขั้นสุดท้ายก่อนว่าโครงการวินเซฟ ดังกล่าวนี้ จะไม่มีการปรับเปลี่ยนขั้นตอนและเงื่อนไขอะไร ดังนั้น ในเรื่องของวงเงิน และระยะเวลาในการช่วยเหลือจึงยังไม่สามารถสรุปได้ในตอนนี้ จึงอยากให้ประชาชนรอฟังแผนของโครงการที่ชัดเจนที่เป็นข้อสรุปสุดท้ายก่อนประกาศออกมาจะดีกว่า แต่ยืนยันว่า กระทรวงพลังงานตั้งใจที่จะช่วยเหลือประชาชนให้รอบด้าน ซึ่งตนยังหวังว่าจะมีการพิจารณาในเร็ว ๆ นี้ เพื่อเป็นของขวัญปีใหม่ให้กับประชาชน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโครงการวินเซฟเฟสที่ 1 นั้น จากข้อมูลของผู้มีสิทธิ์ที่ขึ้นทะเบียนกับกรมขนส่งทางบกมีจำนวนสิทธิรวม 106,655 ราย (จากการตรวจสอบข้อมูลกับกรมการขนส่ง ณ วันที่ 22 มีนาคม 2565) โดยได้รับสิทธิช่วยเหลือค่าน้ำมันในรูปแบบรัฐร่วมจ่าย 50% ไม่เกิน 50 บาท ต่อคน ต่อวัน และไม่เกิน 250 บาท ต่อคน ต่อเดือน ตั้งแต่เดือนพ.ค. – ก.ค. 2565 เพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการลดภาระประชาชนจากการปรับขึ้นค่าโดยสาร
พร้อมทั้งให้ยกเว้นภาษีเงินได้บุคคลธรรมดาสำหรับผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์สาธารณะที่ได้รับเงินจากโครงการบรรเทาผลกระทบราคาน้ำมันกลุ่มเบนซิน โดยภาครัฐจะมีภาระค่าใช้จ่ายรวมประมาณ 79.992 ล้านบาท ซึ่งจะทำให้ขอบเขตการช่วยเหลือค่าน้ำมัน ครอบคลุมทั้งน้ำมันเบนซิน และน้ำมันแก๊สโซฮอล์ และสามารถให้ความช่วยเหลือกลุ่มเป้าหมายได้อย่างคล่องตัวด้วย
สำหรับโครงการวินเซฟเฟสใหม่นี้ จะโฟกัสจุดที่ต้องแก้ไขจากโครงการวินเซฟเฟสแรกคือ ปัญหาวินมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่ขึ้นทะเบียนไว้กับกรมขนส่งทางบกแล้วหมดอายุระหว่างโครงการฯ จึงต้องดึงงบประมาณกลับมา ดังนั้น จะต้องชี้แจงกับผู้เข้ารับโครงการฯ ให้เข้าใจร่วมกัน และให้เวลาในการลงทะเบียน เป็นต้น ซึ่งมอเตอร์ไซค์รับจ้างที่เคยร่วมโครงการน่าจะมีความเข้าใจและมีการแนะนำกับกลุ่มวินมอเตอร์ไซค์ด้วยกันเองได้ จึงมองว่าการใช้งานโครงการเฟสใหม่นี้จะไม่มีปัญหาอะไร สำหรับสถานีบริการน้ำมันก็เชื่อว่าจะประสงค์เข้าร่วมโครงการอย่างพร้อมเพียง เพราะหากปั๊มใดไม่เข้าร่วมโครงการฯ ก็อาจจะเสียลูกค้ากลุ่มดังกล่าวไป
Tuyên bố từ chối trách nhiệm: Bản quyền của bài viết này thuộc về tác giả gốc. Việc đăng lại bài viết này chỉ nhằm mục đích truyền tải thông tin và không cấu thành bất kỳ lời khuyên đầu tư nào. Nếu có bất kỳ hành vi vi phạm nào, vui lòng liên hệ với chúng tôi ngay lập tức. Chúng tôi sẽ sửa đổi hoặc xóa bài viết. Cảm ơn bạn.